เซ็นทรัลฯ ส่ง ‘Tops Daily‘ ขยายธุรกิจผ่านโมเดลแฟรนไชส์ ให้ผู้สนใจลงทุนเริ่มต้น 1.07 ล.บาท โชว์ 4 จุดต่างแข่งขันตลาดในไทยยังมีช่องว่างเพียบ
เมทินี พิศุทธิ์สินธพ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้บริหารธุรกิจร้านค้าปลีก 4 รูปแบบ (ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด และท็อปส์ คลับและร้านสุขภาพความงาม) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดค้าปลีกในกลุ่มร้านค้าสะดวกซื้อ/มินิ ซูเปอร์มาร์เก็ต ในไทยยังมีโอกาสขยายการเติบโตเพื่อรองรับประชากรในประเทศสูง สอดคล้องข้อมูลทางการตลาดพบว่า ในประเทศไทยมีสัดส่วนร้านสะดวกซื้อ/มินิ ซูเปอร์มาเก็ต 1 ร้านต่อประชากร 4,428 คน ส่วนในเกาหลีมีสัดส่วนร้านสะดวกซื้อต่อประชากรอยู่ที่ 1 ร้านต่อ 953 คน และในประเทศญี่ปุ่น มีสัดส่วนร้านสะดวกซื้อต่อประชากรอยู่ที่ 1 ร้านต่อ 2,220 คน
จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทฯ วางตำแหน่งให้ Tops Daily เป็นแบรนด์มินิซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่อทำตลาดเชิงรุกในธุรกิจค้าปลีกสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก ที่มีความแตกต่างไปจากผู้ให้บริการรายอื่นที่มีรูปแบบธุรกิจใกล้เคียง ในรูปแบบแฟรนไชส์ ผ่าน 4 จุดขายหลัก ได้แก่
- ลงทุนต่ำ คืนทุนไว กำไรดี การันตีรายได้ โดยแฟรนไชส์ท็อปส์ เดลี่ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
- รูปแบบที่ 1 สำหรับผู้ที่มีกรรมสิทธิ หรือสิทธิครอบครองที่ดิน/อาคาร ขนาดมากกว่า 200 ตรม. เป็นระยะเวลามากกว่า 9 ปี ใช้เงินลงทุน 4 - 6 ล้านบาท การันตีรายได้ 150,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 24 เดือนแรกของสัญญา
- รูปแบบที่ 2 สำหรับผู้ที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองที่ดิน แต่สนใจที่จะเข้าสวมสิทธิ์บริหารร้านท็อปส์ เดลี่ ที่เปิดอยู่เดิม ใช้เงินลงทุน 1.07 ล้านบาทขึ้นไป การันตีรายได้ 60,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 24 เดือนแรกของสัญญา
- ธุรกิจแฟรนไชส์สำหรับผู้ลงทุนทุกกลุ่ม ทุกประเภท ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ครอบคลุมตั้งแต่บุคคลทั่วไปที่มีความใฝ่ฝันเป็นเจ้าของธุรกิจที่มั่นคงในระยะยาว และกลุ่มนักลงทุนที่มองหาเส้นทางการเติบโตของธุรกิจ เพื่อมาร่วมสมัครเป็นครอบครัวแฟรนไชส์ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
- การันตีความสำเร็จด้วยศักยภาพอันแข็งแกร่ง – ปัจจุบัน ท็อปส์ เดลี่ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 515 สาขา มีอัตราการเติบโตของยอดขายสูงต่อเนื่อง พร้อมจุดเด่นและความแตกต่างด้านสินค้าคุณภาพที่หลากหลาย รวมกว่า 6,000 SKU ครอบคลุมทั้งสินค้านำเข้า สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ สินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวันและสินค้า Eat now Eat later เป็นต้น
- โอกาสการร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจกับเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ควบคู่กับการให้ความสำคัญในการสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างผู้คน ชุมชน และสังคม ให้มีโอกาสที่จะเติบโตไปพร้อมๆ กัน
เมทินี กล่าวว่า บริษัทยังร่วมกับพันธมิตรด้านการเงินที่สนับสนุนสินเชื่อด้านเงินทุนจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) เพื่อให้คำปรึกษาวางแผนการเงินและการลงทุน ตลอดจนการพิจารณาสินเชื่อเพื่อการลงทุนแฟรนไชส์ท็อปส์ เดลี่โดยเฉพาะ ผ่านข้อเสนอวงเงินกู้สูงสุดกว่า 5 ล้านบาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น MLR-1.25% ผ่อนชำระนานสูดสุดที่ 12 ปีและยังมีระยะเวลาปลอดชำระเงินต้นสูงสุดถึง 6 เดือน รวมถึงการพัฒนาร่วมกันกับท็อปส์ เดลี่ เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์กับนักลงทุนในทุกๆ รูปแบบที่แตกต่างกันอย่างต่อเนื่อง
“การเปิดรับสมัครแฟรนไชส์ ท็อปส์ เดลี่ ในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายการเพิ่มขึ้นของแฟรนไชส์ เป็นสัดส่วน 45% จากเดิม 30% ของสาขาทั้งหมด เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจมินิซูเปอร์มาร์เก็ตในประเทศไทยที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง” เมธินี กล่าว
ปัจจุบัน ท็อปส์ เดลี่ มีสาขาให้บริการครอบคลุม 23 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ในเขต กรุงเทพฯ และปริมณฑล 57%และ ต่างจังหวัด 43% แบ่งสัดส่วนเป็น ภาคใต้ 17%, ภาคตะวันออก 12%, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 6%, ภาคกลาง 5%ส่วนที่เหลือจะเป็นภาคตะวันตกและภาคเหนือ
โดยกลุ่มทำพื้นที่เปิดให้บริการร้านท็อปส์ เดลี่ แบ่งเป็น พื้นที่ชุมชนที่อยู่อาศัย (Residential) สัดส่วน 51% ในสถานีบริการน้ำมัน 12% สถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรม 11% และประเภทอื่นๆ 26%
จากปัจจุบันแบรนด์ท็อปส์ มีสาขาทั้งสิ้น 673 สาขา แบ่งออกเป็น Tops Food Hall จำนวน 17 สาขา Tops Fine Food 2 สาขา Tops Premium 139 สาขา และ Tops Daily 515 สาขา