กวิน อินเตอร์เทรด มองตลาดการจัดงานแสดงสินค้าฯ กลับมา 100% ในปีนี้ จับตา 4 ชาตินักลงทุนมุ่งจับคู่ธุรกิจในไทย ‘จีน’ มาเบอร์หนึ่ง
กวิน กิตติบุญญา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กวิน อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้า กล่าวว่าข้อมูลสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. (TCEB) ระบุภาพรวมการเติบโตอุตสาหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวศักยภาพ หรือ ไมซ์ (MICE) ประกอบด้วย การประชุมองค์กร (M), การท่องเที่ยวเพื่อรางวัล (I), การประชุมจัดเลี้ยง (C) และการจัดแสดงสินค้านิทรรศการ (E) ซึ่งพบว่ากลุ่มตัวอี มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 100% ในปี 2567 นี้ จากปี 2566 ที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตอยู่ที่ 90% เมื่อเทียบกับ MICE ทั้งหมด
จากแนวโน้มดังกล่าว ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ทั้งการขยายความร่วมมือการลงทุนธุรกิจใหม่ร่วมกัน ด้วยการจับคู่พันธมิตรธุรกิจผ่านการออกงานแสดงสินค้าฯ ที่ทั่วโลกกลับมาสู่รูปแบบปกติในปีนี้ หลังวิกฤตช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจต่างปรับรูปแบบการทำงานให้สอดคล้องกัน ด้วยไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้เต็มที่จากสถานการณ์ดังกล่าว
โดยบริษัทฯ มองว่าการฟื้นตัวของตลาดกลุ่มการจัดงานแสดงสินค้าฯ มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1. ความมั่นใจจากทั้งผู้ขาย ผู้ซื้อ และผู้จัดงาน ที่ต้องการร่วมออกบูธแสดงสินค้าเพื่อพะบปะกันแบบตัวต่อตัว (Face to Face) มากกว่า หลังได้เรียนรู้รูปแบบการจัดงานแสดงสินค้าฯในลักษณะออนไลน์ไปก่อนหน้า แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนักในการเจรจาข้อตกลงทางธุรกิจ (Dealing )
2.การกลับมาของอุตสาหกรรมการบิน ที่อำนวยความสะดวกสบายการเดินทางระหว่างประเทศของผู้คนทั่วโลก ทำให้นักธุรกิจแต่ละประเทศเริ่มออกเดินทางเพื่อมองหาพันธมิตรและแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ ในประเทศท้องถิ่นต่าง ๆ มากขึ้น
“ความต้องการขยายตัวของธุรกิจทั่วโลกหลังผ่านพ้นสถานการณ์โควิดฯ นับจากปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดกลุ่มตัวอี หรือ การจัดแสดงสินค้าและนิทรรศการที่เกิดขึ้นในไทยมีการรีบาวด์กลับมา ด้วยการพบปะหรือเจอคู่ค้าระหว่างกันแบบเห็นหน้าสร้างความรู้สึกเชื่อมั่นได้มากกว่ารูปแบบออนไลน์” กวิน กล่าว
จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้ในปี 2567 บริษัทฯ ได้เตรียมจัดงานแสดงสินค้าฯ จำนวน 8 งานใหญ่ตลอดทั้งปีนี้ ประกอบด้วย
ระหว่างวันที่ 23-25 พฤษภาคม นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา
- งาน ASEAN Healthcare Beauty Wellness 2024
ระหว่างวันที่ 11-14 กรกฎาคม นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา
- งาน Thailand Franchise & Business Opportunity 2024 (TFBO) ครั้งที่ 20
- งาน Thailand Retail, Food & Hospitality Services 2024 (TRAFS) ครั้งที่ 18
- งาน ASEAN Retail 2024 ครั้งที่ 9
- งาน PUB and BAR ASIA 2024 ครั้งที่ 2
ระหว่างวันที่ 24-27 ตุลาคม นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา
- งาน ASEAN Café Show 2024 ครั้งที่ 18
ประกอบด้วย
- Thailand Coffee Tea & Drinks 2024
- Thailand Bakery & Ice Cream 2024
ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม ถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา
- งาน ASEAN Cold Pharma Chain 2024 ครั้งที่ 3
- งาน ASEAN Logistics & Warehouse 2024 ครั้งที่ 3
กวิน กล่าวว่าจากการจัดงานฯ ทั้งหมดสะท้อนถึงความต้องการของธุรกิจแต่ละกลุ่มที่เตรียมฟื้นตัวกลับมา โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงธุรกิจผับบาร์ เพื่อรองรับนักเดินทาง นักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ตามเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่คาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้อยู่ที่ 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวสะสมอยู่ที่ 27 ล้านคน
นอกจากนี้ ยังรวมถึงการสนับสนุนของหน่วยงานรัฐ ในธุรกิจไมซ์ ที่มีแผนกระจายการจัดงานไปยังภูมิภาคในรูปแบบ MICE City ครอบคลุมใน 13 จังหวัดของไทย ที่จะผลักดันให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนได้รับอานิสงส์ ไปด้วยเช่นกัน
ขณะที่ผู้ร่วมงานแสดงสินค้า (Exhibitor) ต่างชาติ ที่สนใจร่วมงานแสดงสินค้าฯ ที่บริษัทเตรียมจัดขึ้นตลอดทั้งปีนี้ มี 4 อันดับแรก คือ 1. จีน 2. เกาหลีใต้ 3.ไต้หวัน อันดับ 4. และ5. ใกล้เคียงกัน คือ อินเดีย และ มาเลเซีย
“นักธุรกิจจากจีนมีแนวโน้มขยายการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นไม่เฉพาะในไทย ด้วยเป็นเพราะนโยบายของรัฐบาลจีน มีงบประมาณสนับสนุนพร้อทส่งเสริมเพื่อกระตุ้นให้ธุรกิจท้องถิ่นในประเทศออกไปหาโอกาสการเติบโตนอกประเทศ มากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา” กวิน กล่าว
พร้อมเสริมว่า การจัดงานแสดงสินค้าฯ ในไทยช่วงครึ่งแรกปี 2567 นี้ ตราบใดที่การเมืองในประเทศนิ่ง ไม่มีผลกระทบต่อความอ่อนไหวของผู้บริโภค หรือ มีความเชื่อมั่นเป็นบวก คาดว่าจะยังส่งผลดีต่อภาพรวมด้วยภาคเอกชนส่วนใหญ่มีความสามารถด้านการบริหารจัดการธุรกิจได้ดีอยู่แล้ว ด้วยในขณะนี้มีกลุ่มผู้ร่วมแสดงสินค้าฯ ต่างชาติที่เป็นฐานเดิม ราว 60-70% ได้ตอบรับการกลับมาร่วมจัดงานฯ ในประเทศไทยแล้ว