ปี67 ASW โชว์ไฮไลต์ ปรับพอร์ตแนวราบมากขึ้นจากคอนโด ขยาย3ทำเลใน ‘ภูเก็ต’ ทำโครงการฯกว่า 1.5 หมื่นล.  

ปี67 ASW โชว์ไฮไลต์ ปรับพอร์ตแนวราบมากขึ้นจากคอนโด ขยาย3ทำเลใน ‘ภูเก็ต’ ทำโครงการฯกว่า 1.5 หมื่นล.  
แผนปี67 แอสเซทไวส์ เปิด 12 โครงการใหม่มูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล.บาท ทั้งคอนโด-แนวราบ พร้อมลงแข่งอสังหาทำเลยุทธศาสตร์ภูเก็ต ‘บางเทา-ในยาง-ราไวย์’ กว่า 1.5 หมื่นล.บาท เป้าสู่รายได้ 8,700 ล.บาท

กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดเผยว่า สำหรับปี 2567 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเปิดตัวรวม 12 โครงการ มูลค่า 25,920 ล้านบาท แบ่งเป็น

 1.คอนโด 9 โครงการ มูลค่า 21,820 ล้านบาท ผ่าน 3 แบรนด์เรือธง อาทิ

  • ATMOZ 1 โครงการย่านรังสิต
  • KAVE แคมปัสคอนโด 3 โครงการ คือย่าน รร.บดินทรเดชา มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าบางมด และมหาวิทยาลัยศิลปากร นครปฐม
  • Aquarous ตรงหาดจอมเทียน พัทยา

2.บ้าน 3 โครงการ มูลค่า 4,100 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • Esta Serenity มูลค่า 800 ล้านบาท
  • CHANN ตรงทางด่วนบรมราชชนนี พุทธมณฑลสาย 7 ติดแม่น้ำท่าจีน มูลค่า 1,800 ล้านบาท
  • THE ARBOR รามอินทรา-วัชรพล มูลค่า 1,500 ล้านบาท

“ไฮไลต์ของปีนี้ แอสเซทไวส์ พยายามขยายสัดส่วนพอร์ตฯ สินค้าแนวราบมากขึ้น จากเดิมที่เราถนัดคอนโด รวมถึงการขยายทำเลโดยเฉพาะ “ภูเก็ต” ให้เป็นทำเลกลยุทธ์ใหม่” กรมเชษฐ์ กล่าว

จากที่ผ่านมาบริษัทฯ เข้าลงทุนใน บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TITLE) ผู้พัฒนาอสังหาภูเก็ต โดยซื้อหุ้นจำนวน 67.61% เพื่อทำคอนโดขายชาวต่างชาติ

รวมถึงการร่วมทุน (JV) 30% กับโบทานิก้า ตั้งบริษัทฯ ย่อยร่วมกัน ลงทุนโครงการขนาดใหญ่ (Mega project) โบทานิก้า แกรนด์ อเวนิว โครงการลักซูรีพูลวิลลา มูลค่า 13,000 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มีสินค้าครอบคลุมทั้งคอนโดและวิลลาหรู

โดยแผนพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในปี 2567 จะเน้น 3 ทำเลยุทธศาสตร์ภูเก็ต คือ บางเทา (ทองหล่อของภูเก็ต), ในยาง (โซนใกล้สนามบิน) และราไวย์ (พื้นที่ธรรมชาติสูง) โดยเตรียมลงทุนต่อ 3 โครงการใหม่ ดังนี้

  • เดอะ ไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา มูลค่า 6,000 ล้านบาท
  • เดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง มูลค่า 4,000 ล้านบาท
  • เดอะ ไทเทิล ราไวย์ มูลค่า 1,000 ล้านบาท

จากปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เริ่มขยายทำเลไปภูเก็ต และได้รับผลตอบรับดี เช่น โครงการ HALO มูลค่า 1,537 ล้านบาท ทำยอดขายได้ 92% เตรียมโอนกรรมสิทธิ์ไตรมาส 2 ปีนี้ และโครงการ TITLE LEGENDARY บางเทา มูลค่า 4,500 ล้านบาท ทำยอดขายถึง 82% และเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ในปี 2568

กรมเชษฐ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ยังมองเรื่องการลงทุนใหม่ ๆ เพื่อสร้างฐานรายได้ประจำ (Recurring Income) อาทิ คอมมูนิตีมอลล์โครงการ Mingle Mall ที่เตรียมเปิดแห่งใหม่ในพื้นที่ภูเก็ต รวมไปถึง Rocket Fitness และการทำธุรกิจอีเวนต์ผ่าน Zaap world หนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญที่เสริมแกร่งรายได้ ASW

โดยในปี 2567 บริษัทฯ วางเป้าหมายยอดขาย 17,800 ล้านบาท เติบโต 8% (yoy) และรายได้ 8,700 ล้านบาท จากยอดการเติบโตเฉลี่ยปีละ 20% ซึ่งคาดว่าจะทำได้จากแบ็กลอคที่มีอยู่กว่า 19,500 ล้านบาท พร้อมทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2567-2569

ขณะที่ใน 2566 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจโลกผันผวน กระทบเศรษฐกิจไทย ทำให้อัตราการเติบโต(GDP) ขยายตัวในกรอบแคบ โดยบริษัทฯ เน้นการปรับตัวเร็วทุกสถานการณ์ส่งผลให้ปีที่ผ่านมามีผลประกอบการสูงเกินเป้า จากการเปิดตัว 15 โครงการ มูลค่า 30,260 ล้านบาท จากเดิมวางแผนเปิดตัวเพียง 12 โครงการ มูลค่า 22,500 ล้านบาท และทำยอดขาย (พรีเซล) 16,486 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16%

TAGS: #ASW #แอสเซทไวส์