พลังงานส่งสัญญาณมาตรการตรึงดีเซลไปต่อยาก หลังควักจ่ายเดือนละ 1 หมื่นล้าน ส่งผลกองทุนน้ำมันฯติดลบแล้ว 9.1 หมื่นล้าน จ่อคุยคลังลดภาษีเพิ่ม-ขยับเพดานราคาสะท้อนตลาดโลก

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า  ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการทบทวนมาตรการดูแลค่าครองชีพประชาชนด้านพลังงาน โดยเฉพาะการตรึงราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท  เนื่องจากที่ผ่านมาระดับราคาน้ำมันโลกยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ส่งผลให้การใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อพยุงดูแลราคามีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ล่าสุดอุดหนุนราคาอยู่ 4.35 บาทต่อลิตร ซึ่งหากปรับราคาดีเซลให้สะท้อนต้นทุนจริงราคาขายปลีกจะอยู่ที่ 34.35 บาท

ขณะที่ปัจจุบันณ วันที่  25 ก.พ. 67 ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิติดลบ 91,887 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 45,222 ล้านบาท บัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) ติดลบ 46,665 ล้านบาทโดยเป็นการติดลบเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนถึง 2,005 ล้านบาทและทำสถิติสูงสุดในรอบปี 2567 เนื่องจากระดับราคาน้ำมันตลาดโลกยังทรงตัวระดับสูง

ทั้งนี้มาตรการดูแลตรึงราคาดีเซลของกระทรวงพลังงงานที่ระดับ 29.94 บาท/ลิตร(ไม่เกิน30บาท/ลิตร)นั้นจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 มี.ค.67 นี้ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องหารือกับกระทรวงการคลังถึงแนวทางการปรับลดภาษีสรรพสามิตดีเซลเพิ่มเติมที่มากกว่า 1 บาท/ลิตร และอาจต้องมองไปถึงการขยับเพดานราคาดีเซลเพิ่มขึ้นควบคู่กันไปเช่น 32-33 บาท/ลิตรขึ้นอยู่กับการลดภาษีฯคลังและราคาตลาดโลกเป็นสำคัญ

 สำหรับมาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิตดีเซลนั้นครม.ได้ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราลดลง 1 บาทต่อลิตร 3 เดือน ตั้งแต่ 20 ม.ค. – 19 เม.ย. 2567  ซึ่งในส่วนของภาษีฯเองยังคงใช้ได้ถึงวันที่ 19 เม.ย . โดยการบริหารภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ ยังมีเงินวงเงินกู้ที่สามารถทยอยเบิกจ่ายเหลืออยู่ 30,000 ล้านบาท ดูแลดีเซลไปได้อีกระยะหนึ่งถ้าราคาดีเซลยังคงทรงตัวระดับปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามแนวทางการบริหารจะต้องกำหนดให้ชัดเจนในเดือนพ.ค.นี้เนื่องจากสภาพคล่องกองทุนฯเริ่มวิกฤติและที่สำคัญในเดือนพ.ย. 67 จะต้องใช้หนี้คืนเงินต้นล็อตแรก 30,000 ล้านบาท จากที่ได้ทยอยลงนามในสัญญากู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินรวม 105,333 ล้านบาทตามแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ดังนั้นจึงมีทางเลือกที่หลักๆ คือ

 1.หากระดับราคาน้ำมันดีเซลตลาดโลกอยู่ระดับ 100-105 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลกระทรวงพลังงานจำเป็นจะต้องขอให้กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลังพิจารณาปรับลดภาษีฯดีเซลจาก 1 บาท/ลิตรเป็น 2 บาท/ลิตรและอาจต้องขยับเพดานราคาดีเซลเพิ่มเป็น 32-33 บาท/ลิตรเพื่อให้สามารถมีเงินบริหารสภาพคล่องได้มากขึ้นหากเกิดกรณีราคาตลาดโลกผันผวนหนัก

 2.ปรับลดภาษีดีเซลเป็น 5 บาท/ลิตรและขยับเพดานดีเซลเป็น 32 บาท/ลิตรเพื่อให้กองทุนฯสามารถบริหารการจัดเก็บน้ำมันเข้ากองทุนฯเพื่อสะสมในการชำระหนี้เงินต้นในเดือนพ.ย.นี้ให้ได้ทันเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสถาบันการเงินที่กู้ยืมมา   

แหล่งข่าวกล่าวว่า  สิ่งสำคัญคือราคาน้ำมันตลาดโลกที่ต้องติดตามใกล้ชิดหากลดลงต่ำก็จะทำให้การบริหารสภาพคล่องดีขึ้นแต่หากราคาสูงจะยิ่งกดดันต่อสภาพกองทุนฯให้วิกฤติยิ่งขึ้น