คอนวี่ฯ สตาร์ทอัปสัญชาติไทยที่อยู่ในตลาดความงามอีคอมเมิร์ซมา 11 ปี กับการเติบโตธุรกิจแบบเท่าตัวในปีที่ผ่านมา พร้อมแผนสร้างแต้มต่อธุรกิจครั้งใหญ่เพื่อเข้าตลาดระดับภูมิภาค ด้วยการหาพันธมิตรเชิงกลยุทธ์
คิงก้วย หวง ประธานคณะผู้บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท คอนวี่ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ให้บริการเทคโนโลยีค้าปลีกสินค้าความงามบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ‘คอนวี่’ (Konvy) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจในไทยเป็นระยะเวลาร่วม 11 ปี มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 40-50% ต่อเนื่อง และในปี2565 ที่ผ่านมา ‘คอนวี่’ มีการเติบโตหนึ่งเท่าตัว
ขณะเดียวกันเมื่อเร็วนี้ๆ บริษัทยังได้ระดมเงินทุนซีรียส์เอ (Series A) รอบที่ 2 มูลค่า 11ล้านดอลลาร์สหรัฐ จาก New Day Ventures Limited ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนของ Robinsons Retail Holdings, Inc. หนึ่งในผู้ดำเนินการค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดใน ฟิลิปปินส์, Alibaba International Digital Commerce Group (Alibaba International) และนักลงทุนรายเดิม Insignia Ventures Partners
ทั้งนี้ บริษัท จะนำเงินทุนมูลค่าดังกล่าวไปใช้ในการพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง พร้อมมองหาพันธมิตรธุรกิจเชิงกลยุทธ์ (Strategic Partner) เพื่อร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์สินค้าทั่วโลกในการขยายตลาดความงามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศ ฟิลิปปินส์ มีมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อินโดนีเซีย มูลค่าราว 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงใน เวียดนาม และ มาเลเซีย ซึ่งมีขนาดและการเติบโตของตลาดสินค้าความงามคล้ายกับประเทศไทย
ส่วนแนวทางการทำธุรกิจคอนวี่ในไทย บริษัทมุ่งสู่การเป็นมากกว่าผู้ให้บริการสินค้าความงามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยลงทุนขยายธุรกิจในรูปแบบศูนย์รวมผลิตภัณฑ์ด้านความงามที่ใหญ่ที่สุดของไทยและเอเชีย ในรูปแบบวัน สต็อป เซอร์วิส เพื่อมอบประสบการณ์ซื้อสินค้าจากออนไลน์สู่ออนกราวด์แบบไร้รอยต่อ ด้วยการนำความต้องการเชิงลึกของลูกค้ามาพัฒนาปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ ล่าสุดมียอดผู้ใช้งานคอนวี่ แอปพลิเคชัน ไม่ต่ำกว่า 5-6 ล้านราย
ล่าสุดบริษัท เปิดตัวหน้าร้านคอนวี่ สาขาแรกที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ขนาดพื้นที่ 140 ตร.ม. มีสินค้าวางจำหน่ายมากกว่า 2,000 รายการ (SKUs) รองรับกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น และหน้าร้านคอนวี่ อีกหนึ่งแห่ง สาขา เดอะมอลล์ บางกะปี วางแนวคิดร้านรูปแบบ Selected Store จับกลุ่มเป่าหมายลูกค้าครอบครัว
“คอนวี่ มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี โดยจะนำบิ๊กดาตา มาใช้พัฒนาธุรกิจร่วมกับพันธมิตรกว่า 1,000 แบรนด์ และสินค้ามากกว่า 20,000 เอสเคยู นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละฤดูกาล เช่น หากเป็นหน้าร้อนจะแทร็คข้อมูลลูกค้าออกมาดูว่ามีความต้องการสินค้าประเภทไหน ก็จะนำมาจัดวางจำหน่าย พร้อมสับเปลี่ยนสินค้าต่อเนื่องเพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด และยังทำให้ร้านคอนวี่ มีความแตกต่างไปจากบิวตี สโตร์ รายอื่น” หวง กล่าว
ขณะที่ ปัจจุบัน มีสินค้าสกินแคร์ เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ขายดีเป็นหลัก และกลุ่มเครื่องสำอาง , ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล เป็นกลุ่มที่เติบโตขึ้นสูงในช่วงหลังผ่านพ้นโควิดที่ผ่านมา
หวง กล่าวเสริมว่า ตลอดระยะเวลาร่วม 11 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของธุรกิจคอนวี่ เริ่มต้นจากการทำสินค้าความงามแบรนด์เกาหลี เป็นหลัก แต่ปัจจุบันพบว่า บิวตี แบรนด์ไทย มีการเติบโตและได้รับความนิยมอย่างต่อเนทื่อง ปัจจุบันมีสัดส่วนการทำตลาดผ่านแพลตฟอร์มคอนวี่ ราว 60-70% ส่วนแบรนด์เกาหลีอยู่ที่ประมาณ 30-40% ปัจจัยหลักจากความนิยมสินค้าดังกล่าวในกลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น ในปัจจุบัน ขณะที่แบรนด์เกาหลีได้รับความนิยมลดลง
ทั้งนี้จากแนวโน้มดังกล่าว คอนวี่ มองว่าจากแผนธุรกิจที่วางไว้ข้างต้นหลังระดมทุนรอบใหม่ ยังจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันนำสินค้าความงามแบรนด์ไทย ขยายการทำตลาดในระดับภูมิภาคผ่านแพลตฟร์มคอนวี่ ได้พร้อมกันด้วย
โดยในปีนี้บริษัทคาดาดจะมีผลดำเนินการ มากกว่า 2,000 ล้านบาท และวางเป้าหมายในปี 2568 ทำรายได้แตะ 3,000 ล้านบาท พร้อมวางแผนไปสู่การเป็นธุรกิจสตาร์ทอัป ระดับยูนิคอร์น ที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2569 และขึ้นสู่การเป็นแพลตฟอร์มแบรนด์สินค้าอันดับ1 ในระดับภูมิภาค ด้วยมูลค่าบริษัทไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท ในอนาคต
อย่างไรก็ตาม สำหรับภาพรวมธุรกินจความงามในประเทศไทยในปี 2566 ที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตราว 6-7% และในปี2567 คาดเติบโตราว 5-6% สอดคล้องกับการเติบโตเศรษฐกิจ (GDP) ของไทย จากกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลงจากหลายปัจจัยลบต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมา