ชูปตท.ต้นแบบธุรกิจนวัตกรรมพลังงานสะอาด หวังดึงต่างชาติลงทุนเพิ่มแตะ 1 ล้านล้าน

ชูปตท.ต้นแบบธุรกิจนวัตกรรมพลังงานสะอาด หวังดึงต่างชาติลงทุนเพิ่มแตะ 1 ล้านล้าน
“สุพัฒนพงษ์”ยกโมเดลปตท.ขับเคลื่อนธุรกิจนวัตกรรมวางโรดแมปสู่เป้าหมาย Net Zero  เร่งบูมลงทุนอุตสาหกรรมใหม่กว่า 1 ล้านล้าน

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน กล่าวปาฐกถาพิเศษด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ในพิธีเปิดงานในงาน PTT Group Tech & Innovation Day "Beyond Tomorrow : นวัตกรรมนำอนาคต" ซึ่งจัดโดยกลุ่ม ปตท. ว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาปตท.ได้พัฒนาธุรกิจด้านนวัตกรรมจนวางรากฐานที่ดี จนมีธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้นต่อเนื่อง  โดยมีการแสวงหาการลงทุนกับต่างประเทศเพื่อนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในไทย จนทำให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ๆ

 

ทั้งนี้ได้วางโรดแมป การมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality 2050 ภายใต้การดำเนินงานใน 6 แผนงาน ประกอบด้วย 1.ภาคไฟฟ้า เพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด เช่น โซลาร์ ลม ให้มากกว่า 50% ภายในปี 2586  2. ภาคขนส่ง มุ่งส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ตามนโยบาย 30@30 และการลงทุนในสถานีอัดประจุไฟฟ้า และแบตเตอรี่

 3.ภาคอุตสาหกรรม อาคาร ที่อยู่อาศัย จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการอนุรักษ์พลังงาน ลดความเข้มการใช้พลังงาน 40% ในปี 2593 (ค.ศ.2050) 4. การลดนอกเหนือจากภาคพลังงาน(กระบวนการอุตสาหกรรม เกษตร ของเสีย) 5. ปลูกป่า และ6. ส่งเสริมมาตรการและเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Carbon Capture Utilization and Storage (CCUS)

อย่างไรก็ตามหลายคนกล่าวหารัฐบาลนี้ในเรื่องการพัฒนา  แต่ถ้ามองย้อนไปเมื่อปี 2553 การเติบโตช้า พอมาถึงปี 2554 เกิดน้ำท่วม ทำให้รัฐต้องใช้งบในการซ่อมแซมระบบโครงสร้างพื้นฐาน จนเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศและไม่มีอุตสาหกรรมใหม่มานาน

“การพัฒนาสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ช่วยสร้าง Value chain  วันนี้หากดึงนักลงทุนให้กลับมา ตัวเลขส่งเสริมการลงทุนจะเพิ่มขึ้น จากปีก่อน อยู่ที่ 6.6 แสนล้านบาท เพิ่มจนถึง 1 ล้านล้านบาท เทียบเท่ากับปีที่เคยสูงสุด”

ด้าน ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)  กล่ววว่า ว่า PTT Group Tech & Innovation Day ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ก.พ. – 3 มี.ค. 66  เป็นการจัดงานเพื่อแสดงศักยภาพด้านเทคโนโลยี และการลงทุนด้านนวัตกรรมของกลุ่ม ปตท.

 

ตลอดจนสร้างการรับรู้ทิศทางของเทคโนโลยีในอนาคต และหาโอกาสต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ทั้งจากภายในกลุ่ม ปตท. และหน่วยงานภายนอก พร้อมทั้งผลักดันการสร้างนวัตกรรมด้านพลังงานและเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Emissions

 

ทั้งนี้ปตท.ได้กำหนดงบเพื่อลงทุนธุรกิจใหม่ในสัดส่วน 30 % ของงบลงทุนปกติ ซึ่งธุรกิจใหม่ที่ให้ความสำคัญคือ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) แบบครบวงจร ธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน,ธุรกิจด้านเฮลท์แคร์,ธุรกิจด้าน AI Robotics  ที่สามารถต่อยอดไปสู่ธุรกิจสมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ได้ในอนาคต

 

“ขณะนี้บริษัทลูกที่ทำธุรกิจใหม่ๆของกลุ่มปตท.สามารถเดินหน้าไปได้ เช่น บริษัท อินโนบิก นูทริชั่น ฯขยายการลงทุนไปยังไต้หวัน และเริ่มมีงบการเงินที่เป็นบวก ส่วนบริษัท อรุณ พลัสฯ ร่วมกับ Foxconn ตั้งโรงงานผลิตรถ EV ในไทย ลงทุน 3 หมื่นล้านบาท มีกำลังผลิต 5 หมื่นคันต่อปี”