‘พิซซ่า คอมปะนี’ วางกลยุทธ์รักษาแชมป์เบอร์หนึ่งตลาดพิซซ่า 1.1 หมื่นล.บาท ชูจุดขายเดลิเวอรีการันตีส่งใน 20 นาที พร้อมดึง ‘บิวกิ้น-พีพี’ พรีเซ็นเตอร์คู่ครั้งแรกประเดิมแคมเปญ1แถม1 เข้าถึงคนรุ่นใหม่

ปัทม์ พงษ์วิทยาพัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในปี 2567 บริษัทฯ วางแนวทางดำเนินธุรกิจร้านเดอะพิซซ่า คอมปะนี ด้วยกลยุทธ์ต่อเนื่องจากปีก่อน โดยมุ่งทำความเข้าใจเชิงลึกผู้บริโภคไปพร้อมการปรับใหญ่ภาพรวมแบรนด์เดอะพิซซ่าฯ ทั้งบรรยากาศภายในร้านสาขาและบริการ เพื่อรักษากลุ่มเป้าหมายหลักครอบครัวและเด็กได้อย่างต่อเนื่อง 

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งจากการใช้ 2 ศิลปินนักแสดงนักร้อง ‘บิวกิ้น-พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล’ และ ‘พีพี-กฤษณ์ อำนวยเดชกร’ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่ใหม่ครั้งแรกของเดอะพิซซ่า คอมปะนี เพื่อร่วมสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้างจากฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยคู่พรีเซ็นเตอร์ดังกล่าวนี้ยังมีบุคคลิกที่ตรงกับดีเอ็นเอแบรนด์ที่มีความทันสมัย กระฉับกระเฉง และเข้าถึงได้ง่ายของแบรนด์ เดอะพิซซ่าฯอีกด้วย  

ขณะเดียวกัน เพื่อตอกย้ำความเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดพิซซ่าอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังนำเสนอบริการส่งอาหารถึงที่(เดลิเวอรี) ผ่านแอปพลิเคชัน เดอะพิซซ่า คอมปะนี ด้วยจุดเด่นใหม่ ‘การันตีจัดส่งภายใน 20 นาที’ เป็นแห่งแรกในโลกโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เบื้องต้นจะรองรับพื้นที่ให้บริการในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลผ่านร้านสาขาจำนวน 40 แห่ง จากทั้งหมด 70 สาขาที่เปิดให้บริการในกรุงเทพฯ 

“เดอะพิซซ่า คอมปะนี การันตีการจัดส่งใน20 นาที ซึ่งยังมาจากการทำรีเสิรช์พบว่าการนำส่งอาหารในช่วงเวลาดังกล่าวเมื่อถึงมือลูกค้าแล้วจะยังมีความอร่อยเทียบกับการนั่งรับประทานในร้าน โดยบริษัทได้ปรับปรุงการดำเนินการภายในใหม่ แบ่งเป็นการจัดการในครัว 12 นาที ใช้เวลานำส่ง 8 นาที ภายในรัศมี 3 กิโลเมตร จากก่อนหน้าเดอะพิซซ่าฯ การันตีจัดส่ง 30 นาที แบ่งเป็นงานครัว 15 นาที จัดส่ง 15 นาที ในรัศมีการส่ง 5 กิโลเมตร” ปัทม์ กล่าว

สำหรับการให้บริการดังกล่าว ยังสอดคล้องกับการทำตลาดภายใต้แคมเปญใหญ่ประจำปี2567 คือ ‘1 แถม1 คู่ฟินขวัญใจมหาชน (Buy One Get One) ซื้อ1 ถาดแถมฟรี 1 ถาด สำหรับพิซซ่าทุกหนื้ ทุกขอบ ทุกที่ทั่วไทย 2 ถาดในราคาเริ่มต้น 279 บาท โดยแคมเปญฯเริ่มวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึง วันที่ 17 เมษายน นี้ พร้อมเปิดตัวเมนูใหม่ ‘พิซซ่าไส้กรอกยั่วนัวเบคอน’ ไส้กรอกรมควีนพร้อมแฮม เปปเปอโรนี พร้อมซอสศรีราชามาโยและขอบไส้กรอกชีสพันเบคอน ในราคา 479 บาท

นอกจากนี้ในช่วงเดือนเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทยังได้เปิดตัวเมนูเพื่อทำตลาดเดลิเวอรี สำหรับพิซซ่าถาดเล็กเริ่มต้น 99 บาท เมนูนั่งทานในร้าน พิซซ่า ถาดเดี่ยว ราคา 139 บาท และ สลัดราคาเริ่มต้น 79 บาท เป็นต้น เพื่อรองรับพฤติกรรมเชิงลึกผู้บริโภคคนไทยรุ่นใหม่ ที่มีรูปแบบการใช้ชีวิตคนเดียว (Single Customer) ที่มีสัดส่วนราว 20% และขยายตัวมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ   

ปัทม์ กล่าวว่าภาพรวมการให้บริการเดอะพิซซ่า คอมปะนี ปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 3 ช่องทางหลัก คือ บริการเดลิเวอรี สัดส่วน 45%  เติบโตขึ้นก่อนช่วงโควิดซึ่งมีสัดส่วนราว 25% บริการนั่งรับประทานในร้าน (Die-in) สัดส่วน 30% เติบโต 25% และ บริการซื้อกลับ (Take Away) 25%

“การทำตลาดเชิงรุกเดอะพิซซ่าฯ ในปีนี้เพื่อมอบประสบการณ์ให้บริการเดลิเวอรีที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะผ่านพ้นช่วงโควิดและเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว แต่ปัจจุบันยังมียอดคำสั่งซื้อสูงอยูถึง 2,500-3,000 ออเดอร์ต่อเดือนต่อสาขาในปัจจุบัน” ปัทม์ กล่าว  

โดย 5 อันดับเมนูยอดนิยมพิซซ่าที่คนไทยนิยมสั่งสูงสุด ได้แก่ 1. พิซซ่าฮาวายเอี้ยน 2.พิซซ่าซีฟู้ดค็อกเทล 3.พิซซ่าแฮมและปูอัด 4.พิซซ่าดับเบิลชีส และ5.พิซซ่าดีลุกซ์ โดยปัจจุบันคนไทยมีอัตราการเข้าถึงบริโภคพิซซ่าทั้งประเทศอยู่ที่ 60% ของจำนวน 7 ล้านครัวเรือน หรือ 66 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งมาจากการเก็บข้อมูลเชิงลึกฐานลูกค้าสมาชิกบัตรพิซซ่าคลับ การ์ด ที่ปัจจุบันมีจำนวน 3 แสนรายพร้อมวางเป้าหมายเติบโตเพิ่มเป็น 100 % ในปี 2567 นี้  

ด้าน ธันยเชษฐ์ เอกวิชวิท ปรานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัทเดอะไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในปีนี้ บริษัทวางแผนขยายร้านเดอะพิซซ่าฯ จำนวน 25 สาขาใหม่ แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพฯ 10 สาขา และต่างจังหวัดในหัวเมืองรอง 15 สาขา จากปัจจุบันเปิดให้บริการครอบคลุม 77 ทั่วประเทศแล้ว โดยแบรนด์เดอะพิซซ่า คอมปะนี เป็นผู้นำตลาดพิซซ่าในไทย สัดส่วน 70% ของมูลค่าตลาดรวมราว 1.1 หมื่นล้านบาท โดยในสิ้นปีนี้วางเป้าหมายรายได้เติบโต 25% 

ปัจจุบันเดอะพิซซ่า คอมปะนี มีสาขาให้บริการทั่วโลกใน 7-8 ประเทศ จำนวน 590 แห่ง มีสาขาในไทยราว 420 สาขา โดยเป็นรูปแบบแฟรนไชส์ราว 199-200 สาขา