แผนเฟรเซอร์สฯ ปี67 บาลานซ์พอร์ต/บริหารเสี่ยงธุรกิจ ย้ำกลุ่มแวร์เฮ้าส์รับอนาคตนิคมอุตฯไทยโตดี

แผนเฟรเซอร์สฯ ปี67 บาลานซ์พอร์ต/บริหารเสี่ยงธุรกิจ ย้ำกลุ่มแวร์เฮ้าส์รับอนาคตนิคมอุตฯไทยโตดี
เฟรเซอร์สฯ ปรับสมดุลกลุ่มธุรกิจขยับสัดส่วนสินทรัพย์ขาย-รายได้ประจำ 40:60 ตั้งรับอสังหาฯซัพพลายล้นปี 67 เปิดตัวบ้าน-คอนโด 7 โครงการ 11,600 ล.บาท ลงทุน 4,000 ล.บาท ขยายพื้นที่คลังสินค้า-โรงงานรับอนาคตโต

ธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) หรือ FPT ผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า FPT ในปี 2567 บริษัทวางแผนบริหารปรับสมดุลรายได้ธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย , ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ และ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรม ให้มีสินทรัพย์จากยอดขายและรายได้ประจำสัดส่วน 40% และ 60% เพื่อรองรับความผันผวนทางเศรษฐกิจจากปัจจัยลบทั้งภายในและต่างประเทศ

“จากปัจจัยสงครามการค้าโลก ทำให้มีการย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังประเทศไทยต่อเนื่อง และมีความต้องการด้านพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ทั้งโรงงานผลิต ที่อยู่อาศัยในไมยเพิ่มขึ้น ซึ่งเฟรเซอร์สฯ จะใช้จุดแข็งและความเชี่ยวชาญในการทำตลาดอสังหาฯนิคมอุตสาหกรรมมานานกว่า 30ปี” ธนพล กล่าว

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในปีนี้ คาดยังเผชิญปัจจัยลบรอบด้านจาก อัตราดอกเบี้ยสูง  หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นสัดส่วน 90% ต่ออัตราการเติบโตเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศ ไปจนถึงความขัดแย้งทางรัฐศาสตร์ในต่างประเทศ ซึ่งยังต้องจับตาถึงกระทบต่อไทย ในด้านใดบ้าง

ส่วน ปัจจัยบวกที่ส่งผลกับตลาดอสังหาฯ มาจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และ ภาครัฐออกนโยบายกระตุ้นอสังหาฯอาทิ มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจํานอง

จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทยังมุ่งให้ความสำคัญในฐานะแบรนด์ผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์  (Real Estate as a Service Brand ) อย่างต่อเนื่องระหว่างพันธมิตรธุรกิจต่างๆ ใน 3 ธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจที่อยู่อาศัย (Residence) 2.ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าและโรงงาน (Industrial)  และ 3.ธุรกิจอาคารสำนักงานและโรงแรม  (Commercial) พร้อมปรับสมดุล (Balance) กลุ่มธุรกิจใน 2 ส่วน คือ

  • รายได้จากการซื้อมาขายไป (ธุรกิจที่อยู่อาศัย) สัดส่วน 40%
  • รายได้ประจำ (ธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าและโรงงาน, อาคารสำนักงานและโรงแรม) สัดส่วน 60%

ธนพพล กล่าวว่า “แผนดังกล่าวยังเป็นการลดความเสี่ยงการบริหารธุรกิจ ซึ่งสัดส่วนขาย 40% และรายได้ประจำ 60% จะเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม ตามที่เฟรเซอร์สฯ ได้ทำมาแล้วในหลายประเทศ”

ขณะเดียวกันยังเป็นส่วนหนึ่งการตั้งรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในภาพรวมขณะนี้ที่ค่อนการแข่งขันรุนแรง จากการเพิ่มสินทรัพย์สินค้า (Supply) ที่ขยายตัวในทุกกลุ่ม เช่น กลุ่มบ้านเดี่ยว ระดับราคา 10-20 ล้านบาท ขึ้นไป จากในอดีตมี Supply ราว13% โดยในปี 2566 ที่ผ่านมาเพิ่มสัดส่วนเป็น 38% เป็นต้น

สำหรับปี 2567 เฟรเซอร์สฯ เตรียมแผนเปิดตัว 7 โครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 11,600 ล้านบาท ให้ความสำคัญในการทำตลาดบ้านเดี่ยว และบ้านระดับหรู (Luxury) พร้อมสร้างกระแสรายได้จากค่าเช่าให้เติบโตแข็งแกร่ง ในธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าที่จะลงทุนประมาณ 4,000 ล้านบาทในการขยายพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการอีก 100,000 ตร.ม. เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ 3.5 ล้านตร.ม. ทั้งในไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ด้วยเป้าหมายอัตราการเช่าอยู่ที่ 93%

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนลงทุนต่อเนื่องจากการบริหารจัดการพื้นที่เพิ่มเป็น 4 ล้านตร.ม. ในอีก2 ปีหน้า เพื่อคงความสามารถในการสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง และมีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง

TAGS: #เฟรเซอร์ส #พร็อพเพอร์ตี้