‘ออริจิ้น’ ปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจคอนโดสู่ ‘ORIGIN VERTICAL’ กางแผนปี 67 เปิดคอนโดใหม่ 14 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาท ส่วนยอดขาย 32,000 ล้านบาท

เกรียงไกร กรีบงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้นพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI  กล่าวว่า หลังจากที่ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มีกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างหลากหลาย จึงได้ปรับโครงสร้างการบริหารงานกลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมให้ชัดเจนมากขึ้น โดยได้รวม 3 บริษัทในเครือได้แก่ 1.บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด 2.บริษัท ออริจิ้น เนชันวายด์ จำกัด 3.บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัดเข้าด้วยกัน และสื่อสารภายใต้แบรนด์และชื่อบริษัทเดียว คือ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือORIGIN VERTICAL

โดยในปี 2567 ทิศทางการดำเนินงานของ ORIGIN VERTICAL ในปี 2567 จะขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “Creative Living for All” หรือ สร้างสรรค์ชีวิต คิดเพื่อคุณ มุ่งพัฒนาคอนโดมิเนียมที่คำนึงถึงทุกมิติของการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบาย ความปลอดภัย การปรับสมดุลชีวิต การพักผ่อน ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ภายใต้กลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ 3 เรื่อง ได้แก่ 

1.Insight วิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าด้านต่างๆ อาทิ ทำเล การใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ การลงทุน อย่างจริงจังเพื่อออกแบบสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะในทำเลนั้นๆ 

2.Initiative นำ Insight มาพัฒนาต่อยอด ริเริ่มฟังก์ชันใหม่ โปรดักต์ใหม่ อย่างสร้างสรรค์ ตอบสนองทุกมิติของการใช้ชีวิต ตอกย้ำสถานะผู้นำตลาดคอนโดมิเนียม 

3.Implementation นำเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ มาช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของโครงการ ตลาดจนบริการต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิตของผู้คน

ส่วนแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 2567 จะมีทั้งหมด 14 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 20,000 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกจะเปิด 5 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 9,680 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการในกรุงเทพฯและปริมณฑล 3 โครงการได้แก่ 

1.ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ (Origin Place Chaengwattana) จำนวน 700 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,030 ล้านบาท

2.ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ (Origin Place Taopoon Interchange) จำนวน 671 ยูนิต มูลค่าโครงการ2,300 ล้านบาท 

3.ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร สเตชั่น (The Origin Setthabut Station) จำนวน 742 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท

โดยทั้ง 3 โครงการเป็นคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ ภายใต้แนวคิด Origin Pet Family Condo ตอบสนองความต้องการและคุณภาพชีวิตของทั้งคนและสัตว์เลี้ยง 

ขณะเดียวกัน มีโครงการในภูเก็ตอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโซ ออริจิ้น บางเทา บีช (So Origin Bangtao Beach) จำนวน 545 ยูนิต มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท  และโครงการออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket)จำนวน 587 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,450 ล้านบาท

จากแผนงานดำเนินธุรกิจดังกล่าวบริษัทฯจึงตั้งเป้ายอดขายปี 2567 ไว้ที่ 36,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนที่สามารถทำได้ 34,704 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 2567 กลุ่มธุรกิจคอนโดมิเนียมได้วางเป้าหมายยอดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งโครงการร่วมทุน (JV) และโครงการ Non-JV รวมกันไว้ที่ 18,000 ล้านบาท  โดยในปี 2567 จะมีคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ จำนวน 10 โครงการ ซึ่งโครงการเสร็จใหม่ดังกล่าวมียอดขายรอโอน(Backlog) ในมือรวมอยู่แล้ว 12,000 ล้านบาท ซึจะทยอยรับรู้ต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ณ สิ้นปี 2566 บริษัทยังมีสินค้าพร้อมโอนมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส  1/2567 บริษัทเตรียมจัดแคมเปญ “Happiness Caravan” ในกลุ่มสินค้าพร้อมโอนดังกล่าวบางส่วน ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มี.ค.2567 นี้ เพื่อกระตุ้นยอดขายและการรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาสแรกด้วย 

เกรียงไกร กล่าวถึงแนวโน้มภาพรวมตลาดคอนโดในช่วงครึ่งปีแรกโดยมองว่ายังคงทรงตัว เนื่องจากยังเผชิญปัจจัยลบอย่างเศรษฐกิจที่ยังคงผันผวน รวมถึงมาตรการจากทางภาครัฐยังออกมากระตุ้นได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคอ่อนแอ