‘เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์’ นายหญิงเสนาฯ ‘ก้าวใหม่ธุรกิจบนความกลัว’

‘เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์’ นายหญิงเสนาฯ ‘ก้าวใหม่ธุรกิจบนความกลัว’
ซีอีโอหญิงเสนา กรุ๊ป ‘เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์’ เปิดแผนอนาคตธุรกิจที่เปลี่ยนจากความกลัวสู่โอกาสใหม่ ตั้งเสนา กรุ๊ป คุมบริษัทโฮลดิงดูแลธุรกิจพลังงานสะอาด-พัฒนาอสังหาฯ-ดูแลสุขภาพ’ รับเมกะเทรนด์โลก

เสนา ดีเวลลอปเมนท์ SENA แบรนด์ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ และ แนวสูงในตลาดอสังหาริมทรัพย์มานานร่วม 40 ปี เตรียมปักหมุดให้ปี 2023 เป็นปีแห่งการก้าวไปสู่บทบาทใหม่ในฐานะ Lifelong Trusted Partner การร่วมเป็นพันธมิตรในทุกมิติ เพื่อรองรับความต้องการลุกค้าทุกช่วงวัยในแต่ละด้านที่แตกต่างออกไป ตามการเปลี่ยนแปลงของเมกะเทรนด์โลก และในประเทศไทย  

Recap ปี2022 จุดเปลี่ยนธุรกิจเสนาฯ    

ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด กล่าวถึงปี2022 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นปีที่มองเห็นทั้งปัญหาและได้มาซึ่งโอกาสใหม่ พร้อมกัน

โอกาสแรกส่วนหนึ่ง จากการเป็นหัวหน้าวางแผนกลยุทธ์ (Chef Strategy)ในทีมผู้ว่าราชการกทม. (ชัชชาติ สิทธิพันธุ์) ทำให้มองเห็นกรุงเทพฯในหลายมิติโดยเฉพาะสเกลของภาพเมืองที่กว้างขึ้น แตกต่างไปจากมุมองของนักธุรกิจที่คลุกคลีในแวดวงอสังหาฯ มากว่า20 ปี

ทั้งนี้ เมื่อได้ลงพื้นที่กับทีมผู้ว่าฯ ยิ่งได้ให้เห็นภาพของเมืองหลวงใหญ่ขึ้นจน ทำให้รู้สึกกลัว และความกลัวที่ว่านั้น คือ Social Challenge ความท้าทายของสังคมในด้านต่างๆ อย่าง ปัญหาสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ปัญหาการเข้าถึงบริการสาธารณสุข บริการสาธารณสุข ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และ ปัญหาการกระจุกตัวของคนเมือง

ตัวอย่างที่ค่อนข้างชัดเจน คือ คุณภาพของคนที่อยู่อาศัยในชุมชนแออัด การขยายตัวของคนเมือง ประชากรผู้สูงวัยที่จะมีจำนวนมากขึ้น ฯลฯ

“จุดนี้ทำให้เกิดสองคำถามย้อนกลับมาว่าเสนาฯ จะขายบ้านเหมือนเดิมอย่างเดียวต่อไปในอีก 10-20 ปีข้างหน้า หรือ จะลองคิดใหม่ภายใต้สถานการณ์ความกลัวเหล่านี้ว่าจะทำอะไรได้ต่อไปบ้าง” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว

โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของประชากรไทยในปี 2050 จะมีประชากรไทยเพิ่มขึ้นอีก 11 ล้านคน โดยกว่า 73% จะกลายเป็นคนเมือง และการกระจุกตัวของคนเมือง ส่งผลให้ราคาบ้านมีแนวโน้มสูงขึ้น 

ราคาบ้าน-ที่ดินขยายตัว ต่อเนื่อง

และแน่นอนว่าความเป็นเมืองจะกระจายออกไปรอบนอกมากขึ้น โดยสิ่งที่ตามมา คือ การเชื่อมโยงของระบบการเดินทางคมนาคมที่สะดวกและเข้าถึงได้

ขณะที่รูปแบบระบบการเดินทางของไทยได้ยึดรูปแบบตามโมเดลเดียวกับประเทศญี่ปุ่น แต่ต้นทุนการเดินทางคมนาคมของคนเมืองหลวงกรุงเทพฯ ต่อวันสูงกว่าคนญี่ปุ่นมาก หรือ คิดเป็นสัดส่วนค่าใช้จ่ายกว่า 20-25% ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำต่อวันเฉลี่ยอยู่ที่ 350-400 บาท  

และในปี 2023 คาดราคาอสังหาฯ มีแนวโน้มปรับตัว 5-10% ราคาที่ดินเฉลี่ยปรับตัวสูงขึ้น 8% ทั่วประเทศ

จากภาพมุมกว้างที่ได้เห็นและกำลังมีผลต่ออนาคต ได้กลายเป็นจุดพลิกทางความคิดในการทำธุรกิจ เสนา กรุ๊ปเพื่อวางรากฐานองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้ความท้าทายของสังคม ที่เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของวิสัยทัศน์ของผู้บริหารหญิงแห่งอาณาจักรเสนาฯ

ตั้งบริษัทโฮลดิ้ง คุมธุรกิจหลัก-ใหม่

ผศ.ดร.เกษรา กล่าวว่าจากนี้ไป ‘เสนา กรุ๊ป’ จะมีโครงสร้างหลักการดำเนินธุรกิจ ในฐานะ Lifelong Trusted Partner รองรับความต้องการของลูกค้าทุกเจนเนอเรชัน ด้วยโมเดล ‘เสนา มัลติพลายด์’ (Sena Multiplied) ประกอบด้วย 3 บริษัทแม่ (Holding Company) เพื่อดำเนินธุรกิจหลักพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และดูแลธุรกิจใหม่ ดังนี้

  1. SENA GREEN ENERGY ดำเนินธุรกิจพลังงานสะอาด พลังงานทดแทน อาทิ ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ธุรกิจปลูกป่า ธุรกิจสถานีบริการพลังงานรถยนต์ไฟฟ้า
  2. SENA ประกอบด้วย เสนา ดีเวลลอปเม้นท์, ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป ดูแลธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบและแนวสูง ระดับกลางบน, ธรกิจสนามกอล์ฟ, ธุรกิจสินเชื่อเงินสดใจดี และ Metrobox ดูแลธุรกิจคลังสินค้าและโลจิสติกส์
  3. senX property ดูแลพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับบนแบรนด์ต่างๆ และ โครงการสมาร์ท ลีฟวิง แพลตฟอร์ม,โบรกเกอร์, ธุรกิจขายบ้านมือสอง, ธุรกิจดูแลสุขภาพครบวงจร, ธุรกิจสถานดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยระยะฟื้นตัว, อุปกรณ์ทางการแพทย์ และบริหารธุรกิจโรงแรมที่พักอาศัย  

ปี2023 เปิดใหม่ 26 โครงการ มูลค่า 24,024 ล.บาท

โดยในปี 2023  SENA เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 26 โครงการ รวมมูลค่า 24,024 กว่าล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 9 โครงการ  7,471 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 17  โครงการ 16,553 ล้านบาท (ใน 26 โครงการ แบ่งเป็นโครงการร่วมกับ ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ส์ คอร์ป  22  โครงการ 21,210 ล้านบาท)  โดยตลอดระยะเวลาร่วมเป็นพันธมิตร 8 ปีพัฒนาโครงการรวม 45 โครงการ มูลค่า 69,554 ล้านบาท

สำหรับปีนี้ เสนา ยังวางเป้าหมายสร้างสถิติใหม่ด้วยเป้ายอดขาย 18,242 ล้านบาท และเป้าโอนรวม 16,539 ล้านบาท โดยมีสินค้าที่เหลือขาย คิดเป็นมูลค่า 22,294 ล้านบาท เพื่อรอรับรู้รายได้ในอนาคต

ซีอีโอ เสนาฯ กล่าวปิดท้ายว่า จากแผนดังกล่าวยังได้ย้อนกลับไปตอบคำถามข้างต่อไปในอีก10-20 ปีข้างหน้า คือ สร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจที่เติบโตควบคู่ไปพร้อมกับสังคมเมือง

โดยแบรนด์เสนา จะเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคแบบรอบด้านตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก    

 

TAGS: #กรุีป #เสนา #ดีเวลลอปเมนท์ #SENA