‘เมกาบางนา’ ได้ MD ใหม่ เดินหน้าโครงการมิกซ์ ยูส ‘เมกาซิตี้’ ดึง ‘POP MART’ มาเปิดขยายฐานรุ่นใหม่

‘เมกาบางนา’ ได้ MD ใหม่  เดินหน้าโครงการมิกซ์ ยูส ‘เมกาซิตี้’  ดึง ‘POP MART’ มาเปิดขยายฐานรุ่นใหม่
เมกาบางนา  ได้ผู้บริหารคนใหม่ ‘มาริส อโบลตินส์’ นั่งเก้าอี้ ‘เอ็มดี’ ลุยโครงการเมกาซิตี้ รับกำลังซื้อโซนตะวันออกโตแรง พร้อมจัดงบ 200ล.บาทฉลองใหญ่ครบ 12 ปี

มาริส อโบลตินส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอฟ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าเมกาบางนา และโครงการเมกาซิตี้  กล่าวถึงวิสัยทัศน์​การบริหารธุรกิจ โดยจะขับเคลื่อนและต่อยอดการเป็น YOUR EVERYDAY MEETING PLACE ของศูนย์การค้าเมกาบางนา และเดินหน้าผลักดันโครงการเมกาซิตี้ โดยจะเร่งศึกษาศักยภาพในทุกมิติเพื่อพัฒนาพื้นที่ พร้อมแสวงหาความร่วมมือพันธมิตร นักลงทุน ร่วมพัฒนาโครงการมิกซ์ ยูส ที่ครบที่สุดของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก

ต่อการเข้ามาร่วมงานกับเมกาบางนาครั้งนี้ มาริส กล่าวว่า “เป็นโอกาสสำคัญในการนำประสบการณ์จากการทำงานในธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์กว่า 15 ปี มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด เพื่อให้เมกาบางนาเป็นมากกว่าแหล่งช้อปปิ้ง แต่เป็นการใช้ชีวิตสำหรับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ทุกครอบครัว”

ขณะที่ โครงการเมกาซิตี้ นั้น ยังสามารถพัฒนาได้อีกมาก โดยหนึ่งในตัวชี้วัดความสำเร็จของโครงการเมกาซิตี้ คือ การดึงสปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนท์ชื่อดังที่เปิดมาแล้ว 70 แห่งทั่วโลก อย่าง TOPGOLF มาเปิดให้บริการเป็นสาขาแรกของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนส่วนต่อขยายของเมกาบางนา การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม อาคารสำนักงาน รวมถึงการพัฒนาพื้นที่รีเทลเพิ่มเติม

โดยอาศัย จุดแข็งของทำเลย่านบางนา-ตราดที่ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมถึงการลงทุนจากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ จะทำให้ย่านบางนา-ตราด ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง

“การมีโครงการมิกซ์ ยูส ขนาดใหญ่อย่างโครงการเมกาซิตี้ จะสามารถรองรับความต้องการทั้งด้านที่อยู่อาศัยและการบริโภคได้เป็นอย่างดี ปัจจุบัน โครงการฯ อยู่ระหว่างการขยายระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ซึ่งได้มีแนวทางการพัฒนาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อผลักดันให้โครงการเมกาซิตี้ เป็นโครงการมิกซ์ ยูส ที่สมบูรณ์แบบของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก” มาริส กล่าว

นอกจากนี้ในส่วน ‘เมกาบางนา’ จะใช้กลยุทธ์จากจุดแข็ง TENANT MIX ความหลากหลายและครบครันของร้านค้าที่ตอบสนองกับทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของทุกคน ในทุกๆวัน เป็นส่วนหนึ่งกลยุทธ์การทำธุรกิจโดยดึงแบรนด์ดัง ร้านอินเทรนด์ต่างๆ เพื่อสร้างแม่เหล็กมารองรับทุกความต้องการลูกค้าเดิม และเพิ่มทราฟฟิกลูกค้าใหม่”  

โดย เมกาบางนา เปิดให้บริการในปี 2555 ปัจจุบันมีผู้เข้ามาใช้บริการรวมแล้วกว่า 550 ล้านคน ในขณะนี้เมกาบางนา มีพื้นที่ขายรวมกว่า 240,000 ตารางเมตร มีอัตราการเช่า (Occupancy Rate) 100% โดยผู้เช่าหลักที่เป็นแม็กเน็ตสำคัญ ได้แก่ IKEA, CENTRAL @ MEGABANGNA, HOMEPRO,  BIG C Extra, MEGA CINEPLEX และมีร้านค้า ร้านอาหาร ศูนย์บริการต่างๆ รวมทั้งหมดกว่า 900 ร้านค้า

“เมกาบางนา ยังมีศักยภาพในด้านการขยายพื้นที่ให้กับแบรนด์สินค้าต่างๆ ที่ต้องการมาเปิดสาขาเพื่อรองรับกำลังซื้อในย่านกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก พร้อมดึงแบรนด์ที่ตอบโจทย์กับลูกค้าของเมกาบางนาเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าเดิมและขยายลูกค้าใหม่” มาริส กล่าว  

โดยในปีนี้ มีแบรนด์ที่เข้ามาเปิดสาขาแล้ว อาทิ NIKE FLAGSHIP STORE, H&M HOME, FAMTIME, LA MEOW BBQ & BISTRO และกำลังจะเปิดในเร็วๆ นี้ อาทิ  POP MART , LONGINES, CARE BEAR CAFÉ’, NIKO AND…, LONG JOHN’S SILVER, BHC CHICKEN, SINDOSEGI และ EASY! BUDDY เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีแผนดึงร้านค้า แบรนด์ดัง ร้านค้าที่อยู่ในกระแสได้รับความนิยม ร้านอาหาร ศูนย์บริการต่างๆ ที่ครอบคลุมในทุก CATEGORY เพื่อมาเสริมศักยภาพของเมกาบางนาให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจากกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้เมกาบางนาเป็นสวรรค์ของการช้อปปิ้งและการใช้ชีวิตที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม

รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับโลยัลตี โปรแกรมระบบสมาชิก เมกา สไมล์ รีวอร์ดส ด้วยการสร้างประสบการณ์เหนือระดับ  THE ULTIMATE EXPERIENCE มอบสิทธิพิเศษและประสบการณ์ที่มากกว่า เพื่อเข้าถึงอินไซต์ตรงกับความต้องการของทุกเจนเนอเรชั่น โดยจะมีการเปิดตัวโปรแกรมต่างๆ ภายในไตรมาส  ที่ 3 ของปีนี้

มาริส กล่าวว่าในปี 2567 นี้ บริษัทเตรียมใช้งบการทำตลาดมากกว่า 200 ล้าน ล่าสุดเตรียมแผนฉลองครบรอบ 12 ปี จัดงาน 12th  ANNIVERSARY 365 MEGA MOMENTS พร้อมสานต่อกลยุทธ์การสร้างประสบการณ์ร่วม COLLABORATED EXPERIENCE กับศิลปินนักวาดภาพชื่อดัง JIRAYU KOO - จิรายุ คู ออกแบบผลงานศิลปะแบบพิเศษเฉพาะ ต่อยอดจาก ปั้น INSTALLATION ART และบรรยากาศการตกแต่งศูนย์การค้าด้วยสีสันแห่งความสุข พร้อมมอบสิทธิพิเศษ กิจกรรม และของสมนาคุณ แทนคำขอบคุณ ตั้งแต่วันที่  1 พฤษภาคม 2567 – 31 พฤษภาคม 2567 

นอกจากนี้ ยังมอบสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกเมกา สไมล์  รีวอร์ดส ตลอดเดือนพฤษภาคม 2567 เมื่อใช้จ่ายภายในศูนย์ฯ ครบตามเงื่อนไข สามารถแลกรับฟรี ของสมนาคุณจากการออกแบบของ JIRAYU KOO  ได้แก่

  • รับประทานอาหารครบ 3,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ แลกรับฟรี MEGA 12th ANNIVERSARY LANYARD          มูลค่า 159 บาท
  • รับประทานอาหารหรือช้อปครบ 15,000 บาท ขึ้นไปต่อใบเสร็จ แลกรับฟรี MEGA MOMENT SHOPPING SET ประกอบด้วย กระเป๋า 1 ใบ และ เข็มกลัด 1 ชิ้น มูลค่า 599 บาท
  • รับประทานอาหารหรือช้อปครบ 30,000 บาท ขึ้นไปต่อใบเสร็จ แลกรับฟรี MEGA DIARY BOX SET ประกอบด้วยสมุด 1 เล่ม และ สติ๊กเกอร์ 1 แผ่น  มูลค่า 999 บาท
  • รับประทานอาหารหรือช้อปครบ 50,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ แลกรับฟรี  MEGA PUZZLE BOX SET  1 กล่อง บรรจุจิ๊กซอว์ จำนวน 1,000 ชิ้น มูลค่า 1,999 บาท

พร้อม เพิ่มเติมความพิเศษเฉพาะวันที่ 5  พฤษภาคม 2567 ซึ่งตรงกับวันเปิดให้บริการเป็นวันแรกของศูนย์การค้าเมกาบางนาในปี 2555 เมื่อรับประทานอาหารหรือช้อปครบ 12,000 บาท ขึ้นไปต่อใบเสร็จ สามารถแลกรับเพิ่มคะแนนสะสมเมกา สไมล์ รีวอร์ดส 120 คะแนน และในทุกวันศุกร์ - เสาร์ - อาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 3-6, 10-12, 17-19 และ 24-26  พฤษภาคม 2567  เมื่อรับประทานอาหารหรือช้อปครบ 4,000 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ ยังรับสิทธิ์เล่นเกมรับของรางวัลที่บูธกิจกรรม นอกจากนี้  สำหรับสมาชิกเมกา สไมล์ รีวอร์ดส ที่เกิดในเดือนพฤษภาคม เมื่อรับประทานอาหารหรือช้อปภายในเดือนพฤษภาคม 2567 ครบ 1,212 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จ รับคะแนนสะสมเพิ่มทันที 12 คะแนน อีกด้วย

** สำหรับ ‘มาริส อโบลตินส์’ เป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมค้าปลีกมานานกว่า 15 ปี มีความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การบริหารพื้นที่   ค้าปลีกและการวางกลยุทธ์ด้านการขยายธุรกิจ โดยผ่านการทำงานกับเชนห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในกลุ่มประเทศยุโรป รับผิดชอบครอบคลุมทั้งด้านงานพัฒนาศูนย์การค้า การก่อสร้าง การบริหารร้านค้า ผู้เช่าและพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ รวมไปถึงมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับ IKEA ในยุโรปหลายประเทศ  

 

 

TAGS: #เมกาบางนา #เมกาซิตี้ #บางนา