ปตท.สผ.เร่งแผนผลิตก๊าซฯภายในเม.ย. แตะ 800 ล้านลบ.ฟุต/วัน ขณะที่กรมเชื้อเพลิงฯเฝ้าติดตามระยะ 10 ปีต้องรักษาระดับการผลิตให้ได้ตามสัญญา

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า ปตท.สผ.อยู่ระหว่างการเร่งแผนเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติจากแปลง G1/61(เอราวัณ) ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (ปตท.สผ.อีดี) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เร่งติดตั้งแท่นหลุมผลิต (Wellhead Platform) ตามแผน ส่งผลให้ปริมาณการผลิตก๊าซฯจากแปลง G1/61 เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 400 ล้านลูกบาศก์ฟุต(ลบ.ฟุต)ต่อวัน และเพิ่มเป็น 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวันภายในเดือนเมษายนนี้

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ปตท.สผ.ไม่ต้องชำระค่า Shortfall หรือค่าปรับกรณีผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบก๊าซธรรมชาติได้ตามเงื่อนไขสัญญา แม้ว่าจะผลิตก๊าซฯ แปลง G1/61 ไม่ได้ตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ที่ระดับ 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน เนื่องจากความล่าช้าในการเข้าพื้นที่ เพื่อติดตั้งแท่นหลุมผลิตได้ก่อนเวลา เพราะทางเชฟรอนฯ ไม่อนุญาต ทำให้ไม่สามารถผลิตก๊าซฯได้ ซึ่งกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติก็รับรู้สาเหตุดังกล่าว และให้ ปตท.สผ.เร่งติดตั้งฯ เพื่อผลิตก๊าซฯให้ได้ตามสัญญาที่ระดับ 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ภายในเดือนเมษายน 2567

“ปตท.สผ.มั่นใจว่าจะไม่เสียค่าปรับชอร์ตฟอลอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้ปริมาณการผลิตก๊าซฯจากแปลง G1/61 มากกว่า 400 ล้านลบ.ฟุตต่อวันแล้ว จากนั้นจะทยอยเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนมีนาคม และวันที่ 1 เมษายนนี้ จะเพิ่มเป็น 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวันอย่างแน่นอน ซึ่งมั่นใจว่าจะไม่ต้องจ่ายค่าปรับชอร์ตฟอลแน่นอน”นายมนตรี กล่าว

ด้านนายวรากร พรหโมบล อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ ปตท.สผ. อยู่ระหว่างการเร่งติดตั้งแท่นหลุ่มผลิต เพื่อให้สามารถผลิตก๊าซฯจากแปลง G1/61 ที่ระดับ 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ซึ่งเชื่อว่า ปตท.สผ.สามารถทำได้อย่างแน่นอน  

อย่างไรก็ตาม ปตท.สผ.จะต้องรักษาระดับการผลิตก๊าซฯในแปลง G1/61 ไว้ที่ 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวันในระยะยาว ตามสัญญา PSC ที่มีอายุสัญญา 10 ปี หากปริมาณก๊าซฯลดลง หรือไม่สามารถผลิตก๊าซฯได้ตามสัญญาก็ต้องถูกปรับ

แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) กล่าวว่า กรณีที่ ปตท.สผ. ไม่สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซฯ จากแปลง G1/61 เป็น 600 ล้านลบ.ฟุตต่อวันในช่วงเดือนธันวาคม 2566 ก็ไม่ต้องจ่ายค่าปรับชอร์ตฟอล เนื่องจากเป็นการประมาณการตัวเลขของ ปตท.สผ. และในสัญญาซื้อขายก๊าซฯ ก็ไม่ได้ระบุตัวเลขดังกล่าว แต่ระบุว่าจะต้องทำให้ได้ 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวันตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ตามสัญญา PSC ที่มีอายุสัญญา 10 ปี ซึ่งในส่วนนี้จะเรียกเก็บค่าปรับจาก ปตท.สผ. ไม่ได้ เพราะที่ผ่านมา ปตท.สผ.เข้าพื้นที่ล่าช้า จึงไม่สามารถติดตั้งแท่นหลุ่มผลิตได้ตามแผน ซึ่ง ปตท.สผ.ได้แจ้งไปทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติรับทราบแล้ว ดังนั้นในสัญญาจึงเป็นการทยอยเพิ่มปริมาณการผลิตก๊าซฯ จากช่วงแรกๆ อยู่ที่ประมาณ 200 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน และปัจจุบันอยู่ที่ 400 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน

นอกจากนี้หากในช่วงหลังเดือนเมษายน 2567 ปตท.สผ. ไม่สามารถรักษาระดับกำลังการผลิตก๊าซฯจากแปลง G1/61 ไว้ที่ 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวันได้ ก็สามารถนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) เข้ามาทดแทนในส่วนนี้ แต่ต้องขายราคาเดียวกับก๊าซฯ แปลง G1/61 จึงจะไม่โดนค่าปรับชอร์ตฟอล เพราะหากขายราคานำเข้า สุดท้ายต้องบวกในราคา Pool Gas ที่ส่งต่อภาระไปยังค่าไฟของภาคประชาชน