เปิดเจรจา FTA ไทย-บังกลาเทศ ขยายตลาดใหม่ในเอเชียใต้

เปิดเจรจา FTA ไทย-บังกลาเทศ ขยายตลาดใหม่ในเอเชียใต้
‘ภูมิธรรม’เดินหน้าคุย FTA ไทย-บังคลาเทศต่อยอดธุรกิจการค้า เพิ่มตลาดส่งออกเชื่อมต่อตะวันออกกลาง-แอฟริกา หวังได้ข้อสรุปในปีนี้ 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์และนายอะห์ซะนุล อิสลาม ติตู (Ahasanul Islam Titu) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บังกลาเทศร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงที่จะเริ่มเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-บังกลาเทศ ภายในปี 2567 เดินหน้าสร้างแต้มต่อให้เอกชนไทยเข้าสู่ตลาดบังกลาเทศและเอเชียใต้

 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บังกลาเทศว่า ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงที่จะเริ่มเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-บังกลาเทศ ภายในปี 2567 ในระหว่างการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีบังกลาเทศ (นางเชค อาชีนา) ระหว่างวันที่ 24-27 เมษายน 2567

 

ทั้งนี้การลงนามร่วมกันในหนังสือแสดงเจตจำนงถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันโดยบังกลาเทศสนใจที่จะเปิดการเจรจาจัดทำ FTA กับไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน ซึ่งไทยเห็นว่าบังกลาเทศก็เป็นประเทศยุทธศาสตร์ด้านการค้าและการลงทุนของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ ด้วยศักยภาพด้านขนาดตลาด แรงงาน และทรัพยากร ที่เอื้อต่อการต่อยอดธุรกิจของภาคเอกชนไทยในเอเชียใต้ รวมทั้งเชื่อมโยงสู่ตลาดตะวันออกกลางและแอฟริกา

 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า บังกลาเทศเป็นตลาดผู้ซื้อและผู้บริโภคขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ เนื่องจากเป็นประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ประกอบกับมีประชากรมากถึง 172 ล้านคน มากเป็นอันดับ 8 ของโลก และมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยร้อยละ 6 ต่อปี

รวมทั้งเป็นตลาดฮาลาลขนาดใหญ่ มีจำนวนประชากรมุสลิมมากเป็นอันดับ 4 ของโลกด้วย ต่อจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ของไทยและบังกลาเทศจะจัดประชุมหารือการเจรจา (Exploratory Discussion) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความคาดหวัง และข้อกังวลต่อการจัดทำ FTA ระหว่างกัน ตลอดจนดำเนินกระบวนการภายในที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถเริ่มการเจรจาจัดทำ FTA ไทย-บังกลาเทศ ภายในปีนี้

 

ปัจจุบัน มีบริษัทไทยที่เข้าไปลงทุนทำธุรกิจในบังกลาเทศแล้วหลายบริษัทในอุตสาหกรรมอาหาร การก่อสร้าง และโรงแรม นอกจากนี้ บังกลาเทศแสดงความสนใจที่จะนำเข้าสินค้าเกษตรและสินค้าจำเป็นจากไทย อาทิ น้ำตาลทราย น้ำมันพืชและถั่วต่างๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดการขาดแคลน ซึ่งไทยยินดีที่จะสนับสนุนและเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารให้กับบังกลาเทศ

 

ทั้งนี้ บังกลาเทศเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ รองจากอินเดีย โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับบังกลาเทศมีมูลค่า 1,185.39 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกของไทยไปบังกลาเทศมูลค่า 1,091.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ น้ำมันสำเร็จรูป ปูนซีเมนต์เม็ดพลาสติก เส้นใยประดิษฐ์ และผ้าผืน

ส่วนการนำเข้าของไทยจากบังกลาเทศมูลค่า 93.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐโดยมีสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ  เสื้อผ้าสำเร็จรูป สินแร่โลหะอื่น ๆ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ และเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และการแพทย์ โดยไทยได้เปรียบดุลการค้า 995.54 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

TAGS: #FTA #ไทย-บังคลาเทศ #ตะวันออกกลาง #แอฟริกา