ปัจจุบันหลายธุรกิจได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้บริหารจัดการเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่ต้องนำเทคโนโลยี และการบริหารจัดการที่ดีเพื่อมัดใจลูกค้า
TheBetter ได้พูดคุยกับ “อาร์ท ขยล ตันติชาติวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด (Metthier) ผู้ให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) รายแรกของไทย กับแพชชั่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการที่อยากจะยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยด้วยเทคโนโลยี และนำพาประเทศไทยให้ก้าวสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
สำหรับ “ขยล ตันติชาติวัฒน์” สำเร็จการศึกษาคณะ MBA, California State University, Fullerton สหรัฐอเมริกา ในสายการตลาด เริ่มต้นการทำงานด้านการตลาดและการเงิน ก่อนเข้าสู่ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีก 10 ปี และตัดสินใจพลิกบทบาทก้าวสู่วงการเทคโนโลยี ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Metthier โดยเขาหวังว่าการทำธุรกิจจะไม่ใช่แค่การขับเคลื่อนภายในองค์กรเท่านั้น แต่ต้องสามารถขับเคลื่อนประเทศไทยได้ด้วยเช่นกัน
“Unlearn และ Relearn ภายใน 2 เดือน”
“ขยล” บอกว่าถึงแม้เขาจะมีความชื่นชอบในเรื่องของเทคโนโลยีกับธุรกิจ แต่การที่ย้ายไปทำงานที่ Metthier ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายในระดับหนึ่ง เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาต้องปรับตัวคือการเรียนรู้ใหม่ จึงมีคำว่า Unlern และ Relearn เกิดขึ้น
“ผมบอกกับตัวเองว่า เราต้อง Unlearn สิ่งที่เคยรู้มาทั้งหมดมาตลอด 10 ปี ต้องเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีให้เร็วที่สุด และมีการ Relearn ใหม่ให้เข้าใจเทคโนโลยีในเชิงลึกให้ได้ภายใน 2 เดือน นี่เป็นที่มาว่าทำไมสิ่งที่ผมทำสิ่งแรกคือการ Relearn สิ่งใหม่ๆ และปรับตัวเองก่อน พอปรับตัวเองได้แล้วค่อยมาปรับเรื่องของทีมงานรวมถึงแนวทางของธุรกิจที่จะไปต่อในอนาคต”
“สร้างความเปลี่ยนแปลงโดยไม่ทิ้งผู้ตามไว้เบื้องหลัง”
สำหรับ “ขยล” แล้วเขาเป็นคนที่ไม่ได้ยึดถือเพียงหลักการใดหลักการหนึ่งเท่านั้น แต่เขาเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่ตลอดเวลา…
“ผมเชื่อในเรื่องของการเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลารวมถึงตัวผมเองด้วย”
ภายใต้การบริหารงานที่ Metthier ของ “ขยล” เขามองว่าการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมที่มีอยู่ ‘ให้ดีขึ้นกว่าเดิม’ คือสิ่งที่เขาอยากลงมือทำ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในชีวิตของตนเองว่า ‘ทุกสิ่งที่เขาทำต้องสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นเสมอ’
"เราไม่ได้ทำเพียงแค่ธุรกิจหรือเพื่อตัวเราเอง มันต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ดีขึ้น ด้วยวิสัยทัศน์ของ Metthier คือ เราต้องการสร้างยกระดับสังคมไทย เพื่อรอยยิ้มและความอุ่นใจมากยิ่งขึ้น นั่นเป็นส่วนหนึ่งของ Metthier ที่เรานั้นได้สร้างระบบ Smart Facility Management พร้อมให้บริการไปยังภาคธุรกิจ เพิ่มศักยภาพการให้บริการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่า”
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ “ขยล” มองว่าสิ่งสำคัญไม่แพ้กับการสร้างธุรกิจที่สามารถพัฒนาประเทศได้คือ การใส่ใจพนักงานภายใต้องค์กรที่ตนเองนั้นบริหาร เพราะเขานั้นคอยย้ำเตือนตนเองอยู่เสมอว่าการเปลี่ยนแปลงของเขาจะต้องไม่ทิ้งผู้ตามไว้เบื้องหลังไม่ว่าบุคลคลเหล่านั้นจะอยู่ตำแหน่งใดก็ตาม
“สื่อสารภายในองค์กร นำมาปรับปรุง พัฒนาธุรกิจ”
ก่อนการสัมภาษณ์ ขยล เพิ่งเดินทางกลับจาก Boston, USA ที่ MIT Sloan School of Management ร่วมกับทางคณะ College of Management, Mahidol University (CMMU) เพื่อเรียนรู้หลักการบริหารองค์กรสายเทคโนโลยีจากผู้บริหารชั้นนำทั่วโลก ซึ่งเขาพบว่าการสื่อสารที่ดี มีผลต่อการพัฒนาและขับเคลื่อนธุรกิจ ดังนั้นเขาจึงได้เปิดกว้างทางความคิดเพื่อรับฟังในกระบวนการความคิดใหม่ ไอเดียใหม่ๆ อยู่เสมอ
“เราทำทีมด้วยกัน ขับเคลื่อนองค์กรด้วยกัน อันดับแรกผมจะฉายภาพให้เขาเห็นก่อนว่า Metthier อนาคตเราจะไปที่จุดไหน ไม่ใช่แค่ให้วิสัยทัศน์อย่างเดียว แน่นอนว่าวิสัยทัศน์คือ เราจะทำสังคมไทยให้ดีขึ้น เราจะทำให้ความเป็นอยู่ประเทศไทยดีขึ้น แต่นั่นยังอาจจะกว้างเกินไป ดังนั้นการทำทีมที่ดีคือ การลงรายละเอียดของสิ่งที่เราจะไปกับแต่ละแผนกในทุกระดับและสื่อสารไปถึงทุกๆ คนในทีมให้เข้าใจอย่างแท้จริง”
นอกจากนี้ เขายังใช้ OKR (Objectives and Key Results) ในการขับเคลื่อนทีม เพื่อให้ทีมงานเห็นเป้าหมายในการทำงานของตัวเองที่ชัดเจน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ส่วนใหญ่จะรู้สึกมีความสุขหากสิ่งที่ทำนั้นสำเร็จและสามารถทำให้ตัวเองนั้นก้าวต่อไปตามเป้าหมายของบริษัทที่วางไว้ ซึ่ง Metthier กำลังจะกลายเป็นอีกหนึ่งองค์กรสัญชาติไทยที่น่าจับตามองในปีนี้