ออเดอร์รถยนต์หายกดดัชนี MPI ทรุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่18  

ออเดอร์รถยนต์หายกดดัชนี MPI ทรุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่18  
สศอ.เผยดัชนีไตรมาสแรกหดตัว จากการผลิตยานยนต์ลดลง ชี้ปัจจัยเศรษฐกิจในประเทศยังฟื้นตัวได้ช้า ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ขณะที่เลิกตรึงดีเซลกระเทือน 7 อุตสาหกรรม

นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) มีนาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 104.06 หดตัวร้อยละ 5.13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 18 โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 62.39 ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมไตรมาสแรกของปี 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 100.85 หดตัวเฉลี่ยร้อยละ 3.65 และอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 60.45

ทั้งนี้มีปัจจัยหลักมาจากการผลิตยานยนต์ลดลงเป็นเดือนที่ 8 จากการหดตัวของการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้ผู้บริโภคยังคงระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอย ประกอบกับการส่งออกลดลงเกิดจากความต้องการสินค้าในประเทศคู่ค้าในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย) ปรับตัวลดลง

อย่างไรก็ตาม ในภาคการท่องเที่ยวยังมีการขยายตัว ส่งผลให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องขยายตัว เช่น อุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมการกลั่นปิโตรเลียม รวมถึงการเร่งใช้งบประมาณปี 2567 ของรัฐบาล คาดว่าจะส่งผลบวกให้ดัชนี MPI หลังจากนี้ปรับตัวดีขึ้น

สำหรับระบบการเตือนภัยด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรมภาพรวมของไทยเดือนมีนาคม 2567 ส่งสัญญาณเฝ้าระวังจากปัจจัยภายในประเทศหลังปริมาณการนำเข้าสินค้าวัตถุดิบลดลง ส่งสัญญาณดีขึ้นเมื่อเทียบกับ  เดือนก่อนหน้า

ขณะที่ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนและความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่มขึ้น ด้านปัจจัยต่างประเทศ ส่งสัญญาณฟื้นตัวระยะสั้น ตามภาวะเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่มีแนวโน้มฟื้นตัว

 อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องจับตามองขณะนี้ คือ การปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลทุกชนิด 50 สต.ต่อลิตรตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมาทำให้ราคาทะลุมาอยู่ที่ 30.94 บาทต่อลิตร ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมมีสัดส่วนการใช้น้ำมันดีเซลค่อนข้างสูง

ทั้งนี้อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นดีเซล คืออุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า มีสัดส่วนใช้ดีเซล 7.93% ของต้นทุนการผลิตรวม การฟอกและย้อมผ้า 6.31% เคมีภัณฑ์ขั้นมูลฐาน  4.82%

ปูนซิเมนต์  4.43%  ผลิตภัณฑ์โลหะ  4.01%  แก้วและผลิตภัณฑ์แก้ว  2.74%  และเสื้อผ้าและสิ่งทอ 2.53%นอกจากนี้ ยังส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น อาจทำให้ราคาสินค้ามีแนวโน้มสูงขึ้นกระทบค่าครองชีพของประชาชน และเกิดภาวะเงินเฟ้อ เนื่องจากภาวะราคาสินค้าโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น  รวมไปถึงทำให้อัตราค่าไฟฟ้ามีราคาสูงขึ้นแม้จะมีการตรึงไว้ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย แต่ถ้าใช้มากก็มีผลต่อค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และท้ายสุดจะกระทบกับขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการ โดยสศอ. จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

ด้านอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตเดือนมีนาคม 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการกลั่นปิโตรเลียม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 5.32 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องบิน ก๊าซหุงต้ม และแก๊สโซฮอล์ 91 เป็นหลัก ตามความต้องการใช้ในการเดินทางที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ

ขณะที่สตาร์ช และผลิตภัณฑ์จากสตาร์ช (แป้งมันสำปะหลัง) ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 47.65 จากผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง เป็นหลัก ตามปริมาณหัวมันสดที่เข้าสู่โรงงานมากกว่าปีก่อน หลังปัญหาโรคใบด่างเริ่มลดลง ประกอบกับหัวมันสดราคาดีส่งผลให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูก

 อาหารสัตว์สำเร็จรูป ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.45 จากผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง และอาหารสุกรสำเร็จรูป เป็นหลัก โดยอาหารสัตว์เลี้ยงขยายตัวจากตลาดส่งออกตามความนิยมในการเลี้ยงสุนัขและแมว สำหรับอาหารสุกรเพิ่มขึ้นตามปริมาณหมูเลี้ยงจากเกษตรกรที่มีปริมาณมากกว่าปกติ

นอกจากนี้อุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลลบต่อดัชนีผลผลิตเดือนมีนาคม 2567 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่ ยานยนต์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 22.63 จากรถบรรทุกปิคอัพ รถยนต์นั่งขนาดเล็ก รถยนต์นั่งขนาดใหญ่ และเครื่องยนต์ดีเซล เป็นหลัก ตามการหดตัวของตลาดในประเทศที่ลดลง  ร้อยละ 33.15 จากกำลังซื้อที่อ่อนแอและหนี้สินครัวเรือนอยู่ในระดับสูง

รวมทั้งสถาบันการเงินยังคงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อต่อไป ประกอบกับการส่งออกลดลงร้อยละ 9.33 จากรถบรรทุกปิคอัพ และรถยนต์ขนาดเล็ก หลังความต้องการสินค้าในประเทศคู่ค้า (ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย) ปรับตัวลดลง

ด้านน้ำตาล หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 25.26 จากผลิตภัณฑ์น้ำตาลทรายดิบ กากน้ำตาล และน้ำตาลทรายขาว เป็นหลัก เนื่องจากผลผลิตอ้อยสดในปีนี้มีน้อยกว่าปีก่อนจากปัญหาภัยแล้งฝนทิ้งช่วงทำให้พื้นที่เพาะปลูกได้รับผลกระทบบางพื้นที่ เกษตรกรหมุนเวียนไปปลูกพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ได้ราคาดีกว่า เช่น มันสำปะหลัง เป็นต้น

ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ หดตัวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 15.33 จากผลิตภัณฑ์ Integrated circuits (IC) เป็นหลัก ตามการชะลอตัวเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลต่อการบริโภคและลงทุน รวมถึงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้าที่กระทบต่ออุตสาหกรรม

 

TAGS: #ดัชนี #MPI #ยานยนต์ #ดีเซล