Klook เผยจองเที่ยวไทย 2 เดือนแรกปี67 โต 40% เทรนด์คนรุ่นใหม่สนใจเปิดประสบการณ์ผ่านอีเวนต์ระดับโลก ชี้ ‘สงกรานต์’ ปีนี้จะบันเทิงมากเพราะยาวเกือบเดือน ดึงพันธมิตรเสิร์ฟมาม่าเจ๊โอวบนเรือเจ้าพระยา
มิเชล โฮ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Klook ประจำประเทศไทยและฟิลิปปินส์ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มจองกิจกรรมและประสบการณ์การท่องเที่ยวระดับเอชีย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดการท่องเที่ยวประเทศไทยปี 2567 ในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย จากยอดการจองกิจกรรมในเมืองไทยในช่วงเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เติบโตขึ้นกว่า 40% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี พ.ศ. 2566
“สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางบวกของตลาดท่องเที่ยวไทย และผลวิจัยที่ชี้ให้เห็นแนวโน้มความต้องการและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มีความสนใจในเทศกาลและงานอีเว้นต์ระดับโลก จึงเชื่อว่าเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 นี้ จะเป็นหนึ่งในงานเทศกาลที่นักท่องเที่ยวสนใจและเดินทางเข้ามาสัมผัสกับความสนุกสนานและเป็นเอกลักษณ์ของเทศกาลนี้เป็นจำนวนมาก” มิเชล กล่าว
พร้อมเสริมว่า Klook พร้อมมีส่วนร่วมสนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวรัฐบาลไทยแคมเปญการฉลองเทศกาลสงกรานต์ "World Songkran Festival : ประเพณีสงกรานต์ไทย หมุดหมายนักท่องเที่ยวทั่วโลก" ดำเนินงานผ่านเครือข่ายวัฒนธรรม 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ 50 เขตในกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 1 - 21 เมษายน 2567 นี้
โดย บริษัทฯ มีแผนการกระตุ้นนักท่องเที่ยวต่างชาติให้มาสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวเมืองไทยในช่วงเทศกาล ในการประชาสัมพันธ์และกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสความสนุกช่วงสงกรานต์ พร้อมส่งเสริมขยายเวลาการอยู่เมืองไทยให้ยาวนานขึ้น รวมถึงให้สัมผัสทดลองกับกิจกรรมอื่นๆ นอกเหนือไปจากการเล่นน้ำ และยังสะท้อนให้เห็นถึง 5F ของไทย อาทิ เที่ยวทะเลภาคใต้, รับประทานอาหารไทย, เรียนมวยไทย เป็นต้น
โดย Klook ได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการไทย นำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวพิเศษที่มอบความสนุกให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาทิ การเป็นพันธมิตรพิเศษต่าง ๆ อาทิ
- ร้านอาหารเจ๊โอว ร้านอาหารชื่อดังที่ได้รับรางวัลมิชลิน บิบกูร์มองต์ และเรือเจ้าพระยาปริ๊นเซส ด้วยแพ็คเกจรับประทานอาหารเมนูมาม่าเจ๊โอวบนเรือ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับการล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยาไปพร้อมๆ กับการได้ลิ้มรสอาหารไทยแสนอร่อยแบบไม่ต้องต่อคิว
- จำหน่ายบัตรเข้างาน Siam Songkran Music Festival 2024 รวมถึงได้จัดทำแคมเปญกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเมืองไทย พร้อมแจกโค้ดส่วนลดพิเศษสำหรับกิจกรรมเที่ยวไทย ที่ Klook Lounge เซ็นทรัลเวิลด์ ในเดือนเมษายน
หยุดยาวคนไทย ออกเที่ยว 5 ปลายทางฮิต
มิเชล กล่าวว่า สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้น ตัวเลขภายในของ Klook ได้สะท้อนให้เห็นถึงยอดการจองกิจกรรมท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2566 จำนวนยอดการจองกิจกรรมท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทย เพิ่มสูงขึ้นถึง 270% เมื่อเทียบกับปี พ.ศ. 2565 โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่องเป็นช่วงเวลาที่คนไทยนิยมวางแผนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยประเทศยอดนิยมสำหรับคนไทยได้แก่ ญี่ปุ่น, ฮ่องกง, สิงคโปร์, ยุโรป และ เกาหลีใต้
โดยในปีนี้นักท่องเที่ยวไทยมากกว่า 54% ยินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น และ 63% ตั้งใจที่จะแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวให้กับผู้อื่น
- 9 ใน 10 ของนักท่องเที่ยวไทยจะนิยมท่องเที่ยวกับคู่รักเป็นหลัก
- 40% ท่องเที่ยวกับครอบครัว
- 27% ท่องเที่ยวกับเพื่อน
เที่ยวไทย ให้แตกต่างด้วยกิจกรรมแบบซีฟ
มิเชล เผยต่อถึงมุมมองความสำเร็จอีเวนต์ระดับโลกที่เกิดขึ้นจากการจัดแสดงคอนเสิร์ตศิลปินนักร้องระดับโลก ‘เทเลอร์ สวิฟ’ ในสิงคโปร์ที่เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา สะท้อนการจองที่พักกิจกรรมผ่าน KLOOK นั้น ยังสอดคล้องผลวิจัยที่ชี้ให้เห็นแนวโน้มความต้องการและพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวยุคใหม่ที่มีความสนใจในเทศกาลและงานอีเว้นต์ระดับโลก มากขึ้น
“บริษัทฯ มองว่าสามารถสร้างความแตกต่างด้วยกิจกรรมที่ Exclusive อย่างเช่น การจองบัตรชมคอนเสิร์ต เทย์เลอร์ สวิฟต์ ที่สิงคโปร์ ที่สามารถดึงดูดลูกค้าไทยเข้ามาในแพลตฟอร์มจองเพื่อจองตั๋วคอนเสิร์ต และกิจกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติมจากการดูคอนเสิร์ตเพิ่มขึ้น” มิเชล กล่าว
โดย Klook คิดว่า เมืองไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการจัดงาน global event และคอนเสิร์ตระดับโลกอย่างแน่นอน โดย Klook พร้อมยินดีสนับสนุน และพร้อมนำเสนอกิจกรรมท่องเที่ยว, โรงแรมที่พัก และประสบการณ์การท่องเที่ยวอื่นๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับเมืองไทยอย่างเต็มที่
ปัจจุบัน บนแพลตฟอร์มของ Klook มีกิจกรรมหลักครอบคลุม 15 เมืองในประเทศไทย และมากกว่า 40,000 กิจกรรมครอบคลุมกิจกรรม ซื้อบัตรเข้าสวนน้ำ สวนสนุก ทัวร์กิจกรรมกลางแจ้ง นวดและสปา อาหาร บริการรถเช่า เรือเฟอรี่ และโรงแรม
ทั้งนี้ จากผลสำรวจพฤติกรรมนักท่องเที่ยว/เดินทาง จองกิจกรรมที่พักบนแพลตฟอร์ม Klook ในปี 2566 ที่ผ่านมา พบ 5 อันดับยอดนิยมจุดหมายปลายทาง ดังนี้
กลุ่มชาวไทยเดินทางไปต่างประเทศ
- ญี่ปุ่น (โอซาก้า, โตเกียว, ฮอกไกโด)
- ฮ่องกง
- สิงคโปร์
- ยุโรป (สวิสเซอร์แลนด์, อังกฤษ, ฝรั่งเศส)
- เกาหลีใต้
โดยคนไทย 65% ที่นิยมไปต่างประเทศ แบ่งเป็นกิจกรรมดังนี้
- 56% กิจกรรมกลางแจ้งและธรรมชาติ
- 50% สวนน้ำและสวนสนุก
- 50% วัฒนธรรมท้องถิ่น
- และอีเว้นท์ระดับโลก 50%
สำหรับ 5 อันดับยอดนิยมกิจกรรมที่คนไทยจองผ่าน Klook มากที่สุดคือ
- ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์
- โตเกียวดิสนีย์แลนด์
- ตั๋วเดินทางเจอาร์พาส ญี่ปุ่น
- ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ที่ญี่ปุ่น
- ตั๋วเดินทางสวิส ทราเวล พาส สวิตเซอร์แลนด์
โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทย โดยมีสถานที่และกิจกรรมยอดนิยมในปี 2566 ได้แก่
- ทัวร์เกาะ ทะเลใต้
- ซื้อบัตรเข้าชมสถานที่ยอดฮิต เช่น มหานครสกายวอล์ค
- เช่ารถ
- ล่องเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา
คนไทย พร้อมเปย์เพื่อเที่ยวเพิ่มอีก 70%
มิเชลช กล่าวต่อถึงพฤติกรรมการจองที่พักเดินทางท่องเที่ยวของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน พบข้อมูลน่าสนใจในปีนี้มีนักท่องเที่ยวในเอเชียมากถึง 64% วางแผนงบประมาณเพื่อการท่องเที่ยวมากกว่าเดิม 30-50% และ 60% แบ่งงบการท่องเที่ยวครึ่งหนึ่งไปกับกิจกรรม และประสบการณ์ในการท่องเที่ยว
- นักท่องเที่ยวชาวไทยใช้งบกับการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประมาณ 70% จากปี 2567
- นักท่องเที่ยวมาเลเซียและอินเดีย เป็นนักท่องเที่ยวที่เพิ่มงบให้กับการท่องเที่ยวปีนี้มากที่สุด
ขณะที่ การใช้โซเชียล มีเดียของคนไทยเกี่ยวกับการท่องเที่ยว พบว่า
- 92% ของนักท่องเที่ยวไทย เมื่อไปเที่ยวแล้วอยากแชร์ผ่านโซเชียล มีเดียอย่างน้อยเดือนละครั้ง
- 35% ใช้โซเชียลค้นหาแรงบันดาลใจด้านการท่องเที่ยวทุกอาทิตย์
- 90% นิยมค้นหากิจกรรมการท่องเที่ยวผ่านโซเชียล มีเดีย เพราะเชื่อข้อมูลที่มีคนนำเสนอ