ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา กระแส ‘Speacialty Coffee’ มาแรงไม่ใช่น้อยในเหล่าชาว ‘คอฟฟี เลิฟเวอร์’ บ้านเรา ทำให้ อิมแพ็ค รวบตึงผลิตภัณฑ์-อุปกรณ์-กาแฟพิเศษ ในงาน Coffee Playground
ธนวัฒน์ ชยุตดิษย์กุล ผู้บริหาร The Coffee Academics หรือ TCA ร้านกาแฟแบรนด์ชั้นนำจากประเทศฮ่องกง (ในเครือร้านอาหารอิมแพ็ค) ที่ปรึกษาการจัดงาน ‘Coffee Playground’ กล่าวว่าตลาดกาแฟปัจจุบันเติบโตเป็นอย่างมาก โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดกาแฟพิเศษหรือ Specialty Coffee เป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่ต้องการดื่มกาแฟที่รสชาติแตกต่าง มีความซับซ้อนของกลิ่นและรสชาติ มากกว่ากาแฟที่เคยสัมผัสกันมา
นอกจากนี้การที่ อิมแพ็ค ทำธุรกิจร้านกาแฟเองด้วย จึงเห็นชัดเจนถึงความต้องการของผู้บริโภคกาแฟ Specialty นั้นมีสูงมาก ทั้งนี้ เพื่อตอบรับกับการเติบโตของตลาดกาแฟ Specialty และต้องการให้แบรนด์ TCA เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างนักดื่ม นักชง ส่งเสริมตลาดกาแฟคุณภาพให้เติบโตต่อเนื่อง
จากแนวโน้มดังกล่าว อิมแพ็ค เตรียมจัดงาน ‘Coffee Playground’ เป็นครั้งแรก ด้วยแนวคิดบรรยากาศสนามเด็กเล่นในธีม Coffee, Human and Nature พร้อมรวบรวมสินค้าและบริการเกี่ยวกับกาแฟ สเปเชียลตี้ (Specialty Coffee) จากแบรนด์ต่างๆ พร้อมกิจกรรม Workshop ระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม ปีนี้ ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. ณ ลานริมทะเลสาบเมืองทองธานี
“งาน Coffee Playground วางคอนเซปต์เป็นการสร้างสนามเด็กเล่นขึ้นมา สำหรับผู้ที่รักการดื่มกาแฟจะ Specialty หรือยังก็ตาม โดยทุกคนสามารถเข้ามาร่วมสนุกกับการค้นหารสชาติกาแฟที่ตัวเองชื่นชอบ เป็นการเปิดประสบการณ์รับรสชาติของกาแฟที่อาจจะไม่เคยดื่ม ซึ่งแตกต่างกันไปจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ต่างๆ กระบวนการแปรรูปกาแฟ หรือการชงกาแฟแบบไหน สามารถร่วมเปิดประสบการณ์ได้ที่สนามเด็กเล่นกาแฟแห่งนี้”
พร้อมวางเป้าหมายว่า จะต่อยอดกิจกรรมภายใต้คอนเซปต์นี้ในอนาคต ในรูปแบบเป็นลักษณะเหมือน Playground เคลื่อนที่ได้ สามารถไปจัดงานตามสถานที่ต่างๆ พร้อมนำความสนุกของแต่ละช่วงเวลาใส่เป็นธีมงาน โดยในครั้งแรกนี้ใช้ธีม Coffee, Human and Nature เป็นการเชื่อมโยงของกาแฟ คนปลูก คนชง คนดื่ม และธรรมชาติ
นอกจากนี้ ภายในงานฯ ยังได้รวบรวมสินค้าและบริการเกี่ยวกับกาแฟ สเปเชียลตี้ (Specialty Coffee) อาทิ วัตถุดิบ เมล็ดกาแฟสายพันธุ์ต่างๆ อุปกรณ์ เครื่องชงกาแฟ แก้วกาแฟ จากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ DOiTUNG, Brewlab, Tabla, Crack and Co, I roast coffee therefore I am, Brave Roaster, SUDRIT NAN และอื่นๆ อีกกว่า 30 บูธ พร้อมด้วยกิจกรรม Workshop มากมาย เช่น กาแฟ Signature จากทาง MONIN ชมสาธิตการทำลาเต้อาร์ตจากเหล่าคนดัง เมื่อศิลปะการทำกาแฟมาเจอกับศิลปะการวาดภาพกับทาง Freddiepp เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้จัดกิจกรรมตอบโจทย์วิถีแห่งความยั่งยืน ‘ขยะเป็นศูนย์ (Zero Waste)’ โดยมีพันธมิตรอย่าง Same Thang มารับเทิร์นซองเมล็ดกาแฟเปลี่ยนขยะเป็นกระเป๋าสุดชิค รวมถึงมุมกระบะตักกากกาแฟ ซึ่งผู้ออกบูธสามารถนำกากกาแฟที่ใช้แล้วในแต่ละวันมาใส่กระบะกลางเพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานตักกลับบ้านไปใช้ประโยชน์ เช่น ใช้ทำปุ๋ยในการปลูกต้นไม้ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีธาตุไนโตรเจนสูง
พร้อมรวมอุปกรณ์แคมป์ปิ้งมาจัดแสดงและจำหน่ายในราคาลดพิเศษ และมุมนัดพบปะสังสรรค์พร้อมให้ทุกคนอิ่มอร่อยกับอาหารเครื่องดื่ม ณ ลานริมทะเลสาบเมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 10-12 มีนาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น.
อนึ่ง จากข้อมูลตลาดกาแฟปรุงสำเร็จของประเทศไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ปีละกว่า 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกาแฟที่ปรุงนอกบ้านหรือที่เรียกว่ากาแฟสดตามร้านต่างๆ ประมาณ 20,000 ล้านบาท และอีก 30,000-40,000 ล้านบาทเป็นกาแฟที่ปรุงในบ้าน
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือ 'ดีพร้อม' เผยข้อมูลปัจจุบันไทยบริโภคกาแฟในประเทศสูงถึง 70,000 ตันต่อปี ขณะที่ไทยผลิตได้เองเพียง 10,000 ตันต่อปี ที่เหลือนำเข้าทั้งหมด อีกทั้งจากการศึกษาข้อมูลตลาดกาแฟโลกฟคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดกาแฟในช่วงปี 2564-2566 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องปีละ 9% คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1.91 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ชี้ให้เห็นว่าโอกาสเติบโตของกาแฟไทยยังมีอีกมาก