เศรษฐกิจไทยปี’67 โตได้ 3.2% ไม่รวมเงินดิจิทัลวอลเล็ท

เศรษฐกิจไทยปี’67 โตได้ 3.2% ไม่รวมเงินดิจิทัลวอลเล็ท
ม.หอการค้าไทยประเมินเศรษฐกิจปีนี้โตเฉลี่ย 2.2-4.5 % ลุ้นความชัดเจนเงินดิจิทัลวอลเล็ทหนุนจีดีพีขยับ   ชี้ท่องเที่ยว-การบริโภคภายในเป็นปัจจัยบวกให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย  อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจเปิดเผยถึงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566-2567 ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2567 คาดการณ์จีดีพีจะขยายตัวได้ 3.2%  กรณียังไม่รวมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 5 แสนล้านบาท ในขณะที่การส่งออกกลับมาขยายตัว 3% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 2%  หนี้ครัวเรือนปรับลดลงมาอยู่ที่ 87.8% ต่อจีดีพี และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35 ล้านคน

ทั้งนี้มีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของภาคการท่องเที่ยว, การบริโภคภาคเอกชนยังขยายตัวในเกณฑ์ดี, การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัว, การส่งออกขยายตัว, อัตราเงินเฟ้อมีสัญญาณชะลอตัว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่

ขณะเดียวกันปัจจัยเสี่ยงที่ต้องระวังคือ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์มีแนวโน้มขยายขอบเขตมากขึ้น , เศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวที่ชะลอลง,การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนยังมีข้อจำกัด,หนี้สินภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ยังสูงกดดันการบริโภคและการลงทุน ,ปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงกว่าปีก่อน และหุ้นกู้ที่ครบกำหนดปริมาณมากอาจกดดันให้บจ.ขนาดกลางและเล็กเสี่ยงล้มละลาย

ทั้งนี้ได้จัดทำสมติฐานในการประเมินเศรษฐกิจไว้ 4 กรณี คือ 1.กรณีที่แย่ สงครามอิสราเอล-ฮามาสยืดเยื้อ ทำให้เศรษฐกิจโลกซึมตัว วิกฤติในทะเลแดง กดดันการส่งออก มองว่าจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 2.2% 2. กรณีฐาน เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ธนาคารกลางของประเทศใหญ่เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศยังขยายตัว  สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศค่อนข้างมีเสถียรภาพ เศรษฐกิจขยายตัวได้ 3.2%

 

3.กรณีที่ดีกว่า หรือ เมื่อมีโครงการดิจิทัลวอลเล็ท มีผู้ได้รับสิทธิเพียง 90% ใช้งบประมาณ 400,000 ล้านบาท จะทำให้จีดีพี ขยายตัว 4.2% และ4.กรณีที่ดีที่สุด มีผู้ได้รับสิทธิ ดิจัล วอลเล็ททุกคน ใช้งบประมาณ 500,000 ล้านบาท คาดเศรษฐกิจขยายตัวได้ 4.5%

 

อย่างไรก็ตามในปี67 ภาพรวมเศรษฐกิจมีทั้งเสี่ยง ทั้งลุ้น โดยเฉพาะสถานการณ์สงครามอิสราเอล ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจบานปลายออกไป ในขณะที่โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ท ยังต้องลุ้นว่ามาตรการจะผ่านหรือไม่ ทั้งจากคณะกรรมการกฤษฎีกา การประชุมรัฐสภา ส.ส.และสว. ซึ่งหากไม่ผ่านความเห็นชอบรัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆมาทดแทนหรือไม่

“ปีนี้วางกรอบจีดีพีไว้กว้าง ขยายตัวตั้งแต่ 2.2-4.5%เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่มองสมมติฐานเศรษฐกิจโลกโตได้ 3%  ราคาน้ำมันดิบ 75-85 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนมาตรการ Eazy E- Receipt จะทำให้เกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจ 6.2 หมื่นล้านบาท มีผลต่อจีดีพีเกือบ 3 หมื่นล้านบาท”

สำหรับเศรษฐกิจไทยปี 2566 ม.หอการค้าไทย ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.5% จากเดิม 3%  เนื่องจากเศรษฐกิจไตรมาส 3/66 ขยายตัวได้เพียง 1.9% ต่ำกว่าที่คาดไว้ ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวจีน ฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาด รวมถึงแรงขับเคลื่อนทางการคลังที่ลดลงจากผลของการที่ยังไม่มี พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ทำให้การใช้จ่ายในส่วนของการอุปโภค-บริโภค และการลงทุนภาครัฐยังไม่เกิดขึ้น

ส่วนการส่งออกปี 66 คาดว่าจะติดลบ 0.9% จากเดิมคาดว่าจะติดลบ 2% ด้านการนำเข้าคาดว่าจะติดลบ 2.3% จากเดิมคาดว่าจะติดลบ 2.5% ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1.3% จากเดิมคาด 1.8%  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

TAGS: #เศรษฐกิจปี67 #ดิจิทัลวอลเล็ท #ส่งออก