“ธีระชัย” ฟันธง แจกเงินดิจิทัลไม่ตรงปก กู้เงิน 5 แสนล้าน มาแจกส่อผิดกฎหมายทำไม่ได้
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ในฐานะประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ โพสต์เฟสบุ๊ค Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ว่า
แจกเงินดิจิทัลไม่ตรงปก
ข่าวระบุว่า
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน นายกรัฐมนตรีเศรษฐา ได้แถลงความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัล
ระบุว่า รัฐบาลได้ข้อสรุป จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 600,000 ล้านบาท
อยู่ในดิจิทัลวอลเล็ต 500,000 ล้านบาท ครอบคลุม 50 ล้านคน และอีก 1 แสนล้านบาท ในกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ
โดยทั้งหมด จะต้องผ่านกระบวนการตามกฎหมาย
ผมตั้งข้อสังเกตว่า
หนึ่ง อาจฝ่าฝืน พรบ.วินัยการเงินฯ มาตรา 9 วรรคสาม
ซึ่งบัญญัติว่า
"คณะรัฐมนตรีต้องไม่บริหารราชการแผ่นดินโดยมุ่งสร้างความนิยมทางการเมืองที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว"
เนื่องจากสถานะตัวเลขเศรษฐกิจไทย ยังไม่ได้เลวร้าย ยังไม่มีปัญหาตัวเลข จีดีพี ถึงขั้นติดลบ ยังไม่มีวิกฤตฟองสบู่แตกในตลาดโลก
ผมจึงมีความเห็นว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 500,000 ล้านบาท ที่ไม่ใช่โครงการเพื่อเพิ่มความสามารถของประเทศ นั้น
ย่อมอาจถูกตีความได้ว่า เข้าข่ายมุ่งสร้างความนิยมทางการเมือง
และเนื่องจากมีนักวิชาการมากมาย ที่ทักท้วง เตือนว่าโครงการที่เน้นอุดหนุนกรรอุปโภคบริโภค แต่ไม่เพิ่มขีดความสามารถเช่นนี้ จะเพิ่มหนี้สาธารณะ
อันอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนในระยะยาว
พรบ.นี้ จึงอาจฝ่าฝืน พรบ.วินัยการเงินฯ
สอง ไม่ได้พัฒนาประเทศสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
ระบุว่าจะใส่เงินในกระเป๋าดิจิทัล แต่ไม่ใช่เงินดิจิทัล
โครงการนี้ที่เดิมโปรโมทว่า จะเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินใหม่ให้แก่ประเทศ อันจะทำให้พัฒนาสู่เศรษฐกิจดิจิทัลแบบก้าวกระโดด
โปรโมชันดังกล่าว จึงไม่เป็นความจริง
แต่โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 500,000 ล้านบาท มีสภาพเป็นเพียงการใช้นโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภคแบบพื้นๆ เท่านั้น
สาม เปิดตลาดส่วนลด
เนื่องจากรัฐบาลยังกำหนดเงื่อนไข ที่ฝืนธรรมชาติความเดือดร้อนระดับครัวเรือนของประชาชน
เช่น ห้ามเอาไปชำระหนี้ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ ห้ามเอาไปซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง ห้ามเอาไปจ่ายค่าเทอมค่าเรียนของลูก
ดังนั้น ข้อวิจารณ์ว่า จะมีบางร้านค้าที่เปิดช่องให้ประชาชนซื้อสินค้าด้วยเงินดิจิทัล ขายคืนในราคาส่วนลด เพื่อรับเงินบาทตามปกติ จึงยังมีผลอยู่
การที่รัฐบาลทำโครงการ อันก่อให้เกิดการค้าส่วนลดเช่นนี้ ย่อมเป็นการไม่เหมาะสม
สี่ เอื้อประโยชน์แก่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่มากกว่า
ในรูปข้างล่างจะเห็นว่า ภายหลังจากท่านนายกแถลงข่าว ราคาหุ้นของร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ได้ขยับสูงขึ้นพอสมควร
ร้านค้าปลีกขนาดเล็กจะมีปัญหา เพราะในอดีต เมื่อเคยเข้าร่วมโครงการในสมัยรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์
ปรากฏว่าบางรายถูกประเมินภาษีเพิ่มขึ้น จึงอาจเป็นอุปสรรคที่ร้านค้าขนาดเล็กจะเข้าร่วมโครงการ
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าว ได้ตัดพ่อค้าหัวมุมถนน และแม่ค้าเท้าเปล่าในตลาดข้างบ้าน ออกไปโดยสิ้นเชิง
โครงการที่เอื้อประโยชน์แก่ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่มากกว่า จึงกลับจะเพิ่มปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย
(เพิ่มเติม
ห้า การกู้เงินไม่ตรงกับที่ชี้แจง กกต
พรรคเพื่อไทยชี้แจงแหล่งที่มาของเงิน สำหรับโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่าจะมาจากงบประมาณ
แต่บัดนี้ เปลี่ยนไปเป็นการเสนอพระราชบัญญัติต่อรัฐสภา เพื่อกู้หนี้สาธารณะ
จึงเป็นการดำเนินการ ที่ไม่ตรงกับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แก่ประชาชน และผมไม่แน่ว่า จะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือใหม่
ผมจึงขอให้กำลังใจท่านนายก
ท่านคงจำเป็นต้องเดินหน้า เพราะท่านได้ชูธงเรื่องนี้ในการหาเสียงเอาไว้เต็มที่
แต่เมื่อเดินหน้าไปแล้ว ถ้าเรื่องไม่ผ่านคณะรัฐมนตรี หรือเรื่องไม่ผ่านรัฐสภา
ก็อาจจะมีประชาชนเรียกร้อง ให้ท่านต้องแสดงความรับผิดชอบ
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566