ส่อง 5 อุตสาหกรรมใหม่ ทุนใหญ่ขนเงินลงทุนไทย ช่วง 3 ปี กว่า 6 แสนล้าน

ส่อง 5 อุตสาหกรรมใหม่ ทุนใหญ่ขนเงินลงทุนไทย ช่วง 3 ปี กว่า 6 แสนล้าน
‘บีโอไอ’ปักหมุดพลิกฟื้นลงทุนไทยสู่เศรษฐกิจใหม่ เสิร์ฟ 9 แพจเกจ เจาะ 5 อุตสาหกรรมเป้าหมาย มั่นใจต่างชาติเชื่อมั่นลงทุนต่อเนื่อง

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า แม้ว่าไทยจะเผชิญกับสถานกาณ์โควิดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงมีปัจจัยความขัดแย้งระทางการเมืองระหว่างประเทศ แต่ก็ทำให้เกิดโอกาสดีกับไทย โดยบริษัทต่างชาติเกิดการโยกย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่ ซึ่งต้องยอมรับว่าไทยยังมีจุดแข็งในด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีความพร้อม มีบุคลากรที่มีคุณภาพ และมีซัพพลายเชน

นอกจากนี้รัฐบาลยังมีนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ต้นน้ำ ดิจิทัล และพลังงานสะอาด ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกได้เลือกใช้ไทยเป็นฐานลงทุนธุรกิจใหม่ ๆ โดยเฉพาะใน 5 อุตสาหกรรมมุ่งเป้า ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้า ดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ BCG และอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

ทั้งนี้ในช่วงปี 2563-2565  มียอดขอรับส่งเสริมการลงทุน 5 อุตสาหกรรมนี้ รวมกัน 2,687 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 6 แสนล้านบาท ประกอบไปด้วย

1. อุตสาหกรรมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว หรือ BCG  มียอดขอรับส่งเสริม 1,911 โครงการ มูลค่า 305,170 ล้านบาท เช่น บริษัท เนเชอร์เวิร์คส, จีจีซี เคทิส ไบโออินดัสเทรียล, พีทีที เอ็มซีซี ไบโอเคม, พูแรค, เนสท์เล่, อายิโนะโมะโต๊ะ, สไปเบอร์, เอ็นวิคโค เป็นต้น

2. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วน รวมทั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า มียอดขอรับส่งเสริมรวม 46โครงการ มูลค่า 78,115 ล้านบาท เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์, เกรท วอลล์ มอเตอร์, เอสเอไอซี มอเตอร์ (เอ็มจี), บีวายดี ออโต้, ฮอริษอน พลัส, กลุ่มพลังงานบริสุทธิ์, อีวีโลโม เทคโนโลยีส์ เป็นต้น

3. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ มียอดขอรับส่งเสริมรวม 92 โครงการ มูลค่า 113,990 ล้านบาท เช่น ซีเกท เทคโนโลยี, เวสเทิร์น ดิจิตอล, ไมโครชิพ เทคโนโลยี, แม็กซิม อินทริเกรดเต็ด โปรดักส์, แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์, โตชิบา เซมิคอนดัคเตอร์, ชิโคนี่ อีเลคทรอนิคส์ 

4.อุตสาหกรรมดิจิทัล มียอดขอรับส่งเสริมรวม 420 โครงการ มูลค่า 64,481 ล้านบาท เช่น อะเมซอน ดาต้า เซอร์วิสเซส, อาลีบาบา คลาวด์, หัวเว่ย เทคโนโลยี่, เทเลเฮ้าส์, กลุ่มทรู เป็นต้น และ  5. อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มียอดขอรับส่งเสริมรวม 218 โครงการ มูลค่า 53,104 ล้านบาท เช่น เดอะสตูดิโอ พาร์ค, กันตนา สตูดิโอ, กราวิตี้ เกม เทค, แพนดอร่า โพรดักชั่น เป็นต้น

นอกจากนี้บริษัทข้ามชาติหลายรายได้ตัดสินใจเข้ามาจัดตั้งสำนักงานภูมิภาค (Regional Headquarter)ในประเทศไทย โดยได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอแล้ว กว่า 500 โครงการ ทำให้เกิดเงินลงทุน 1.3 หมื่นล้นบาท  ซึ่ง 5 อันดับนักลงทุนต่างชาติ คือ ญี่ปุ่น  สหรัฐ   สิงคโปร์  ฮ่องกง และฝรั่งเศล เช่น อโกดา, หัวเว่ย เทคโนโลยี่, อาร์เซลิก ฮิตาชิ, อายิโนะโมะโต๊ะ, นิสชิน ฟู้ดส์, อัลสตอม, โตโยต้า มอเตอร์, นิปปอนสตีล เป็นต้น

อย่างไรก็ตามในปี 2566 ได้กำหนดยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุน 7 ด้าน คือ 1.ปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมและสร้างความเข้มแข็ง Supply Chain   2. เร่งเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไปสู่ Smart&Sustainbility 3.ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศและประตูการค้าการลงทุนของภูมิภาค

4.ส่งเสริมเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพให้เข้มแข็ง เชื่อมต่อกับโลก 5.ส่งเสริมการลงทุนตามศักยภาพพื้นที่เพื่อสร้างการเติบโตอย่างทั่วถึง 6. ส่งเสริมการลงทุนเพื่อชุมชนและสังคม และ7.ส่งเสริมการลงทุนไทยในต่างประเทศเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจ

ขณะที่ได้เริ่มใช้ มาตรการส่งเสริมการลงทุน ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ 9 มาตรการได้แก่1 มาตรการส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ 2. มาตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน 3. มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม (Retention & Expansion Program) 4.มาตรการส่งเสริมการย้ายฐานธุรกิจแบบครบวงจร (Relocation Program)

5.มาตรการกระตุ้นการลงทุนในระยะฟื้นฟูเศรษฐกิจ 6. มาตรการยกระดับอุตสาหกรรม (Smart & Sustainable Industry) 7. มาตรการส่งเสริมการลงทุนเอสเอ็มอี 8.มาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เป้าหมายและ9.มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม

นายนฤตม์ กล่าวว่า  บีโอไอยังส่งเสริมการกระจายการลงทุนให้เหมาะสมกับศักยภาพของพื้นที่เป้าหมายต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น พื้นที่อีอีซี พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้และเมืองต้นแบบ พื้นที่ 20 จังหวัดรายได้ต่อหัวต่ำ รวมถึงเขตวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและสร้างการเติบโตอย่างทั่วถึงด้วย

 

 

TAGS: #บีโอไอ #อุตสาหกรรมใหม่ #โควิด #ย้ายฐานการผลิต