โตชิบา ในไทยปีนี้มีอายุครบ 55ปีแล้ว เดินหน้าทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าตู้เย็น-เครื่องซักผ้า-ไมโครเวฟ วางเป้ารายได้โต 20% จากกำลังซื้อกลาง-บน รับตลาดรวมเครื่องใช้ไฟฟ้า2.6  แสนล.มูลค่าทรงตัวแต่หน่วยขายลดลง

อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่าในปี 2567 บริษัทดำเนินกิจการครบรอบ 55ปี พร้อมวางยุทธทธศาสตร์เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตอัตรา 20%  ด้วย 3 ผลิตภัณฑ์สินค้าหลักที่แข็งแกร่ง ZHero Product) ได้แก่

1. สินค้ากลุ่มตู้เย็น วางแผนขยับส่วนแบ่งตลาดขึ้นมาที่ 15% หรือเป็นเบอร์ 2 ของตลาด
2. สินค้ากลุ่มเครื่องซักผ้า วางแผนขยับส่วนแบ่งตลาดขึ้นมาที่ 10% และรักษาตำแหน่งเบอร์ 3 ของตลาดไว้
3. กลุ่มเตาอบไมโครเวฟ วางแผนขยับส่วนแบ่งตลาด 29% และขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของตลาด

ด้าน เอกดนัย ตันติภูมิอมร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่าในปี 2567 บริษัทฯ ยังจะเปิดตัวสินค้าใหม่ถึง 52 รุ่น จาก 16 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย

• สินค้ากลุ่มตู้เย็น ตู้แช่ จำนวน 14 รุ่น
• กลุ่มเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และเครื่องซักอบ รวม 15 รุ่น
• กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว รวม 13 รุ่น
• กลุ่มเครื่องใช้ในบ้าน อีก 10 รุ่น

โดยเน้นสินค้ากลุ่มระดับกลาง-บน (Mid to High) รองรับความต้องการกลุ่มกำลังซื้อสูงที่ขยายตัว รวมถึงเปิดตัวสินค้าเชื่อมต่อทุกอุปกรณ์อินเทอร์เน็ต (IoT)  และสินค้าที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ จะขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เน้นเพิ่มจุดวางสินค้ากลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น และสร้าง Experience Store มุ่งให้ความสำคัญสินค้ากลุ่ม Smart Solution ซึ่งเป็นเทรนด์ของคนยุคใหม่ที่รักความสะดวกสบาย ใช้เทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านมือถือ  

ด้าน ธัญปภัสส์  อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า แผนการตลาดปี 2567 บริษัทฯ เร่งขยายฐานลูกค้ารุ่นใหม่ พร้อมใช้พรีเซ็นเตอร์ใหม่ คือ หมาก - ปริญ สุภารัตน์ นักแสดงชื่อดังเข้ามาเสริมแกร่งภาพลักษณ์แบรนด์ พร้อมแผนโปรโมทแคมเปญ ในเบื้องต้นได้จัดทำวิดีโอพิเศษที่มีหมาก เป็นตัวแทนโตชิบาในการดูแลทุกท่าน ผ่านชีวิตสามีแห่งชาติ  ที่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าโตชิบาในการทำงานบ้าน และใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ  ซึ่งวิดีโอชุดนี้จะถูกเผยแพร่ทางทีวี สื่อออนไลน์ และสื่อนอกบ้าน (Out of Home : OOH)

รวมไปถึงการทำคอนเทนต์ดิจิทัลและโซเชียลมาร์เก็ตติงต่างๆ พร้อมเสริมทัพด้วย KOLs ที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ สื่อวิทยุ รวมไปถึงโรดโชว์ต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานจริง ณ ร้านค้า ตัวแทน ณ จุดจำหน่าย

สำหรับผลดำเนินการบริษัทรอบ 4 ปี (พ.ศ. 2562 - 2566) มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 11.1%  โดยในปี 2566 มีรายได้เติบโต 14%  จาก 4 กลุ่มสินค้าเด่นดังนี้

• ตู้เย็น เติบโต 4.3%
• เครื่องซักผ้า เติบโต 16.1% 
• เตาอบไมโครเวฟ เติบโต 37.5%
• เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เติบโต 18.1%  -สินค้าเกี่ยวกับน้ำ เติบโต 14.8%
• เครื่องปรับอากาศ เติบโต 127.6%

โดยตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในภาพรวมปีนี้ที่คาดว่ายังมีอัตราการเติบโตทรงตัว จากในปี 2566 ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทย (รวมกลุ่มสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูป) มีมูลค่าราว ๆ 260,358 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2565  โดยจำนวนหน่วยสินค้าลดลง 6% เหลือ 44,886 ล้านเครื่อง/ปี (yoy)

ขณะที่กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน อาทิ เครื่องซักผ้า แอร์ ตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก มีสัดส่วน 30% ของมูลค่าตลาด หรือคิดเป็นมูลค่า 75,000 ล้านบาท เติบโต 10% (yoy) ปัจจัยสำคัญมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการลงทุนของภาคเอกชนเพิ่มขึ้น รวมถึงสภาพอากาศร้อนจัดของปีที่ผ่านมา ที่ผลักดันความต้องการสินค้าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องปรับอากาศ