เทสล่า รุ่นที่ขายดีที่สุดในไทย ท่ามกลางวงล้อมของรถจากประเทศจีนที่ราคาถูกกว่าและให้มากกว่า
เรื่อง และ ภาพ เจษฎ์ เศรษฐบุตร
เทสล่า รุ่นที่ขายดีที่สุดในไทย ท่ามกลางวงล้อมของรถจากประเทศจีนที่ราคาถูกกว่าและให้มากกว่า
Tesla Model Y AWD Long Range ราคา 2,049,000 บาท
Tesla Model Y Performance ราคา 2,329,000 บาท
ในหมวดหมู่รถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ หากไม่รวม เทสล่า ของ อีลอน มัสก์ ซึ่งเป็น ผู้ก่อตั้ง ซีอีโอ และหัวหน้าวิศวกรของสเปซเอ็กซ์ เจ้าของและซีอีโอของบริษัททวิตเตอร์ รวมถึงบริษัทอื่นๆ รวมมูลค่าทรัพย์สินสุทธิประมาณ 181 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็คงจะไม่ได้ ซึ่งในสงครามการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยต้องยอมรับว่า ค่ายเกิดใหม่จากประเทศจีนนั้นมีหลายค่ายด้วยกัน และมาพร้อมความแรงและระยะทางที่ไกลมากขึ้น
แต่…เทสล่าก็คือเทสล่า….จากการที่ได้รับข้อมูลจากฝ่ายการตลาดเราจะเห็นได้ว่า โรงงานเทสล่านั้นสามารถสร้างชิ้นส่วนของรถขึ้นมาเองได้ ตั้งแต่งานโลหะ แบตเตอรี่ งานไฟฟ้า ไปถึงการพัฒนา แอพลิเคชั่น ทั้งหมด โดยมี ชื่อของ ซีอีโอ อีลอน มัสก์ เป็นแบคอัพสำคัญในเรื่องของ แบรนด์ อิมเมจที่เป็นระดับ World Class เท่าที่ทราบ ไม่มีการใช้อุปกรณ์ร่วมกับรถไฟฟ้าแบรนด์อื่นๆ แต่อย่างใด
ทีนี้เรามาดูกันว่า Tesla Model Y AWD Long Range ที่ดูจะขายดีที่สุดในตอนนี้ มีดีอย่างไร
เริ่มกันด้วยข้อมูลพื้นฐานก่อน
Design
มีรถไม่กี่แบรนด์ที่เมื่อเอาโลโก้ออกก็ยังคงรู้ว่าเป็นรถยี่ห้ออะไร และ Tesla ก็เป็นหนึ่งในนั้น มี การออกแบบภายนอกที่โค้งมนลดทอนแรงปะทะของลมเมื่อมีความจำเป็นต้องใช้ความเร็ว แต่ก็ยังเน้นไปในเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักด้วยจุดศูนย์ถ่วงต่ำ มีโครงโลหะสมรรถนะสูงพร้อมการออกแบบที่ป้องกันความเสียหายทั้งคนและรถ แต่สิ่งที่ผมชอบมากๆ คือ การออกแบบ คอนโซลที่เรียบในสไตล์ มินิมอล ไร้ปุ่ม น่าเกลียดๆ เกะกะสายตา รวมถึงช่องแอร์ที่มองไม่เห็น จะมีแค่ จอขนาดใหญ่ 15 นิ้ว ที่เป็นหัวใจของการสั่งงานทั้งหมด ซึ่งยังไม่รวม แอปพลิเคชัน ในมือถือที่สามารถ สั่งงานด้วย Wireless ได้ ทำให้ที่พวงมาลัยของ Tesla Model Y AWD Long Range นั้น มีปุ่มทำงานเพียงสองปุ่ม ข้างซ้าย สั่งงานด้าน Infotainment และ ข้างขวา จะคุมระบบ ของ Cruise Control ด้วย คำสั่งเสียงเป็นหลัก สามารถปรับตามสภาพจราจร โดยให้ปรับความเร็วที่ตั้งไว้และระยะทางที่คุณต้องการรักษาให้ห่างจากรถคันหน้า
Tesla Model Y AWD Long Range พกน้ำหนักมากถึง 1,979 กก. แต่ไม่ได้รู้สึกเป็นภาระอย่างไร สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 5 คน มีพื้นที่เก็บสัมภาระมากถึง 2,100 ลิตร เบาะหลังแต่ละที่นั่งพับราบแยกกันได้อย่างอิสระ ทำให้ได้พื้นที่เก็บของที่ยืดหยุ่นสำหรับสกี เฟอร์นิเจอร์ กระเป๋าเดินทาง และอื่นๆ ประตูท้ายเปิดออกไปสู่กระโปรงหลังที่ต่ำกว่า ทำให้การขนถ่ายสัมภาระทำได้ง่ายมากๆ
ระบบ Tesla Vision มาพร้อมกล้องด้านหลัง ด้านข้าง และด้านหน้าทำมุม 360° ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยสูงสุด สามารถประมวลผลภาพที่ชัดมากๆ ที่ระยะสูงสุด 250 เมตร ตรวจจับรถยนต์ใกล้เคียง ช่วยป้องกันการชนที่อาจเกิดขึ้น และช่วยในการจอดรถ รวมถึง Autopilot ทีเป็นระบบขั้นพื้นฐานที่คนขับยังต้องบังคับรถเองอยู่
การนำทางเมื่อใช้ Autopilot ประกอปไปด้วย การช่วยเหลือเปลี่ยนช่องจราจรอัตโนมัติ ระบบจอดรถอัตโนมัติ Summon แบบอัจฉริยะ ระบบควบคุมตามสัญญาณไฟจราจร และป้ายหยุด รวมถึง ระบบควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติบนถนนในเมือง
ระบบต่างๆ ที่ให้มาจะไร้ความหมายทันทีถ้าไม่มีการออกแบบระบบซอฟต์แวร์ที่ใช้งานได้สะดวก รวดเร็ว ทำงานร่วมกับกล้องติดรถรอบคัน ซึ่งการอัปเดต ซอฟต์แวร์อัตโนมัติ Over-the-air ผ่านทางดาวเทียม ของ Tesla สามารถเพิ่มและพัฒนา ฟังก์ชันการทำงาน และประสิทธิภาพใหม่ตลอดเวลา ซึ่งจากการใช้งานจริง การเชื่อมต่อ กับ ระบบนำทางที่มากับรถ ทำได้รวดเร็วมาก และการเชื่อมต่อกับมือถือก็เช่นกัน และมีความเสถียรไร้ที่ติ
มีหลังคากระจกที่กว้างช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะและป้องกันรังสียูวี เพิ่มแสงสว่างภายในรถ มาพร้อมล้อ ขนาด 19 หรือ 20 นิ้ว โดยเพิ่มเงินอีก 80,000 บาท และเบาะสีขาว ดำ ทำจากวัสดุพิเศษเป็น ออฟชั่นให้จ่ายเพิ่มอีก 50,000 บาท เช่นกันหากต้องการ มาพร้อมระบบ Regenerative ที่มีไฟเบรกขึ้นทุกครั้งที่ยกคันเร่ง ยอมรับเลยว่าดีมากที่คิดมาเผื่อ ไม่อย่างนั้นโดนชนท้ายได้ง่ายๆ จากสภาพรถติดในบ้านเรา
Power
Tesla Model Y AWD Long Range มาพร้อม ขุมกำลัง 507 แรงม้า กับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระที่มีการตอบสนองขั้นสูงสองตัว ซึ่งควบคุมแรงบิดทั้งล้อหน้าและล้อหลังแบบดิจิทัลเพื่อการควบคุม การทรงตัว และการควบคุมเสถียรภาพที่ดียิ่งขึ้น สามารถลุยฝน หิมะ โคลน และออฟโรดได้ มีอัตราเร่ง 0-100. กม. เพียง 5.0 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 215 กม. ต่อ ชม. และสามารถวิ่งได้ 533 กิโลเมตร จากการชาร์จเต็มด้วยความเร็วปกติ
Charging system
Model Y เป็นรถระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ สามารถเสียบชาร์จระหว่างทางได้ง่ายๆ ที่บ้าน หรือ สถานีสาธารณะหรือเครือข่ายการชาร์จของ Tesla Supercharger ที่ทยอยเปิดในประเทศไทย โดยมีให้เลือก สาม แบบ
Supercharger: ใช้เวลาเพียง 15 นาที สำหรับการเพิ่มระยะทาง 308 กม. ในขณะนี้ มีบริการที่ Tesla Center รามคำแหง และ อีก 11 ที่ ซึ่งสามารถดูจากแอปพลิเคชัน Tesla ได้พร้อมระบบแผนที่นำทาง
Wall Connector: ตู้ชาร์จ ติดตั้งที่บ้าน แต่ไม่ใช่ที่จอดรถใต้คอนโดมิเนียม (ซื้อเพิ่มในราคา 19,000 บาท)
Portable Charger: ที่ชาร์จแบบพกพา (ซื้อเพิ่มในราคา 10,000 บาท) สำหรับการเดินทางไกลหรือเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน มันคือหัวชาร์จต่อมือถือ ด้วยเต้ารับอะแดปเตอร์ภายในที่สามารถชาร์จพลังงานต่ำได้ถึง 7 ไมล์ต่อชั่วโมง เพื่อการชาร์จที่เร็วขึ้น สามารถซื้อเต้ารับอะแดปเตอร์สำหรับอุตสาหกรรม เพื่อให้ใช้งานได้ไกลถึง 30 ไมล์ต่อชั่วโมง ราคาไม่ได้บอกไว้
Service
เทสล่าบอกว่าการเข้าศูนย์เซอร์วิสนั้น มีดังนี้
สลับยางทุก ๆ 10,000 กม. หรือหากความลึกของดอกยางแตกต่างกัน 1.5 มม. ขึ้นไป แล้วแต่ว่ากรณีใดจะเกิดขึ้นก่อน
ตรวจสภาพความพร้อมของน้ำมันเบรกทุก 4 ปี (เปลี่ยนหากจำเป็น)
เปลี่ยนถุงดูดความชื้นระบบปรับอากาศทุก ๆ 4 ปี
เปลี่ยนไส้กรองอากาศในห้องโดยสารทุก ๆ 2 ปี
เปลี่ยนไส้กรอง HEPA ทุก 3 ปี
ทำความสะอาดและหล่อลื่นก้ามปูเบรกทุกปีหรือ 20,000 กม.
สีของรถ
มีสีดำสนิทสีเดียวที่ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม นอกนั้นคือ
เพิ่ม 50,000 บาท สีขาวมุกมัลติโค๊ต (White Water Pearl Multi Coat), มิดไนท์ซิลเวอร์เมทัลลิค (Midnight Silver Metallic) และ น้ำเงินเข้มเมทัลลิค (Ocean Blue Metallic)
เพิ่ม 80,000 บาท สีแดงมัลติโค๊ต (Red Multi Coat)
Test Drive
ผมนำ Tesla Model Y AWD Long Rage เข้า ชาร์จไฟ ในระบบ Supercharge ของ Tesla Center รามคำแหงซึ่งต้องบอกว่า ยอมขับรถมาชาร์จที่นี่ก็สบายใจดี มีหลายตู้ชาร์จมากๆ และใช้เวลาไม่นาน ที่จะเติมจาก 50% เป็น 65% ซึ่งพอเพียงกับการเดินทางไปชลบุรีเพื่อ ถ่ายรูปบนสะพานชลมาควิถี เลียบทะเล ก่อนขับไปสวนสัตว์เปิดเขาเขียว รวมระยะทางไปกลับ 210 กิโลเมตร เหลือแบตเตอรี่ 17% เมื่อส่งรถคืน Tesla Center รามคำแหง
สิ่งที่ต้องการทดสอบไม่ใช่ Top Speed เพราะ 215 กม. ต่อ ชม. เค้าบอกอยู่แล้วใน ข้อมูลรถ เช่นเดียวกับ การใช้เวลา 5 วินาที กับอัตราเร่ง 0-100 แต่ที่อยากรู้คือ
มันขับสนุกไหม? ระบบกันสะเทือนที่ให้ค่ากลางมาแบบปรับไม่ได้ทำงานเป็นอย่างไร รวมถึงความนิ่งของรถเมื่อใช้ความเร็วสูงจะเป็นอย่างไร
การขับมาบนถนน บางนา-ตราด นั้น เป็นบททดสอบช่วงล่างอย่างดี ถือว่า Tesla Model Y AWD Long Range ผ่านไปได้อย่างสบายๆ รถไม่มีอาการย้วย แม้น้ำหนักรถจะมากถึงเกือบสองตันแต่กลับไม่รู้สึกว่าเป็นภาระแต่อย่างใด ผิดหวังเล็กน้อยที่คิดว่าน่าจะมีระบบการปรับช่วงล่างเมื่อเจอการเปลี่ยนแปลงของสภาพถนน อย่างน้อยเป็น ออฟชั่นให้ซื้อเพิ่มก็ยังดี
ไม่นานผมก็ขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีมุ่งหน้าไปชลบุรี ที่ใครๆ ก็รู้ว่าลมที่พัดผ่านทางด่วนลอยฟ้าเส้นนี้ค่อนข้างแรง และมันคือบททดสอบที่ดีในการทำความเร็วสูงและมาดูกันว่า Tesla Model Y AWD Long Range จะเอาอยู่ไหม ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นับว่าค่อนข้างดี เพราะพอลองความเร็วไปแตะ 190 กม. ต่อ ชม. ต้านลมแนวขวาง มีความรู้สึกที่ไม่ค่อยมั่นใจเล็กน้อย แต่สำหรับรถครอบครัวก็ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิด
แต่..สิ่งที่ค้นพบคือ Tesla Model Y AWD Long Range ขับสนุกมาก โดยเฉพาะ การออกตัวที่เข้มข้น มันแรงได้ใจแต่ก็อยู่ในกรอบของความรู้สึกที่ปลอดภัย การเข้าโค้งกว้างๆ ไฮสปีด กลับสนุกจนเผลอใจเล่นกับความแรงของรถไปบ่อยครั้ง จนกระทั่งคนขับอยู่ในโหมด Chill ก็ดันมีโหมด Chill มาให้อีก คือมันกลายเป็นโหมดที่ชอบมากๆ เช่นกัน เพราะ ความนิ่มนวลแถมประหยัดไฟ โหมดนี้ ผู้โดยสารน่าจะชอบสุด ซึ่งเดี๋ยวจะบอกเหตุผลว่าทำไม โหมด Standard เป็นโหมดค่ากลางสำหรับใช้งานทุกวัน ไม่มีโหมด Sport มาให้ แต่การตั้งค่าพวงมาลัยนั้นมีโหมด Comfort Standrd และ Sport มาให้แทน
มาถึงสิ่งที่จำเป็นต้องมี แต่รบกวนการขับค่อนข้างมาก และเจ้าของรถต้องปรับตัว ไม่งั้นครอบครัวอาจแตกแยกได้ นั่นก็คือRegenerative Braking system หรือระบบ รีเจน ช่วยดึงพลังงานกลับเข้าแบตเตอรี่นั่นเอง ซึ่งคนขับเมื่อยกเท้าออกจากคันเร่ง จำเป็นที่จะต้องปรับให้มีความสมดุลไม่ให้เกิดแรงกระชากมากเกินไปเพราะจะทำให้ผู้โดยสารรู้สึกเวียนศรีษระและมีอาการมึนได้ โดยเฉพาะความเร็วต่ำ จึงควรฝึกให้ชิน ความเร็วสูงนั้นแรงกระชากจะไม่หนักมากจึงไม่ค่อยเป็นห่วง ส่วน Tesla เอง ให้ระบบไฟเบรกทำงานเมื่อยกคันเร่งมาด้วยถือว่าได้เครดิตนี่ไปเต็มๆ เพราะ ถ้าไม่มีไฟเบรกเมื่อยกคันเร่งโดยไม่แตะแป้นเบรค โอกาสโดนชนท้ายมีสูงมาก
บทสรุป
Tesla Model Y AWD Long Range นั้น เป็นรถแห่งอนาคตที่มาถึงปัจจุบันแล้ว ระบบการควบคุมทั้งหลายคือเหมาะกับคนทุกรุ่น ด้วยระบบ navigation ที่ตอบสนองได้รวดเร็วและแม่นยำ ลดการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ออกไปเยอะเหมือนกัน การใช้ระบบการควบคุมรถจากจอสีขนาด 15 นิ้วและมือถือ น่าจะเป็นระบบที่ไม่นาน รถทุกคันจะใช้ระบบนี้กันทั้งหมด
Tesla Model Y AWD Long Range หน้าตาอาจจะไม่ใช่รถสปอร์ทที่ดูหวือหวา แต่ในแง่ของการออกแบบให้มีคาร์แรคเตอร์ที่ชัดเจนถือว่าดี แม้ด้านหน้าจะขัดใจนิดหน่อยก็ตาม คือมันเหมือนมีคนเอาเทปกาวมาปิดปากไว้
ถ้าจะเลือก ระหว่าง Tesla Model Y AWD Long Range หรือ Tesla Model Y Performance?
ยอมรับว่า โมเดล Performance นั้น ดูหล่อ คมเข้มมากๆ กับราคา 280,000 บาท ที่เพิ่มขึ้นมา เพื่อแลกกับ ล้อขนาด 21 นิ้ว Top Speed เพิ่มเป็น 250 กม. ต่อ ชม. อัตราเร่ง 0-100 ลดลงมาเหลือเพียง 3.7 วินาที จาก 5 วินาที มีสปอยเลอร์หลังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ที่ยาวขึ้น ระบบเบรกแบบ Hi Performance รถโหลดเตี้ยลงนิดหน่อย ให้มันดูดุดันกันไป จะคุ้มหรือไม่ แล้วแต่การใช้งานและความชอบของแต่ละคน สำหรับผม Performance คือจบเลย กับชุดแต่งโรงงาน
สุดท้ายผมพยายามหาคำตอบว่าทำไมรถไฟฟ้าถึงขายดีมากๆ ช่วงนี้ และเชื่อว่าในอนาคตก็ยังคงแรงต่อเนื่องทั้งๆ ที่มีคำถามมากมายเรื่องการกำจัดขยะรถไฟฟ้าในอนาคต หรือแม้แต่เหตุการณ์ต่างๆ ในโซเชียลมีเดียที่ดูจะเป็นคำถามเรื่องความปลอดภัยหรือจุดชาร์จที่ไม่เพียงพอ
ผมมองว่ามนุษย์เงินเดือนมีค่าใช้จ่ายประจำครอบครัวหรือ Cash flow ที่จำกัด ตามฐานเงินเดือน ไม่ต้องมองเรื่องเศรษฐกิจที่ดีหรือไม่ดี ถ้ารถพลังงานไฟฟ้าสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ทันทีจากการเลิกเติมน้ำมัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มนุษย์เงินเดือนจะเลือกซื้อรถไฟฟ้าแทนรถสันดาบทันทีเช่นกัน
เหตุผลที่เหลือเป็นเรื่องของอนาคต