‘AWC’ พลิกโฉมทำเลช้างคลาน ลงทุน 1.2 หมื่นล.ทำโรงแรมหรู-สวนน้ำ หนุน ‘เชียงใหม่’ หมุดหมายวัฒนธรรมยั่งยืนระดับโลก

‘AWC’ พลิกโฉมทำเลช้างคลาน ลงทุน 1.2 หมื่นล.ทำโรงแรมหรู-สวนน้ำ หนุน ‘เชียงใหม่’ หมุดหมายวัฒนธรรมยั่งยืนระดับโลก
AWC เข้าลงทุนทรัพย์สินแปลงกลางเมืองย่านช้างคลาน พัฒนาโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ ผลักดันเชียงใหม่ สู่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก

วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวว่า AWC ได้รับมติเห็นชอบจากผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติเข้าลงทุนในทรัพย์สินบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ย่านช้างคลานในโครงการ ‘เชียงใหม่ ไนท์ บาร์ซา’ โครงการ ‘กาแล ไนท์ บาร์ซา’ และโครงการ ‘เดอะ พลาซ่า เชียงใหม่’ เพื่อพัฒนาเป็นโรงแรมภายใต้แบรนด์ระดับลักชูรี และสร้างสวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่

รวมถึงการเป็นจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานงานศิลปวัฒนธรรม ล้านนา ดนตรีการแสดง ร้านค้าร้านอาหารมากมาย รวมความสุขความสนุกสนานและความอร่อยหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เป็นเสมือนแรงบันดาลใจและความสุขให้กับทุกคน ด้วยงบลงทุนและพัฒนาของครั้งนี้รวมมูลค่า 11,950 ล้านบาท เพื่อร่วมสร้างคุณค่าและสนับสนุนจังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก

โดยโครงการใหม่บนทำเลดังกล่าว ยังเป็นส่วนหนี่งของการพัฒนาโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ (Lannatique) โครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพเพื่อสร้างจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกใจกลางเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การเติบโต (GROWTH-LED Strategy) ของ AWC

"AWC เชื่อมั่นในคุณค่าศิลปวัฒนธรรมอันโดดเด่นของไทยและศิลปะล้านนาที่พิเศษอันทรงคุณค่ามายาวนาน และยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเมืองเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางด้านศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลก ผ่านโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพของบริษัททั้งในปัจจุบันที่ประกอบไปด้วยโรงแรม 3 แห่ง และศูนย์การค้า 1 แห่ง รวมถึงโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ ในอนาคตที่จะประกอบไปด้วยโรงแรมแห่งใหม่อีก 3 แห่ง" วัลลภา กล่าว

นอกจากนี้ยังมี สวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกของจังหวัดเชียงใหม่ ร้านค้าร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสนับสนุนการเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงศิลปะและวัฒนธรรมที่มีแนวคิดในการผสมผสานงานศิลปะทุกแขนงเข้าไปกับพื้นที่ เชื่อมคุณค่าจากอดีตสู่แรงบันดาลใจสำหรับอนาคต ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลกกว่า 10 ราย ที่จะมาช่วยสร้างไฮไลท์ให้กับเดสทิเนชั่นด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่

วัลลภา กล่าวว่า “ลานนาทีค เดสทิเนชั่น จะเริ่มเปิดให้บริการเฟสแรกในปลายปี 2567 นี้ และจะต่อด้วยการเปิดโครงการเฟสต่างๆ ต่อเนื่องในช่วง 5 ปี เพื่อสนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว และส่งเสริมการสร้างงานและเศรษฐกิจในพื้นที่ สร้างความแข็งแกร่งให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก” วัลลภา กล่าว

โดย AWC ได้วางแผนการลงทุนสำหรับการพัฒนาโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ ภายใต้เอกลักษณ์อันโดดเด่นในด้านศิลปะ อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์อันหลากหลายของนักท่องเที่ยวท้องถิ่นและนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ผู้ที่หลงใหลในวัฒนธรรม คนรักงานศิลปะ กลุ่มเพื่อน คู่รัก ครอบครัว ในทุกเจเนอเรชั่น

ทั้งนี้ ประกอบไปด้วยแนวคิดเกี่ยวกับ วัฒนธรรมล้านนาและศิลปะสมัยใหม่ สร้างศูนย์กลางงานศิลปะที่ใหญ่ที่สุด สะท้อนคุณค่าและเสน่ห์ของงานศิลปวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของล้านนา งานช่างสิบหมู่ ต่อเนื่องไปถึงแรงบันดาลใจและงานศิลปะร่วมสมัย ศิลปะนานาชาติ ศิลปะดิจิทัล และการออกแบบเชิงนวัตกรรม เพื่อสร้างศูนย์กลางแห่งแรงบัลดาลใจและความสวยงามสำหรับทุกคนจากทั่วโลกที่รักในงานศิลปะรวมถึงวงการนักลงทุนและนักสะสมงานศิลปะระดับโลก

รวมถึงบูรณาการไลฟ์สไตล์และความบันเทิงหลากหลาย เพื่อสร้างจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์และความบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ ทั้งดนตรีการแสดง และความสนุกสนานมากมาย พร้อมด้วยสวนน้ำในโรงแรมแห่งแรกในภาคเหนือ ตลาดไลฟ์สไตล์ ฟู๊ดเลานจ์ แหล่งรวมความสุข ความสนุก ความอร่อยต่าง ๆและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญสำหรับการพัฒนาโครงการที่จะร่วมสร้างคุณค่าเพื่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม และเศรษฐกิจ เพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

วัลลภา กล่าวเสริมว่า นอกเหนือจากโครงการ ‘ลานนาทีค เดสทิเนชั่น’ ในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว AWC ยังได้รับมติอนุมัติจากผู้ถือหุ้นในการเข้าลงทุนเพิ่มในโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพบนพื้นที่ระดับไพรม์โลเคชั่นในอีก 2 จุดหมายสำคัญของกรุงเทพฯ ประกอบไปด้วย การเข้าลงทุนในโครงการโอพี การ์เด้น ย่านบางรัก เพื่อเชื่อมต่อกับโครงการแฟล็กชิป โรงแรม เดอะ พลาซ่า แอทธินี โนบุ โฮเทล แอนด์ สปา แบงคอก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่งเสริมจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวริมสายน้ำ คาดว่าจะเปิดดำเนินการประมาณไตรมาสที่ 4 ปี 2570

และโครงการโรงแรมในพื้นที่ถนนสุขุมวิท 38 ซึ่งเป็นย่านไลฟ์สไตล์สุดเทรนดีของกรุงเทพฯ เพื่อพัฒนาโครงการโรงแรมด้านเวลเนส คาดว่าจะเปิดดำเนินการประมาณไตรมาสที่ 3 ในปี 2571

พร้อมสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก ที่ช่วยสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ AWC ในการดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ภายใต้พันธกิจ “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า”

 

TAGS: #AWC #ลานนาทีคเดสทิเนชั่น #เชียงใหม่ #วัลลภา #ไตรโสรัส