‘ดุสิตธานี’ วางกลยุทธ์ขยายธุรกิจผ่านแพลตฟอร์มโรงเรียนสอนทำอาหาร THE FOOD SCHOOLรับวัฒนธรรม Sub Culture ขยายตัว
ซับ คัลเจอร์ (Subculture) วัฒนธรรมย่อยๆ เฉพาะกลุ่ม ที่มีผู้คนสนเรื่องราวนั้นๆในแบบเดียวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ซึ่งในเวลานี้วัฒนธรรมกลุ่มย่อยแบบนี้ กำลังขยายตัว และเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ของการทำตลาดสินค้า บริการ ที่กำลังได้รับความสนใจ
หนึ่งในนั้น คือ ‘กลุ่มดุสิตธานี’ ได้หยิบคอนเทนต์ ‘การทำอาหาร’ มาขยายตลาดกลุ่มเป้าหมายที่สนใจในเรื่องราวเดียวกัน ผ่านแพลตฟอร์มโรงเรียนสอนทำอาหาร THE FOOD SCHOOL
ศิรเดช โทณวนิก รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจและกรรมการผู้จัดการฝ่ายการศึกษา บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าโรงเรียนสอนทำอาหารภายใต้แบรนด์ THE FOOD SCHOOL นับเป็นสถาบันอาหารลำดับที่ 3 ในเครือฯ ต่อจาก วิทยาลัยดุสิตธานี ซึ่งวางตำแหน่งเป็นสถาบันการเรียนการสอนหลักสูตรครบวงงจรด้านการโรงแรม การท่องเที่ยว การทำอาหาร ระดับปริญญาตรีและโท และ โรงเรียนสอนการประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต เน้นหลักสูตรสอนการทำอาหารฝรั่งเศส เป็นหลัก
THE FOOD SCHOOL BANGKOK ฮับระดับภูมิภาค
ส่วนแบรนด์ THE FOOD SCHOOL วางตำแหน่งเป็นแพลตฟอร์มโรงเรียนสอนทำอาหารนานาชาติ ล่าสุด ALMA – The School of Italian Culinary Arts โรงเรียนสอนทำอาหารอิตาลีหลักสูตรนานาชาติ มีสาขากระจาย20 แห่งทั่วโลก ตัดสินใจเปิดต้นแบบ (Flagship School) แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ที่ THE FOOD SCHOOL BANGKOK
ต่อเหตุผลการเข้ามาเปิดสาขาในกรุงเทพของสถาบันสอนทำอาหาร ALMA ในไทยนั้น มาจากความร่วมมือระดับพันธมิตรเอกชนทั้งสองประเทศ ผ่านหอการค้าเมืองปาร์มา ประเทศอิตาลี ในฐานะผู้นำธุรกิจดังกล่าวออกนอกประเทศ ด้วยมองเห็นศักยภาพด้านต่างๆของไทย โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาค (Reginal Hub) การเรียนการสอนทำอาหารอิตาเลียน ที่จะเชื่อมต่อไปยังประเทศต่างๆ ในเอเชีย อาทิ ฮ่องกง อินเดีย และ จีน เป็นต้น
ซับคัลเจอร์อาหาร เชื่อมโยงผู้คน-การตลาด
ศิรเดช กล่าว “นอกจากนี้อาหารอิตาลี ยังแฝงเอกลักษณ์ความเป็นซับคัลเจอร์ ผ่านเมนูอาหารยอดนิยมต่างๆที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักและเติบโตมาด้วยกันในฐานะที่เป็น คอมฟอร์ต ฟู้ด ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงได้ และยังเป็นอีกหนึ่งสัญชาติอาหารที่มีผู้คนสนใจที่จะเข้ามาเรียนรู้การทำอาหารอิตาลี ที่มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง”
สำหรับการเรียนการสอนโรงเรียนสอนทำอาหารอิตาลี ALMA ที่ THE FOOD SCHOOL เปิดสอนทั้งในหลักสูตรการประกอบอาหารอิตาเลียน และหลักสูตรการทำขนมอบ สไตล์อิตาเลียน ทั้งในรูปแบบของหลักสูตรประกาศนียบัตรระยะยาว (Certificated Courses) และหลักสูตรระยะสั้น (Short Courses และ Masterclasses)สอนโดยเชฟผู้สอนระดับมืออาขีพ จากสถาบัน ALMA สำนักงานใหญ่ ประเทศอิตาลี
เทรนด์‘คนรุ่นใหม่ สนใจทำอาหารขยายตัว
ศิรเดช กล่าวว่า THE FOOD SCHOOL ยังวางตำแหน่งเป็นแพลตฟอร์มให้บริการหลักสูตรการเรียนการสอนด้านการทำอาหารนานาชาติ โดยร่วมกับพันธมิตรธุรกิจระดับสากล ซึ่งปัจจุบันแพลตฟอร์ม THE FOOF SCHOOL ประกอบด้วย 3 สถาบันอาหาร คือ วิทยาลัยดุสิตธานี แบรนด์ .tsuji (Tsuji Culinary Institue) และ ล่าสุด ALMA – The School of Italian Culinary Arts พร้อมเตรียมร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจสถาบันอาหารสัญชาติสเปน ในอนาคต ด้วย
ศิรเดช ทิ้งท้ายว่าปัจจุบันกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจการทำอาหารนานาชาติในหลักสูตรต่างๆ เป็นจำนวนมากขึ้น ทั้งในกลุ่มที่ต้องการเป็นเชฟเพื่อนำไปประกอบอาชีพ กลุ่มแม่บ้าน และกลุ่มชาวต่างชาติที่พำนักในไทย ต้องการใช้เวลาว่างทำกิจกรรมที่ชื่นชอบและอยู่เป็นกลุ่มเล็กๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ผลักดันให้การเรียนการสอนการทำอาหารเติบโตขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น และอาหารอิตาลี
THE FOOD SCHOOL วางกลุ่มเป้าหมายหลักคนไทย สัดส่วน 80% และ ชาวต่างชาติ สัดส่วน 20% และคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนธุรกิจในระยะเวลา 3-4 ปี