กลยุทธ์ใหม่น้ำสิงห์ ‘ขวดใส’ วางเดิมพันแลกพื้นที่สื่อสารหน้าเชลฟ์ ย้ำแบรนด์ใส่ใจโลก ชิงฐานคนรุ่นใหม่กินยาวๆ

กลยุทธ์ใหม่น้ำสิงห์ ‘ขวดใส’ วางเดิมพันแลกพื้นที่สื่อสารหน้าเชลฟ์ ย้ำแบรนด์ใส่ใจโลก ชิงฐานคนรุ่นใหม่กินยาวๆ
‘น้ำดื่มสิงห์’ เดินสายผลิตใหม่สินค้าแพคเกจจิงขวดใส ขายแพ็ก 6 ขวดบรรจุไซส์1.5ลิตร นำร่องขายในโลตัส 30 สาขา กลยุทธ์สร้างแบรนด์ซึมลึกคนเจนฯใหม่ หวังรักษาแชมป์เบอร์หนึ่งตลาดน้ำเปล่าระยะยาว

พรรณทิพย์ ลีตะชีวะ ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดแบรนด์น็อนแอลกอฮอล์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและกระจายสินค้าผลิตภัณฑ์ตราสิงห์ กล่าวว่า บริษัทนำร่องปรับสายการผลิตใหม่น้ำดื่มสิงห์ ในโรงงานวังน้อย จ.อยุธยา ผลิตน้ำดื่มสิงห์ ขนาดบรรจุ 1.5 ลิตร ขวด PET 1 ในรูปแบบใสพร้อมให้ข้อมูลรายละเอียดผลิตภัณฑ์ด้วยเทคนิคตัวอักษรพิมพ์นูนออกมาจากผิวขวด โดยใม่ต้องใช้พลาสติกแสดงมาห่อหุ้ม   

“การปรับกระบวนการผลิตขวดน้ำดื่มสิงห์ ขนาด 1.5 ลิตรในครั้งนี้ เพื่อตอกย้ำแบรนด์ที่มุ่งมั่นต่อการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมผ่านบรรจุภัณฑ์พลาสติกใสตลอดทั้งขวดนี้ ที่สามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้แบบ 100% อีกด้วย” พรรณทิพย์ กล่าว

แนวทางดังกล่าวยังสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสำคัญและใส่ใจกับปัญหาสิ่งแวดล้อม พร้อมมองหาผลิตภัณฑ์ หรือ แบรนด์ที่มีส่วนร่วมในด้านดังกล่าวและมีแนวโน้มยายการเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งผลิตภัณฑ์น้ำดื่มตราสิงห์ในฐานะผู้นำตลาดน้ำเปล่าดื่ม ขนาดบรรจุ 1.5 ลิตร ที่มีส่วนแบ่งราว 49% มองเห็นโอกาสจากการใช้พื้นที่จำหน่ายสินค้าน้ำเดื่มสิงห์ บนชั้นวาง (เชลฟ์) นำมาสื่อสารกับผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ผ่านบรรจุภัณฑ์ขวดใสดังกล่าว เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร่วมกันในที่สุด 

ทั้งนี้บริษัทฯ ยังร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ‘โลตัส’ ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ นำร่อง 30 สาขาวางจำหน่ายน้ำดื่มสิงห์ขนาด 1.5 ลิตรแบบแพ็ค 6 ขวด เจาะกลุ่มเป้าหมายครอบครัว และคนรุ่นใหม่ ซึ่งพบว่าน้ำดื่มสิงห์ขนาดบรรจุ 1.5 ลิตร เป็นรายการสินค้าที่มียอดขยายสูงสุดในพอร์ตของน้ำดื่มสิงห์ โดยน้ำดื่มสิงห์บรรจุภัณฑ์แพ็ก 6 ขวด จะยังให้รายละเอียดข้อมูลสินค้าในรูปแบบการพิมพ์สี ที่แสดงไว้บนพลาสติกที่ห่อหุ้มเพื่อบ่งบอกถึงตราสัญลักษณ์น้ำดื่มสิงห์ ไว้เช่นเดิม

พร้อมกันนี้ บริษัทยังร่วมลดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น โดยร่วมทำโครงการสิ่งแวดล้อมกับแบรนด์แฟชั่นของไทยอย่าง ‘PIPATCHARA’ สร้างผลงานคอลเล็กชันพิเศษที่ผลิตจาก ขวดน้ำดื่มสิงห์ PET และฝาขวด PET และได้การตอบรับเป็นอย่างดี

ล่าสุด น้ำดื่มสิงห์ ทำโครงการคอลลาบอเรชันพิเศษ Singha Drinking Water X Reroute Collection ของทั้งสองแบรนด์เพื่อร่วมขับเคลื่อนความยั่งยืน สู่การนำขวดน้ำดื่มสิงห์มาผลิตเป็นคอลเลกชันเสื้อผ้า เปลี่ยนแปลงคุณค่าของขวดพลาสติกสู่วัสดุรีไซเคิลที่สร้างประโยชน์ต่อไป

นอกจากนี้ยังมีแคมเปญ ‘แยก แลก ลุ้น’ ผู้บริโภคที่ซื้อน้ำดื่มสิงห์สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลก ดังนี้ 1. แยก เมื่อน้ำดื่มสิงห์ ขวดใสรักษ์โลก ครบ 3 แพ็ก จะได้รับถุง Recycle Bag สำหรับแยกขวด PET เพื่อนำขวดพลาสติกที่ใช้แล้วมาคืนทุกวันอาทิตย์สิ้นเดือนที่โลตัส 30 สาขาที่ร่วมโครงการ 2.แลก ผู้บริโภคสามารถร่วมสนุกเพื่อต่อยอดการรักษ์โลก โดยขวด PET ทุกขวดที่เก็บกลับมา สามารถนำไปแลกของรางวัล เช่น กระเป๋าผ้า แก้วน้ำ Tumbler หรือลุ้นรับ เสื้อยืดลายน้ำดื่มสิงห์ และ 3.ลุ้น ทุกยอดการซื้อ ยังมีสิทธิ์ลุ้น เสื้อผ้าคอลเลกชัน “Singha Drinking Water X Reroute” และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ผ่านแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART Apps

พรรณทิพย์ กล่าวว่าในปี 2567 บริษัทเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตน้ำดื่มสิงห์ ในโรงงานที่ครอบคลุมการทำตลาดในพื้นที่ภาคกลางและปริมณฑลโดยรอบกรุงเทพเพื่อทำตลาดเชิงรุกในปีนี้มากขึ้น และในอนาคตยังมีแผนปรับสายการผลิตน้ำดื่มขวดบรรจุภัณฑ์ใสดังกล่าวเพื่อรองรับความต้องการตลาดที่คาดว่าจะขยายตัวขึ้นอีก

จากปัจจุบันน้ำดื่มสิงห์ มีโรงงานผลิต 5 แห่ง ในจังหวัดอยุธยา (วังน้อย) สิงห์บุรี มหาสารคาม สุราษฎร์ธานี และ เชียงใหม่ ซึ่งแต่ละแห่งยังมีกำลังการผลิตรองรับเพียงพอซึ่งยังไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มแต่อย่างใด โดยมีสัดส่วนการผลิตขวดPET กว่า 95% ส่วนที่เหลือน้อยกว่า 5% เป็นสายการผลิตขวดแก้ว ทำตลาดหลักในช่องทางร้านอาหารและโรงแรม 

ปัจจุบันน้ำสิงห์มียอดขายสูงสุดตามลำดับ คือ 1. ขนาดบรรจุ 1.5 ลิตร,  2. ขนาดบรรจุ 600 มล., 3.ขนาดบรรจุ 750 มล. ส่วนที่เหลือลำดับ4 และ 5 ใกล้เคียงกัน คือ ขนาดบรรจุ 330 มล. และขนาดบรรจุ 6 ลิตร โดยปีนี้ บริษัทวางเป้าหมายการเติบโตเชิงปริมาณ (Volume) น้ำเปล่าดื่มเพิ่มอีก 0.5 % หรือประมาณ 100 ล้านลิตร จากในปี 2566 ที่ผ่านมามูลค่าตลาดรวมเชิงปริมาณอยู่ที่ 3.700 ล้านลิตร และตลาดรวมเชิงมูลค่าอยู่ที่ 38,000 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์ตราสิงห์ครองส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 สัดส่วน 20% ส่วนแบรนด์อันดับสอง มีสัดส่วน 18.6%       

ด้าน ยุวดี ถาวรไชยโสภณ รองผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร โลตัส กล่าวว่าความร่วมมือระหว่างบริษัทบุญรอดฯ ครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนงานด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ช่วยให้ลูกค้าและประชาชนสามารถแยกและรีไซเคิลขยะได้อย่างสะดวกผ่านสาขาของโลตัสกว่า 30 สาขาที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยลูกค้าสามารถนำขวดน้ำดื่มสิงห์มาส่งมอบที่จุดรับคืนในโลตัส เพื่อเก็บรวบรวมขวดน้ำที่ใช้แล้วกลับเข้าสู่ระบบและนำไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธีต่อไป  อีกทั้งยังลดการทิ้งขยะสู่หลุมฝังกลบได้อีกด้วย

 

TAGS: #น้ำดื่มสิงห์ #โลตัส