รมช.คลัง รับ งบ67 งบผูกพัน มรดกรัฐบาลก่อน แจงงบดิจิทัล ใช้จากเงินกู้  เพื่อความโปร่งใส

รมช.คลัง รับ งบ67 งบผูกพัน มรดกรัฐบาลก่อน แจงงบดิจิทัล ใช้จากเงินกู้  เพื่อความโปร่งใส
รมช.คลัง ยอมรับ งบ67 ไม่แตกต่างจากรัฐบาลก่อนหน้า เป็นงบผูกพัน แจงงบดิจิทัลวอลเล็ต ไม่มีในรายการ เพราะต้องใช้งบจากพ.ร.บ.กู้เงิน เพื่อความโปร่งใสตรวจสอบได้ 

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง  ชี้แจงข้อสงสัยของสามชิก สส.ในสภา เรื่องร่าง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2567 ว่า ในส่วนงานราชการ พวกเราได้จดและบันทึกและได้รับข้อสังเกตเหล่านั้นไปพิจารณา แน่นอนเป็นภาระของพวกเราทุกคนที่จะนำไปปรับแก้ ปรับลด ส่วนข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์เราขอน้อมรับไว้ ส่วนที่เป็นเรื่องวาทกรรมเราคงไม่ไปตอบ ทั้งเรื่อง "เป็ดง่อย" หรืออะไรต่างๆ

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า กลไกเรื่องงบประมาณปี 2567 คือ ค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลจะนำไปใช้เพื่อประชาชน เป็นกลไกสำคัญแก้ปัญหา แต่ก็มีกลไกสำคัญอื่นๆ ในการแก้ปัญหาอีกนอกจากเรื่องงบประมาณปี 2567 มันยังมีการแก้ไขปัญหาอีกมากมายจากการใช้เงินของภาครัฐที่ไม่เกี่ยวงบประมาณ อย่างเรื่องการลดราคาพลังงาน เรื่องงบแก้รัฐธรรมนูญ หรือทำประชามติ อะไรก็ไม่มีในเล่มขาวคาดแดงของภาครัฐจึงไม่ปรากฏอยู่ เพราะยังไม่มีหน่วยงานใดขอมาได้ เพราะยังไม่มีโครงการเข้ามา

สุดท้ายเมื่อมีคำสั่งจาก ครม.จึงจะมีคำขอเข้ามา ใน ครม.จึงอนุมัติงบประมาณได้ ยืนยันรัฐบาลมีความจริงใจ และมีงบประมาณเพียงพอ

ส่วนที่ตั้งคำถามว่า งบประมาณ 67 ฉบับนี้ไม่มีความแตกต่างจากรัฐบาลก่อนหน้า รมช.คลัง กล่าวยอมรับว่า เป็นการรับมรดกของรัฐบาลชุดก่อนหน้า มันก็เป็นเช่นนั้นจริง เพราะมีการส่งต่อเรื่องบางอย่างต่อเนื่องมา ซึ่งเราไม่สามารถไปปรับออกได้ แต่อย่างไรก็ตามมีการปรับแก้ วันแรกที่เราเข้ามาเป็นรัฐบาลก็มีการสั่งให้ปรับแก้ อย่างกลไกงบประมาณ 1 ค่าใช้จ่ายตามสิทธิ์ 1.4 ล้านล้านบาท หมายความว่าต้องบรรจุ 2 ค่าใช้จ่ายตามข้อผูกพัน ตาม พ.ร.บ.ประระมาณปี 2561 เป็นไปตามกฎหมายกำหนด 3. ค่าใช้จ่ายพื้นฐาน 5 แสนล้านบาทถ้วน ทั้งหมดประมาณ 2.5 ล้านล้านไปแล้ว ค่าใช้จ่ายบริหารจัดการได้เพื่อประโยชน์ประชาชน 1.5 ล้านล้านบาทเศษ เป็นค่าใช้จ่ายที่นายกฯ แถลงไปแล้ว ทั้งลดหนี้สิน


ส่วนเรื่องกองทุนเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรม เป้าหมาย 1.5 หมื่นล้านบาท เราจะมีการเติมเงินเข้าไปเป็นจังหวะจะโคน คงไม่สามารถเติมเข้าไปในครั้งเดียวได้เพราะจะไม่เกิดประโยชน์ ยืนยันจะเกิดขึ้นแน่นอนใน 2-3 ปีข้างหน้า

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า กรณี "เงินดิจิทัลวอลเล็ต" ขอเรียนว่า มีการปรับเปลี่ยนเรื่องแหล่งที่มาของเงินจริงๆ กลไกในการเปลี่ยนเพราะรัฐบาลอยากสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบได้ สาเหตุแรกที่เปลี่ยนเป็น พ.ร.บ.กู้เงิน เพราะในการใช้งบประมาณแผ่นดินเป็นการเปลี่ยนมือจากภาครัฐใช้เปลี่ยนเป็นพี่น้องประชาชนเป็นคนใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ กลไกเหมาะสม คือ หาแหล่งเงินใหม่ ควรมีแหล่งเงินจากภายนอกเข้ามา เพื่อเติมเม็ดเงิน เราต้องการเติมเงินส่วนหนึ่งขึ้นมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เศรษฐกิจของไทย ดังนั้นกลไกเปลี่ยนไปจริง จึงไม่เห็นเงินดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ในงบประมาณปี 67

TAGS: #ดิจิทัลวอลเล็ต #ประชุมสภา #อภิปรายงบปี67