ภาพรวมวันมาฆบูชาบรรยากาศคึกคักกว่าปีก่อนคนไทยเลือกไปวัดทำบุญอันดับแรก ส่งผลเกิดการใช้จ่ายในระบบ 2.4 พันล้านบาท
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจเปิดเผยถึง พฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงวันมาฆบูชา ว่า จะมีเงินสะพัดจากการทำกิจกรรมต่างๆ 2,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% ในรอบ 3 ปี ซึ่งเป็นวันหยุดยาวติดต่อกัน 3 วัน โดยพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ตั้งใจไปทำบุญมากขึ้นจากปีก่อน หลังผ่านสถานการณ์โควิด
เมื่อสอบถามถึงบรรยากาศในวันมาฆบูชาปีนี้เทียบกับปีก่อน พบว่าคึกคักมากกว่าปีก่อน 28.9% ให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจแย่ลงคนเลยไปทำบุญมากขึ้น ส่วนอีก27.4 % มองว่าคึกคักน้อยลง เนื่องจากเศรษฐกิจไม่ดี และ ราคาสินค้าแพง
สำหรับกิจกรรมที่ตั้งใจทำมากที่สุดคือ เวียนเทียน รองลงมาคืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือศีล 5 เป็นต้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนในช่วงวันมาฆบูชาอยู่ที่ 1,560 บาท ซึ่งจะนำไปใช้กับการทำบุญ การท่องเที่ยวและการเดินทางกลับบ้าน
“ช่วงวันมาฆบูชาหยุดยาว 3 วัน ภาพรวมคึกคักกว่าปีก่อน โดยกิจกรรมของคนไทยให้ความสำคัญกับการไปวัดทำบุญ และเวียนเทียน ขณะที่มีการวางแผนท่องเที่ยวบ้าง โดยคาดว่าในช่วงหยุดยาวน่าจะมีเงินสะพัดในส่วนนี้อีก 1-2 พันล้านบาท”
อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงสื่อออนไลน์มีผลต่อศาสนาอย่างไร ประชาชน 53.4% เห็นว่าใกล้ชิดศาสนามากกว่าห่างไกล เนื่องจากมีการรวมกลุ่มออนไลน์ทางด้านศาสนา และเข้าถึงข้อมูลได้สะดวกขึ้น ขณะที่อีก 28.1% มองว่าคนห่างไกลศาสนามากกว่าใกล้ชิดศาสนา เนื่องจากเครือข่ายสังคมออนไลน์ไปในทางพุทธพาณิชย์ และมีสิ่งเร้าอย่างอื่นทำให้ไม่สนใจศาสนา
นอกจากนี้ได้มีการสำรวจผู้ประกอบการในช่วงวันมาฆบูชามองมูลค่าการใช้จ่ายโดยรวมของผู้บริโภคในปี2567 เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนอย่างไรพบว่า เพิ่มขึ้น 37.5% ให้เหตุผลว่าเศรษฐกิจดี ราคาสินค้าแพงขึ้น ขณะที่มูลค่าลดลง 30.5% เนื่องจากยังมองวาเศรษฐกิจแย่ลง รายได้ลด และมีหนี้มากขึ้น และอีก 31.9% ไม่มีการเปลี่ยนแปลง