MQDC เผยคืบหน้าโปรเจ็กต์เมืองต้นแบบ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ทุกโครงการแล้วเสร็จกว่า 70% พร้อมโอนยูนิตตามแผนให้ลูกบ้าน เข้าอยู่อาศัยได้ปี 2567
‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ (The Forestias By MQDC) อีกหนึ่งโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับเวริลด์ คลาส และมีขนาดใหญ่สุดในไทย ด้วยมูลค่าโครงการฯ กว่า 125,000 ล้านบาท มีขนาดพื้นที่ 398 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราด กม. 7 พัฒนาโครงการฯภายใต้แนวคิด เมืองแห่งแรกของโลกที่ออกแบบทุกมิติให้รองรับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีและมีความสุข พร้อมตั้งในทำเลสำคัญประตูสู่โครงการระเบียบเศรษฐกิจภาคตะวันออก
สำหรับ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ประกอบไปด้วยโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบ ทั้งคอนโดมิเนียมแบรนด์วิสซ์ดอมและมัลเบอร์รี โกรฟ ที่อยู่อาศัยแบรนด์มัลเบอร์รี โกรฟ วิลล่า ดิ แอสเพน ทรี และซิกส์เซนส์ รวมถึงโรงแรมแบรนด์ ‘ซิกส์เซนส์’
นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ เช่น ศูนย์การแพทย์และสุขภาพขนาดใหญ่ พื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ พื้นที่สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร คาเฟ่ Family Center และ Town Center สำหรับกิจกรรมของชุมชนและกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น โรงละคร อีเวนต์ฮอลล์ และตลาด
กิตติพันธุ์ อุยามะพันธุ์ ประธานผู้อำนวยการ โครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ภายใต้ บริษัท แมกโนเลีย จำกัด (มหาชน) หรือ MQDC ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ กล่าวว่า ความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยภายในโครงการ The Forestias หลายโครงการคืบหน้าไปมาก ซึ่งโครงการที่พร้อมเริ่มโอนให้ลูกบ้านได้ตั้งแต่ต้นปีนี้ ได้แก่
1.โครงการคอนโดมีเนียมภายใต้แบรนด์ Whizdom 3 โครงการ
- วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ มายโทเปีย (Whizdom The Forestias Mytopia)
- วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ เดสทิเนีย (Whizdom The Forestias Destinia)
- วิสซ์ดอม เดอะ ฟอร์เรสเทียส์ เพทโทเปีย (Whizdom The Forestias Petopia)
ทั้งนี้ สามโครงการแรกดังกล่าว แต่ละโครงการได้รับการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกัน เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน
2.โครงการ มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า (Mulberry Grove The Forestias Villas) ซึ่งเป็นคลัสเตอร์โฮม พัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์เพื่อการอยู่อาศัยร่วมกันของครอบครัวใหญ่ หลายเจนเนอเรชั่นอย่างมีความสุข
และ มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คอนโดมิเนียม (Mulberry Grove The Forestias Condominiums) ก็มีการก่อสร้างคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วกว่า 70% คาดว่าพร้อมทยอยโอนให้กับลูกบ้านได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้เช่นกัน
กิตติพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า โครงการที่ร่วมมือกับ Baycrest สถาบันการดูแลสุขภาพคนวัยอิสระ ซึ่งเป็นสถาบันดูแลสุขภาพชั้นนำของโลกจากแคนาดา มาร่วมออกแบบที่อยู่อาศัย พร้อมระบบต่างๆ เพื่อรองรับผู้อยู่อาศัยวัย 50+ หรือวัยอิสระ ให้กับ ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์ (The Aspen Tree The Forestias) ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปถึง 70% ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้วเช่นกัน คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดพร้อมโอนได้ในเดือนเมษายนปีนี้
โครงการ ดิ แอสเพน ทรี เป็นที่อยู่อาศัยคอนเซ็ปต์ใหม่ของโลก ที่เน้นการดูแลตลอดชีวิต หรือ Lifetime Care จึงต้องการให้ผู้สนใจได้สัมผัสประสบการณ์จริง ซึ่ง Independent Living Community นี้ จะเน้นสร้างให้เสร็จสมบูรณ์แล้วจึงเปิดขายอย่างเป็นทางการ เนื่องจากการตัดสินใจหลักของผู้ซื้อ จะเน้นไปที่มาตรฐานการดูแล และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในโครงการ จึงจะพร้อมเปิดชมภายในโครงการจริงในเดือนกุมภาพันธุ์ 2567 เป็นต้นไป
ขณะเดียวกัน โครงการแบรนด์ระดับโลก “ซิกส์เซนส์ (Six Senses)” โครงการที่อยู่อาศัยลักซูรีสไตล์รีสอร์ทแห่งแรกของแบรนด์ Six Senses ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับการบริหารโดย Six Senses ก็ก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์ คาดว่าพร้อมทยอยโอนให้กับลูกบ้านได้ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีหน้าเช่นกัน
นอกเหนือจากโครงการข้างต้น เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังได้เริ่มพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เพิ่งเปิดตัวใหม่เมื่อกลางปีที่ผ่านมา อย่าง “The Forestias Signature Series” (เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์) ซึ่งโครงการเหล่านี้จะทยอยพร้อมโอนให้กับลูกบ้านได้ในปี 2568
พร้อมกันนี้ ยังมี Happitat at The Forestias (แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์) ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ บนพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตร เพื่อให้ทุกคนทุกวัยได้มาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆตลอดจนสัมผัสการช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อทั้งในโลกจริงและโลกดิจิทัล
เพราะเป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารชั้นนำในคอนเซ็ปต์พิเศษกว่า 300 ร้านค้า รวมทั้งมีแบรนด์แฟชั่นและแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำอีกมากมาย
นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะเป็นแลนด์มาร์คแห่งการเฉลิมฉลองความสุขในทุกเทศกาล โดยจะทำงานร่วมกับศิลปินทั้งในระดับประเทศและระดับโลก รวมถึงการนำความบันเทิงในระดับเวิลด์คลาสเข้ามาจัดแสดงเพื่อตอกย้ำภาพเดสติเนชั่นของความสุขเหนือจินตนาการให้สมบูรณ์แบบ Happitat at The Forestias (แฮปปี้แทท แอท เดอะ ฟอเรสเทียส์) มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้วเสร็จ 70% รวมทั้ง The Hilltop Offices พื้นที่ออฟฟิศให้เช่าที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้วเสร็จ 60% และจะเสร็จสมบูรณ์พร้อมเปิดให้บริการในเดือนกันยายนปี 2567