เดอะแก๊งศูนย์การค้าย่านเอ็มดิสทริค ‘เอ็มโพเรียม-เอ็มควอเทียร์-เอ็มสเฟียร์ จัดใหญ่แคมเปญตรุษจีน ยาว 29 วันรวดตลอดเดือน ก.พ.ปี67 รับปีนักษัตรมังกร ปักหมุดใจกลางสุขุมวิทหนุนสู่ปลายทางย่านศิลประดับโลก

สุธาวดี ศิริธนชัย กรรมการผู้จัดการ เอ็ม ดิสทริค กล่าวว่า เอ็ม ดิสทริค ประกอบด้วย 3 ศูนย์การค้า เอ็มโพเรียม-เอ็มควอเทียร์ และ เอ็มสเฟียร์ ร่วมสร้างย่านการค้าพร้อมมอบประสบการณ์ใหม่ที่โลกเรียกหา ‘Calling The World’ เป็นมิติใหม่แห่งย่านธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ ครอบคลุมทุกรูปแบบการใช้ชีวิต ทั้ง Art Of Luxury, Art Of Fashion, Art Of Lifestyle, Art of Technology, Art Of Dining และ Art Of Entertainment 

ล่าสุดในในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี2567 ที่เข้าสู่นักษัตรมังกร ธาตุไม้ ที่มีผลต่อความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรือง, ครอบครัว และสุขภาพ ได้จัดแคมเปญและกิจกรรมเพื่อเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายในการเป็น Art of District  แห่งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต รับการเติบโตรุ่งเรืองของถนนสุขุมวิท ซึ่งกลายเป็นย่านการค้าใหม่ที่ได้รับความสนใจ จากทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ทั้งนี้ จากตัวเลขผู้เข้ามาช้อปปิง และใช้ชีวิตในช่วง 1 เดือน ที่ผ่านมาและช่วงเทศกาลปีใหม่ที่เพิ่มขึ้นถึง 80% สูงถึงกว่า 300,000 คน โดยคาดว่าในเทศกาลตรุษจีนจะมีทราฟฟิคของลูกค้าในย่านนี้ไม่แตกต่างกัน โดยเอ็ม ดิสทริค ได้เตรียมงบประมาณกว่า 120 ล้านบาท ในการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านกิจกรรมการตลาด และแคมเปญส่งเสริมการขาย ที่มีทั้งความคล้ายคลึงและแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา

“โดยเฉพาะการสร้างภาพการจดจำใหม่ของกิจกรรมให้ลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มาพร้อมกับการเปิดตัวของเอ็มสเฟียร์ ในขณะที่ยังคงไว้และพัฒนาขึ้นสำหรับลูกค้าที่มีความคุ้นเคยกับเอ็มโพเรียม และเอ็มควอเทียร์” สุธาวดี กล่าว  

ทั้งนี้ เอ็ม ดิสทริค ยังร่วมกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย จัดกิจกรรม EM DISTRICT LUCK IS CALLING …CHINESE NEW YEAR 2024 THE PROSPERITY OF DRAGONS KINGDOM ตั้งแต่วันที่ 1-29 กุมภาพันธ์ 2567 ด้วยกิจกรรมและรายการส่งเสริมการขายตอกย้ำแลนด์มาร์คการช้อปปิ้งและท่องเที่ยวแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพมหานคร

ขณะที่วันตรุษจีนในปีนี้ ตรงกับนักษัตรมะโรง หรือปีมังกร และครบ 3 รอบในทุกๆ 12 ปี เป็นมังกรที่สะสมพลังอำนาจแล้ว เป็น“พญามังกร” หรือ “มังกรทอง” จึงนับว่าเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ ตลอดจนเป็นยุคการเปลี่ยนฮวงจุ้ยในยุคที่ 9 ซึ่งหมายถึงความเปลี่ยนแปลง สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของถนนสุขุมวิทที่เจริญรุ่งเรืองขึ้น  ธุรกิจ ที่พักอาศัย การคมนาคม ขยายตัวและเติบโตขึ้น

ประกอบกับกับเปิดตัว เอ็มสเฟียร์ ส่งผลให้มีลูกค้าในกลุ่ม Gen Z และ นักท่องเที่ยวในกลุ่ม FIT (Free Individual Traveler) เพิ่มขึ้น ทำให้ปีนี้กิจกรรมตรุษจีนได้ปรับเพิ่มการนำเรื่องของงานศิลปะ ซึ่งเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่มาช่วยตอกย้ำความเป็นแลนด์มาร์คของเทศกาลตรุษจีน บนถนนสุขุมวิท

โดยการสร้างสรรค์กิจกรรมครั้งนี้ ได้ร่วมมือกับธนาคารยูโอบี ประเทศไทย องค์กรชั้นนำในย่านสุขุมวิท ชวน12 ศิลปินร่วมสมัยของเมืองไทย สรรค์สร้างมังกรในจินตนาการ ที่ได้แนวคิด และแรงบันดาลใจจากแนวทางงานศิลปะของศิลปินแต่ละท่าน  ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตน จัดทำเป็น 12 ประติมากรรมมังกร (Dragon Art Sculpture) ที่ขนาดใหญ่ที่สุดสูงถึง 8 เมตร จัดแสดงที่ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์, เอ็มสเฟียร์ และ อุทยานเบญจสิริ ตามแนวคิด CHINESE NEW YEAR 2024 THE PROSPERITY OF DRAGONS KINGDOM ร่วมฉลองตรุษจีนปีพญามังกรทอง ในรอบ 36 ปี สื่อถึงความเจริญรุ่งเรือง ความแปลกใหม่ที่เข้ากับยุคสมัย

นอกจากนี้ ในด้านกิจกรรมส่งเสริมการตลาดยังมีสิทธิพิเศษจากธนาคารยูโอบี ประเทศไทย โดยสมาชิกผู้ถือบัตรเครดิตยูโอบี ลงทะเบียนในงาน รับทันทีบัตรกำนัลรวมมูลค่า 100 บาท (จำกัด 1,000 สิทธิ์)  เพื่อใช้รับประทานอาหารภายในงาน และต่อเนื่องความพิเศษสำหรับการรับประทานอาหารในร้านอาหารใน EM DINING ที่เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเอ็มสเฟียร์

โดยในส่วนรายการส่งเสริมการขาย ที่เข้ามาสนับสนุนการใช้จ่ายในช่วงตรุษจีน ได้ร่วมมือกับบัตรเครดิต Bangkok Bank M Visa จัดโปรโมชั่นรองรับกำลังซื้อของลูกค้า ที่หลายฝ่ายคาดว่าจะมีการเติบโตสูง โดยเฉพาะในวันจ่ายและวันเที่ยว ที่ปีนี้ วันเที่ยวตรงกับวันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ คาดว่าจะมีลูกค้าใช้จ่ายจำนวนมาก  โดยลูกค้าที่ช้อปปิ้งและใช้จ่ายผ่านบัตร Bangkok Bank M Visa ภายในศูนย์การค้า ช้อปรับโปร ปัง ปัง รวมสูงสุดกว่า 21,000 บาท  หรือ เมื่อใช้จ่ายในการรับประทานอาหารในร้านอาหารชั้นนำใน EMDINING รับบัตรกำนัลรับประทานอาหารสูงสุด 1,300 บาท

รวมถึงการรับสิทธิพิเศษอื่นๆ เมื่อใช้จ่ายภายในศูนย์การค้าและ EM DINING ซึ่งคาดว่าตลอดทั้งแคมเปญจะสามารถเพิ่มทราฟฟิคเพิ่มในช่วงเทศกาลกว่า 30%” ตั้งแต่วันที่ 1-29 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และ เอ็มสเฟียร์ โดย เอ็ม ดิสทริค คาดจากการจัดงานฯตลอดระยะเวลาดังกล่าว จะมีปริมาณลูกค้าหมุนเวียน (ทราฟฟิก) กว่า 3 แสนคน/วัน