NEPS ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตเท่าตัว ตอบรับกระแสเทรนด์โซลาร์เซลส์ช่วยลดค่าไฟ เดินหน้าพัฒนาธุรกิจตั้งโรงงานแบตเตอร์รี่เก็บกักไฟฟ้าสร้างความยั่งยืน
นายตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิว เอ็นเนอร์จี พลัส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ NEPS เปิดเผยแผนธุรกิจในปี 2567 ยังคงเดินหน้าพัฒนาการให้บริการพลังงานแสงอาทิตย์(โซลาร์เซลส์)แบบ One Stop Solutions ซึ่งตอบโจทย์พลังงานทางเลือกให้กับลูกค้า โดยปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 500 ล้านบาท หรือโตขึ้นเกือบเท่าตัวจากปีก่อน
ปัจจุบันบริษัทมีการเติบโตต่อเนื่องตามแนวโน้มการขยายตัวของโซลาร์เซลล์ หากนับตั้งแต่ปี2565 -2566 โตขึ้นมาเกือบ3เท่า ประเมินจากยอดขายและการติดตั้ง โดยเฉพาะ ช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดโรคโควิดทำให้พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของคนไทยเปลี่ยนไป
ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โซลาร์เซลส์มีการเติบโตคือ 1.การWork From Home ใช้ไฟช่วงเวลากลางวันมากขึ้น 2. สังคมผู้สูงอายุ ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ 3. ปริมาณการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ 4. ค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ปัญหาอัตราค่าไฟฟ้าที่สูงและมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้ความต้องการติดตั้งโซลาร์เซลส์ เกิดขึ้นในโรงงานอุตสาหกรรมมากกว่า 70-80% เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งรวมไปถึงโรงแรม โรงเรียน โชว์รูมจำหน่ายรถยนต์ และบ้านที่อยู่อาศัย
“ลูกค้าของNeps มีทั้งโปรเจ็ค โรงเรียน โรงแรม โรงงาน ห้างสรรพสินค้า และอีกส่วนหนึ่งคือบ้านที่ขยายตัวมากขึ้นจากเดิมมีสัดส่วน ไม่เกิน 5% เพิ่มขึ้น 10-15% ซึ่งนอกจาก4 ปัจจัยที่กล่าวมาแล้ว จะเห็นได้ว่าคนไทยเป็นสังคมที่คนไม่มีลูกมากขึ้น และเลือกที่จะเลี้ยงสัตว์ ทั้งสุนัขและ แมว ตอนนี้เริ่มมีลูกค้าติดโซลาร์เพื่อเปิดแอร์ให้สัตว์เลี้ยงเหล่านี้”
นายตรีรัตน์ กล่าวว่า หลักการสำคัญของNeps คือดูแลการใช้ไฟฟ้าให้เกิดการประหยัดกับลูกค้า โดยมีทีมงานคุณภาพควบคุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การประเมินค่าไฟฟ้า ปริมาณการใช้ เพื่อนำไปสู่การดีไซน์ที่แม่นยำ ในการติดตั้งโซลาร์เซลส์ และทำให้ลูกค้ามีโรงไฟฟ้าเป็นของตัวเองคืนทุนเร็วไม่เกิน 5 ปี อยู่ได้นานมีความยั่งยืน
สำหรับเทคโนโลยีที่นำมาใช้รองรับการติดตั้งโซลาร์เซลส์ ได้แก่ การใช้ Inverter ของ SolarEdge ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับสูงด้านความปลอดภัย และมีระบบ Real Time Monitoring Application ที่สามารถดูการใช้ไฟฟ้าได้แบบเรียลไทม์ และแสดงผลด้านต่างๆ เช่น ค่าไฟที่ลดลง , ตัวเลขเปรียบเทียบค่าการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นต้น
อย่างไรก็ในอนาคตมีแผนต่อยอดธุรกิจโซลาร์เซลส์โดยลงทุนสร้างโรงงานแบตเตอรี่รองรับการกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในช่วงกลางคืนหรือกรณีไฟตกได้ด้วย ขณะเดียวกันยังตั้งบริษัท Neps power ขึ้นมา เพื่อให้บริการเป็นผู้ผลิตไฟฟ้า ในรูปแบบของการใช้พื้นที่ของลูกค้าติดโซลาร์เซลส์ แต่บริษัทเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด และขายไฟฟ้าในราคาส่วนลดให้กับลูกค้า