เดลต้าฯ เปิดตัวโรงงานเดลต้าแห่งที่ 8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาใหม่ ในนิคมฯบางปู รับอนาคตขยายการผลิต และพัฒนาเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับอีวีของเดลต้าสู่ลูกค้าระดับโลก
วิคเตอร์ เจิ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทฯ ลงทุนมูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาท สำหรับโรงงานเดลต้าแห่งใหม่แห่งที่ 8 และศูนย์วิจัยและพัฒนาพร้อมแสดงโซลูชันอาคารอัจฉริยะและการผลิตอัจฉริยะที่ประหยัดพลังงานของเดลต้า เพื่อยกระดับความสามารถในการผลิตและมาตรฐานการผลิต
โดยโรงงานเดลต้าฯ แห่งใหม่วางเป้าหมายเพื่อตอบสนองความต้องการปริมาณยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งศูนย์วิจัยฯแห่งใหม่ยังจะช่วยพัฒนาเพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก เพื่อรองรับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพของเดลต้าครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรับและจัดเก็บวัตถุดิบไปจนถึงขั้นตอนการผลิตต่างๆ เช่น ขั้นตอนการวางชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บนแผงวงจร (SMT) ขั้นตอนการประกอบแผงวงจร (PWBA) การประกอบชิ้นส่วนต่างๆและการ burn-in พร้อมทั้งการตรวจสอบสินค้าขั้นสุดท้ายก่อนการส่งออก
“การลงทุนที่สำคัญในครั้งนี้จะนำประโยชน์มากมายมาสู่อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย รวมทั้งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” วิคเตอร์ กล่าว
สำหรับ กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าของเดลต้ามีตั้งแต่ผลิตภัณฑ์การจัดการพลังงาน รวมถึงเครื่องชาร์จในตัว ตัวแปลง DC/DC และผลิตภัณฑ์ระบบส่งกำลัง รวมทั้ง Traction inverter และ Traction motor ตลอดจนโซลูชันการจัดการความร้อนและอุปกรณ์ที่ทำงานได้ด้วยตัวเอง Passive component โดยเดลต้ามีลูกค้าระดับโลก ได้แก่ ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำจากยุโรป สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น
ทั้งนี้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 เดลต้า ประเทศไทยได้ผลิตผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับลูกค้าทั่วโลกที่โรงงานเดลต้า 1 ด้วยพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร ปัจจุบันโรงงานแห่งใหม่และศูนย์วิจัยและพัฒนาทั้ง 2 แห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 30,400 ตารางเมตร โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตอบสนองต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า
วิคเตอร์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันในโอกาสครบรอบ 35 ปีของการพัฒนา เดลต้า ประเทศไทยเป็นบริษัทหนึ่งเดียวในประเทศไทยที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ซึ่งเป็นดัชนีที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ในหมวด "ชิ้นส่วนอุปกรณ์ เครื่องมือ และส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์" ตั้งแต่ปี 2565 ถึง 2566 และได้รับรางวัลผู้นำด้านการมีส่วนร่วมของซัพพลายเออร์ ประจำปี 2565 จาก CDP ในด้านความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน
โดยในวันนี้ เดลต้า ประเทศไทย กำลังเดินหน้าสู่ก้าวใหม่ของการเติบโต ด้วยการขยายขอบเขตการวิจัยและพัฒนา การผลิต และธุรกิจในตลาดท้องถิ่น พร้อมสนับสนุนการพัฒนาในอุตสาหกรรม S-curve ของประเทศไทย ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
"วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาตลอด 35 ปีสำหรับเดลต้า ประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2553 เราได้ผลิตผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย” วิคเตอร์ กล่าวทิ้งท้าย
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพร้อมด้วยกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ร่วมพิธีเปิดเพื่อเป็นสักขีพยานความสำเร็จครั้งใหม่ของการเดินทางตลอด 35 ปีของเดลต้าในประเทศไทย พร้อมร่วมสำรวจสายการผลิตขั้นสูงของเดลต้า