‘แบร็นตัน’ ซีอีโอใหม่ RML พาแบรนด์สู่ผู้นำตลาดอสังหาฯซูเปอร์ลักซูรี่ต่างประเทศใน3ปี เจาะนักลงทุนมั่งคั่งมองหาอสังหาฯบ้านหลังที่ 2ในไทย นำทุกโครงการหรูใหม่ระดมทุนผ่าน ‘พีอี’เป้าปีหน้าพลิกกลับมีกำไร

กรณ์ ณรงค์เดช กรรมการบริษัท และประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไรมอนด์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ RML ผู้บริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างทีมบริหาร RML พร้อมแต่งตั้ง ‘แบร็นตัน จัสติน มอเรลโล’ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) RML และ ‘ปลื้มจิตต์ ไชยา’ รับตำแหน่งรักษาการประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (ซีอีโอ) เพื่อขับเคลื่อนทิศทางการดำเนินธุรกิจ RML มุ่งสู่การเป็นผู้นำอสังหาซูเปอร์ลักซูรี่ ระดับโลกในอนาคต

“จากเดิมที่ผมจะเข้ามารับตำแหน่งฯไรมอนด์แลนด์ ราว 1 ปี จนถึงปัจจุบันล่วงมา3 ปี ที่นำไปสู่การเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯเซ็กเมนต์อัลตราลักซูรี่ ในมาตรฐานระดับโลก และจากนี้ไปภายใต้การบริหารชุดใหม่พร้อมนำ RML ไปสู่ผู้พัฒนาอสังหาฯระดับซูเปอร์ลักซูรี่ในตลาดต่างประเทศ” กรณ์ กล่าว

ทั้งนี้ RML มองเห็นโอกาสจากกำลังซื้อระดับมั่งคั่งหรือ อัลตร้า ไฮ เน็ตเวิร์ท (UHNW) ที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่องและไม่ได้รับผลกระทบมากนักท่ามกลางความผันผวนเศรษฐกิจโลกเห็นได้ชัดจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา โดยกลุ่ม UHNW ทั่วโลกมีสัดส่วนราว 4.82% สหรัฐอเมริกา 7.2% และกลุ่มตะวันออกกลาง 6.2%

ขณะที่ RML มีความเข้าใจกำลังซื้อในตลาดกลุ่มนี้ เห็นได้จากการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หรูจำนวนมากในทำเลศักยภาพทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดภูเก็ต และพัทยา มานานกว่า 36 ปี ด้วยบริษัทฯ สามารถสร้างและขายได้หมดในทุกโครงการ ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้มากกว่า 50% ของไรมอนด์แลนด์ยังได้กลับมาซื้อซ้ำในโครงการอื่นๆ มากกว่า 2 ครั้ง

“ถือเป็นกลุ่มกำลังซื้อที่มีความมั่นคง แข็งแรง และลงทุนในสินทรัพย์อสังหาฯเองโดยไม่ต้องขอสินเชื่อธนาคาร อีกทั้งยังป็นกลุ่มที่มีการส่งต่อความมั่งคั่งจากรุ่นสู่รุ่นมาโดยตลอด” กรณ์ ย้ำ

กรณ์ กล่าวเสริมว่า บริษัทฯ ยังมองโอกาสการขยายตลาดอสังหาฯกลุ่ม UHNW ชาวต่างชาติที่มองหาที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังที่2 ในประเทศไทย ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จากหลายปัจจัยบวก ทั้งสภาพแวดล้อม ผู้คน ที่เปิดรับทุกชาติ ศาสนา ฯลฯ สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นสวรรค์ของนักลงทุนบ้านหลังที่ 2 ของชาวต่างชาติ

“แนวโน้มดังกล่าว ยังมีความเป็นไปได้ในอนาคตที่จะขยายความร่วมมือระหว่าง RML และ พันธมิตรธุรกิจสายการบิน Really Cool  ของคุณพาที สารสิน ผู้บริหารสายการบินดังกล่าว และยังเป็นกรรมการบริหาร RML ด้วยเช่นกัน ต่อการนำกำลังซื้อกลุ่ม UHNW เข้ามาลงทุนสินทรัพย์อสังหาฯบ้านหลังที่ 2 ในไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มประเทศคาซัคสถาน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดกำลังซื้อมั่งคั่งที่น่าสนใจ พร้อมขยายการลงทุนอสังหาฯต่อไปในตลาดต่างประเทศ อาทิ ยุโรป สหราชอาณาจักร อิตาลี รวมถึงในเอเชีย อย่างสิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน ที่ยังมีโอกาสการลงทุน คาดเห็นความชัดเจนในปีหน้า” กรณ์​ กล่าว     

ทั้งนี้ โครงการฯ RML จะเปิดตัวหลังจากนี้จะมีระดับราคาเริ่มต้น 300-400 ล้านบาทขึ้นไปเพื่อรองรับกำลังซื้อกลุ่ม UHNW พร้อมเสริมว่าในปี 2567 นี้ บริษัทฯ เตรียมพัฒนา 3 โครงการอสังหาฯ ระดับอัลตร้าลักซูรี่ รวมมูลค่ากว่า 16,000-17,000 ล้านบาท แบ่งเป็น

1.โครงการบ้านอัลตร้า ลักซูรี่ พร้อมพงษ์-ทองหล่อ กรุงเทพ รวมมูลค่า 3,000 ล้านบาท

บนทำเลซอยสุขุมวิท 28 ประกอบด้วย คฤหาสน์ 2 หลัง จำนวน 2แปลง และแมนชั่น 3 หลังติดกันวางระดับราคาประมาณ 500-700 ล้านบาทต่อหลัง คาดพร้อมเปิดขายแบบส่วนตัว (Private Sale) ในไตรมาส3 ปี2567

2.โครงการแบรนเด็ดเรสซิเดนซ์ ROSEWOOD RESIDENCES KAMALA มูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท

บนทำเลหาดกมาลา จังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย วิลล่าเพื่อการขายจำนวน 25 ยูนิต ราคาไม่ต่ำกว่า 450 ล้านบาทต่อยูนิต เริ่มเปิดการขายราวไตรมาส4 ปี 2567  

3. โครงการคฤหาสน์ริแม่น้ำเจ้าพระยา  ULTRA LUXURY STANDALONE RESIDENCE RIVERSIDE, BANGKOK มูลค่ามากกว่า 1,000 บ้านจำนวน1 ยูนิต

บนทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งเจริญนคร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกำหนดรายละเอียดด้านต่างๆ ตามความต้องการเฉพาะของนักลงทุน ที่จะได้ครอบครองโครงการฯดังกล่าว คาดพร้อมเปิดการขายในไตรมาส4 ปี 2567 เช่นกัน

“การพัฒนาคฤหาสน์หรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อทำตลาดเพียงหนึ่งหลังเท่านั้น ยังตอกย้ำไรมอนแลนด์ในฐานะผู้พัฒนาอสังหาระดับซูเปอร์ลักซูรี่ เช่นเดียวกับการทำโครงการโอซีซี อาคารสำนักงานระดับหรูที่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว ที่สนับสนุนให้แบรนด์ RML ไปสู่ตลาดอสังหาฯซูเปอร์ลักซูรี่ ระดับโลกได้ตามแผนที่วางไว้ ” กรณ์ กล่าว

ด้าน แบร็นตัน จัสติน มอเรลโล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RML กล่าวว่าจากการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ พร้อมนำ RML ไปสู่ผู้พัฒนาโครงการระดับซูเปอรักซูรี่ภายใต้มาตรฐานระดับโลก ด้วย 4กลยุทธ์สำคัญ ประกอบด้วย

1. เพิ่มศักยภาพการทำงานภายในองค์กร โดยปรับโครงสร้าง และกระบวนการทำงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับแผนธุรกิจ
2. สร้างประสิทธิภาพการลงทุน เพื่อสร้างเสถียรภาพทางการเงิน จัดลำดับความสำคัญในการลงทุนให้สอดคล้องกับเสถียรภาพทางการเงิน และปรับรูปแบบการลงทุนให้เหาะสมกับกลยุทธ์และเป้าหมายที่ยั่งยืนของบริษัทฯ
3. รักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดอสังหาฯ ระดับลักซูรี่และอัลตร้าลักซูรี่ พัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่โดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด โดยมุ่งเจาะฐานลูกค้าบนยอดพิรามิด เช่นโครงการริมแม่น้ำ โครงการใจกลางเมือง รีสอร์ต เป็นต้น
4. รักษาผลประกอบการให้แข็งแกร่ง สร้างความสมดุลทางการเงินในระยะสั้นและระยะยาว และการลดต้นทุนทางการเงินที่ไม่มีความจำเป็น เพื่อสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

แบร็นตัน กล่าวว่า “แนวทางดังกล่าวเพื่อผลักดันให้แบรนด์ RML สู่การเป็น ‘Best in Class’ ที่โดดเด่นในฐานะผู้นำในตลาดอสังหาฯซูเปอร์ลักซูรี่ ภายใน 2 ปี และก้าวสู่การเป็นอินเตอร์ชั่นแนลแบรนด์ ภายใน 3-5 ปีนับจากนี้”  

ทั้งนี้ RML จะใช้เงินทุนจากการระดมทุนผ่านกองทุนส่วนบุคคล หรือ พีอี (Private Equity Fund) ในทุกโครงการฯที่เปิดตัวใหม่ในปีนี้ ขณะเดียวกันก็พร้อมนำอาคารสำนักงานโอซีซี ขายผ่านในรูปแบบพีอี หรือ ขายเข้ากองทุน REIT เช่นกัน

จากทิศทางธุรกิจดังกล่าวบริษัทคาดว่าในปี 2568 บริษัทจะพลิกกลับมาเป็นกำไร และเพิ่มมูลค่าราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่ปี 2569 หลังจากขาดทุนต่อเนื่องในช่วงหลายปีก่อน โดยในปี 2566 มีผลขาดทุนสุทธิ 836.9 ล้านบาท