นักวิชาการ ชี้ ปมดิจิทัลวอลเล็ต เปรียบสภาวะทางสองแพร่งของรัฐบาล หาก พ.ร.บ.กู้เงินไม่ผ่านสภา-ศาลรัฐธรรมนูญ นายกฯ ต้องรับผิดชอบ
นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ระบุ กระแสวิจารณ์นโยบายดิจิทัล วอลเล็ตของรัฐบาลว่าไม่ตรงปก ว่า เป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยเดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ดี เปรียบเป็นสภาวะทางสองแพร่งสำหรับรัฐบาลพอสมควร เพราะเป็นนโยบายหลักที่ใช้หาเสียง ถ้าเกิดถอยก็จะเกิดคำถาม ขณะที่พรรคเพื่อไทยเองก็ไม่สามารถล้มเลิกนโยบายนี้ได้ ต้องยอมรับว่าในช่วงของการข้ามขั้วทางการเมือง เครดิตและความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทย ก็เป็นปัญหาใหญ่ แต่เมื่อข้ามขั้วแล้วนโยบายและผลงานก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ
“พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจะถอยเรื่องนี้ไม่ได้ ขณะเดียวกันถ้าเดินหน้าก็จะต้องถูกกระบวนการตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน เช่น ป.ป.ช. ซึ่งมีคณะทำงานขอข้อมูลหลายเรื่อง รวมถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปดูทั้งหมด หรือแม้การถูกวิจารณ์จากสังคม ก็ถือเป็นส่วนสำคัญการตรวจสอบเหมือนกัน รวมถึงข้อกฎหมายต่าง ๆ เช่น กฎหมายวินัยการเงินการคลัง เรื่องการเสนอพ.ร.บ.กู้เงินจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะมีคนไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือหรือไม่ จะคล้ายกับกฎหมายเงินสองล้านล้านบาทในสมัยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุกอย่างถือเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางกฎหมายและทางการเมืองด้วย” นายยุทธพร กล่าว
เมื่อถามว่าหากสุดท้ายกฎหมายไม่ผ่านทั้งชั้นสภาฯ หรือศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอย่างไร นายยุทธพร กล่าวว่า ปกติตามธรรมเนียม นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบ แม้ว่ากฎหมายไม่ได้เขียนเอาไว้ ว่าจะต้องทำอย่างไรในกรณีกฎหมายสำคัญไม่ผ่าน แต่คงต้องแสดงความรับผิดชอบ
