ครม.เคาะหลักการร่างกม. Ease of doing Business เพิ่มความคล่องตัวให้เอกชนขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ พร้อมทบทวนทุก 5 ปี ให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. ... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอ
ทั้งนี้พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเป็นกฎหมายกลางที่ช่วยแก้ปัญหาความไม่ชัดเจนและความไม่สะดวกต่างๆ ของการอนุมัติ อนุญาต โดย พ.ร.บ. ดังกล่าวได้บังคับใช้มากว่า 8 ปีแล้ว และถึงแม้จะมีผลสัมฤทธิ์ในเชิงปฏิบัติ แต่ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจและสังคมมีการเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับการพัฒนาอย่างรวดเร็วในด้านต่างๆ ทำให้ภาครัฐต้องมีการปรับตัว ก.พ.ร. จึงได้ปรับปรุงเพื่อแก้ไขปัญหาในการบังคับกฎหมาย ขจัดผลไม่พึงประสงค์ ตลอดทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการขออนุญาตและขอรับบริการจากหน่วยงานของรัฐ
สำหรับประเด็นสำคัญที่ได้ปรับปรุงจาก พ.ร.บ. เดิม ได้แก่ 1.การแก้ไขชื่อร่าง พ.ร.บ. เป็น พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. ... เพื่อขยายขอบเขตการบังคับใช้กฎหมายให้ไปถึงการให้บริการต่างๆ แก่ประชาชน รวมทั้งเพิ่มบทนิยามคำว่า “หน่วยงานของรัฐ”
2.กำหนดให้มีการทบทวนกฎหมายที่ให้อำนาจในการอนุญาตทุก 5 ปี โดย ก.พ.ร. หรือ คกก.พัฒนากฎหมายอาจเสนอให้หน่วยงานของรัฐแก้ไขกฎหมายก่อนกำหนดระยะเวลาดังกล่าวก็ได้ รวมทั้งให้มีการทบทวนคู่มือสำหรับประชาชนทุก 2 ปี
3.กำหนดให้ผู้อนุญาตอาจจัดให้มีช่องทางพิเศษแบบเร่งด่วน (Fast Track) โดยหน่วยงานของรัฐอาจเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษจากการใช้บริการช่องทางดังกล่าวก็ได้ 4.กำหนดเพิ่มหลักการอนุญาตโดยปริยาย (Auto Approve) 5.กำหนดให้มีระบบอนุญาตหลัก (Super License) โดย ครม. อาจกำหนดเรื่องกรณีที่ประชาชนได้รับใบอนุญาตที่เป็นใบอนุญาตหลักของเรื่องนั้นแล้ว ถือว่าได้รับอนุญาตตามกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย และ 6.กำหนดให้มีศูนย์รับคำขอกลางทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ก.พ.ร. ได้จัดทำแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลพำดับรองที่ออกตามร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว รวม 7 ฉบับ โดยออก พ.ร.ฎ. 4 ฉบับ และออกเป็นกฎกระทรวง 3 ฉบับ