ปตท.สผ.มั่นใจแหล่งเอราวัณเพิ่มการผลิตก๊าซฯได้ตามแผนหวังช่วยลดการนำเข้ากดราคาถูกลง ขณะที่ตั้งเป้าปริมาณการผลิตปิโตรเลียทุกโครงการอยู่ที่ 5.05 แสนบาร์เรล/วัน
นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) เปิดเผยถึงแผนการบริหารจัดการปริมาณก๊าซธรรมชาติในปี 2567 ว่า จะเร่งเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซฯในพื้นที่อ่าวไทยโครงการ G1/61 โดยเฉพาะแหล่งเอราวัณ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2567 จะมีกำลังการผลิตตามสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต(ลบ.ฟุต)ต่อวัน ได้อย่างแน่นอน ซึ่งจะช่วยลดการนำเข้าก๊าซฯจากต่างประเทศและทำให้โครงสร้างราคาก๊าซฯมีต้นทุนที่ถูกลง
ทั้งนี้หากมองศักยภาพของแหล่งเอราวันพบว่าในเดือนม.ค. ผลิตได้เพียง 400 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ซึ่งจะเพิ่มการผลิตในเดือนก.พ. เป็น 450 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน และเดือนมี.ค. ผลิตได้ 550 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน โดยในช่วงปลายเดือนมี.ค.คาดหวังจะเร่งกำลังการผลิตให้ได้ถึง 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน และจะรักษากำลังการผลิตในระด้บนี้ไว้ได้นาน10 ปี
“ในปีนี้ปตท.สผ.ใช้งบในการลงทุนกับแหล่งเอราวัณ 1,200 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากต้องเจาะหลุมผลิตใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเดิมมีหลุมเจาะสำรวจอยู่แล้ว 689 หลุม และ ต้องเจาะหลุมใหม่อีก 300 หลุม เพื่อรักษากำลังการผลิตให้อยู่ระดับ 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน โดยแต่ละหลุมจะสามารถผลิตก๊าซฯ ได้ประมาณ 2-3 ปี นอกจากนี้ต้องติดตั้งแท่นผลิตก๊าซฯในทะเลเพิ่มอีก 12 แท่นจากเดิมที่รับแท่นผลิตมาจากผู้รับสัมปทานรายเดิม 134 แท่น และได้ติดตั้งแท่นเพิ่มในภายหลังอีก 12 แท่น รวมเป็น 146 แท่น”
สำหรับพื้นที่ผลิตก๊าซฯจากอ่าวไทยในแหล่งบงกช ปัจจุบันผลิตก๊าซฯอยู่ 840 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ซึ่งมากกว่าสัญญาที่กำหนดไว้ 700 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน เนื่องจากต้องจัดสรรปริมาณก๊าซฯไปชดเชยในช่วงที่แหล่งเอราวัณยังไม่สามารถผลิตก๊าซฯ ได้เต็มจำนวนตามสัญญา แต่คาดว่าจะผลิตลดลงเหลือ 750 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน ในวันที่ 1 เม.ย. 2567 เมื่อแหล่งเอราวัณกลับมาผลิตก๊าซฯ ได้ตามสัญญา 800 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน
นายมนตรี กล่าวว่า ในปี2567 ตั้งเป้าหมายเพิ่มปริมาณการผลิตและจำหน่ายปิโตรเลียมอยู่ที่ 505,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เพิ่มขึ้น 9% เทียบจากปีก่อน โดยเดินหน้าตามแผนลงทุนที่กำหนดไว้ 230,194 ล้านบาท เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตปิโตรเลียมทั้งโครงการในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งมั่นใจจะมีผลประกอบการเติบโตที่ดีขึ้นจากปี 2566
