‘อีเดน เอสเตท’ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในมือบริหาร 'ธัญทิพ เจียรวนนท์' รุ่น 3 หลานเจ้าสัวธนินทร์ ซีพี ลงเล่นในตลาดคอนโด โลว์ไรซ์ ระดับอัลตราลักซูรี 'อีเดน เอกมัย'
คิกออฟ โปรเจกต์มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาท ขายความเป็นส่วนตัวอยู่อาศัยแบบไม่หนาแน่น เป็นตัวเปิดเกมสร้างภาพจำแบรนด์ระดับ อัลตรา ลักซูรี ในตลาดอสังหา จากนี้ไป
ธัญทิพ เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอีเดน เอสเตท คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ‘อีเดน เอสเตท’ ได้เปลี่ยนชื่อมาจากบริษัท 1.6 ดีเวลล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ที่เข้ามาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เมื่อราว 6 ปีก่อนพร้อมพัฒนาโครงการคอนโดมีเนียมระดับหรูแบรนด์แรก เดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ (The Strand Thonglor)
ต่อการเปลี่ยนชื่อเป็น อีเดน เอสเตท เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาฯ กลุ่ม (Segment) อัลตรา ลักซูรี ในโครงการแรกของปี 2567 นี้ คือ ’อีเดน เอกมัย‘ มูลค่า 2,000 ล้านบาท ภายใต้แนวคิดความโลว์-เดนซิตี (Low-Density) ให้การอยู่อาศัยมีความส่วนตัว ด้วยจำนวน 17 ยูนิต เท่านั้น
สำหรับโครงการ อีเดน เอกมัย (EDEN EKKAMAI) ตั้งอยู่ในทำเลซอยเอกมัย 12 มีขนาดพื้นที่ 1-0-2 ไร่ รูปแบบคอนโดโลว์ไรซ์ (Low Rise) สูง 7 ชั้น จำนวน 17 ยูนิต ประกอบด้วย
- ห้องดูเพล็กซ์ (Duplex) ขนาด 350-391 ตร.ม. รูปแบบ 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 130 ล้านบาท
- ห้องซิมเพล็กซ์ (Simplex) ขนาด 219-224 ตร.ม. รูปแบบ 2 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ราคาเริ่มต้น 70 ล้านบาท
“โครงการอีเดน เอกมัย จะเริ่มสร้างในปี 2567 คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า หรือปี 2569 วางสัดส่วนลูกค้าต่างชาติ 49% และคนไทย 51%” ธัญทิพ กล่าว
สำหรับการพัฒนาโครงการฯดังกล่าว ที่วางตำแหน่งเป็นที่อยู่อาศัยระดับอัลตรา ลักซูรี เพื่อตอบรับกลุ่มเป้าหมายผู้มีรายได้สูง ที่เชื่อว่ายังมี ‘ความต้องการที่อยู่อาศัย’ แต่ยังต้องตอบโจทย์ความต้องการเชิงลึก 3 ด้าน ที่ อีเดน เอกมัย มองเห็นเป็นโอกาส คือ
- ทำเล-ย่านใจกลางธุรกิจ ‘สุขุมวิท’ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยดั้งเดิมของกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง รองรับคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง เมื่อเติบโตขึ้นยังมองหาที่อยู่อาศัยในทำเลเดิมเพื่ออยู่ใกล้ครอบครัว
- การออกแบบ-แนวคิดโครงการที่อยู่อาศัยแบบหนาแน่นน้อย เน้นความเป็นส่วนตัว ใส่ใจรายละเอียดให้กับผู้อยู่อาศัย และจัดการอาคารแบบเป็นส่วนตัว เช่น บริการลิฟต์ส่วนตัว
- พื้นที่ส่วนกลาง-เน้นการให้บริการด้วยประสบการณ์แบบพิเศษเฉพาะ (Exclusive) ด้วยพนักงานดูแลต่อครอบครัว อาทิ
- เล้านจ์ส่วนกลางสุดหรู
- ไพรเวท ฟิตเนส 2 ห้อง
- สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี
- ห้องซาวน่าเกลือหิมาลัยส่วนตัว
- เคาน์เตอร์ต้อนรับของโครงการพร้อมผู้ช่วยส่วนตัวที่จะคอยดูแลและอํานวยความสะดวกให้แก่ลูกบ้านแบบเอ็กซ์คลูซีฟตลอด 24 ชั่วโมง
- ที่จอดรถมาตรฐาน 300% จอดได้ห้องละ 3 คัน พร้อมบริการ อีวีชาร์จเจอร์ ทั้งหมด
โดย บริษัทยังร่วมกับ Noe & Associates ที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ระดับลักซุรีในลอนดอน ในการสร้างอัตลักษณ์แบรนด์อีเดน (Eden) ในการก้าวข้ามออกจากตลาดอสังหาริอมทรัพย์ในปัจจุบัน ที่เน้นจำนวนห้องพักอาศัยที่หนาแน่นเกินไป ทำให้ อีเดน เอกมัย มีความความแตกต่างไปจากโครงการฯที่พักอาศัยระดับหรู อื่นๆ
ธัญทิพ กล่าวเสริมว่า โครงการอีเดน เอกมัย วางตำแหน่งเป็นที่อยู่อาศัยระดับอัลตราลักซูรี เพื่อส่งมอบมูลค่าระยะยาวให้กับลูกค้า จากการซื้อที่อยู่อาศัยถือเป็นการลงทุนที่สำคัญมาก ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัท เพื่อให้ลูกค้าสามารถส่งต่อสินทรัพย์ไปยังรุ่นสู่รุ่นได้ในระยะยาว สอดคล้องกับมูลค่าที่ดินในทำเลสุขุมวิทที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ทั้งนี้ อีเดน เอสเตท วางเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำตลาดคอนโดอัลตรา ลักซูรี ของไทย จากที่ผ่านมาบริษัทได้การตอบรับดีในโครงการเดอะ สแตรนด์ ทองหล่อ ด้วยสามมารถทำอัตราค่าเช่าได้ถึง 120,000 บาทต่อเดือน เติบโตขึ้นจากราคาตลาดไม่ถึง 100,000 บาทต่อเดือน