สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เผย 5 ข้อมูลเครดิตบูโรของคนไทย ในไตรมาสแรก ปี 2567 ที่น่าเป็นห่วงหลังปรับเกณฑ์จ่ายขั้นต่ำ 8%
โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว ดังนี้
ข้อมูลไตรมาสที่ 1/2567 เกี่ยวกับสินเชื่อบัตรเครดิตจากฐานข้อมูลสถิติที่ไม่มีตัวตนของเครดิตบูโรครับ ขอนำเรียนความห่วงใย ดังนี้
- ตั้งแต่ต้นปี 2567 การจ่ายชำระหนี้ขั้นต่ำของบัตรเครดิตจะต้องเริ่มต้นที่ 8%จากเดิมที่ผ่อนผันในช่วงการระบาด covid-19ที่กำหนดไว้ 5%
- มีคำถามมาตลอดว่าถ้ากติกาใหม่ออกมาจะทำให้หนี้เสียหรือ NPLsกระโดดมั้ย จะทำให้หนี้กำลังจะเสียหรือ SM กระโดดมั้ย
- ตัวเลข ณ มีนาคม 2567 ยอดหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด 24ล้านใบ,เป็นเงิน 5.5แสนล้านบาทเติบโต 2%yoy ถ้าเทียบจากสิ้นปี 2566 หดตัว 5.1%qoq อันนี้ก็พอทราบไม่มีอะไรแปลกใจ
- ตัวเลขบช.สินเชื่อบัตรเครดิตที่เป็น NPLs ค้างเกิน 90วันจะมีจำนวนประมาณ 1ล้านบัตรเศษคิดเป็นยอดเงิน 6.4หมื่นล้านบาทเติบโต 16%yoy อันนี้เริ่มไม่สบายใจแล้วครับ
- พอมาดูยอดหนี้ที่เป็น SM หรือหนี้ที่กำลังจะเสียพบว่ามีจำนวนบัตรที่ชำระหนี้ได้แบบตะกุกตะกัก ติดๆขัดๆ 1.9แสนบัตรครับ จำนวนเงิน 1.2หมื่นล้านบาทเติบโต 32.4%yoy
มาถึงตรงนี้เริ่มตาโตแล้วครับว่า แค่สามเดือนแรกของการปรับเพิ่มยอดชำระขั้นต่ำทำไมมันเกิดการกระโดดใน SM ตามต่อไปดูว่าแล้วมันโตจากปลายปี 2566 เท่าใดก็พบว่าเติบโตถึง 20.6 qoq ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่ต้องระวังว่ามันจะไหลเพิ่ม ไหลแรงกว่าเดิมหรือไม่
นอกจากปัญหาค่าครองชีพแล้ว รายได้ไม่ฟื้นตัว เปราะบางจนนุ่มนิ่ม มันสะท้อนแล้วว่าชำระหนี้สินเชื่อนี้ได้ลำบากมากขึ้น ตามภาพกราฟที่แสดงนะครับ ผมลองทำดูว่าจากบัตรเครดิตที่เป็น SM.จำนวนเกือบสองแสนใบนั้นเป็นบัตรที่เปิดมานานเท่าใดแล้ว พบว่า
- เปิดมาไม่เกิน 2ปี มีจำนวน 3.6หมื่นบัตรครับ อยู่ในมือคน Gen Y 2.3หมื่นบัตร
- เปิดมามากกว่า 2ปี แต่ไม่เกิน 4ปี มีจำนวน 3.9หมื่นบัตร อยู่ในมือ Gen Y 2.7หมื่นบัตร, Gen X 9.2พันบัตร
- เปิดมามากกว่า 4ปีแต่ไม่เกิน 6ปี 4.5หมื่นบัตร อยู่ในมือคน Gen Y 3หมื่นบัตร Gen X 1.2หมื่นบัตร
อันนี้เป็นตัวอย่างให้เห็นในภาพด้านล่าง
คำถามตัวโตๆคือ SM.จะไหลต่อเป็น NPLs.อีกเท่าใด การกำหนดให้ชำระหนี้ขั้นต่ำเพิ่มขึ้นจาก 5%เป็น 8% และ 10%ตามลำดับ มันช่วยแก้ปัญหาหนี้ได้จริงๆใช่มั้ยตามเป้าประสงค์มาตรการ ความจริงคนเรามีบัตรเครดิตได้หลายใบ การเพิ่มอีก 3%ของยอดหนี้ในแต่ละใบ คนไม่เคยเป็นหนี้อาจนึกไม่ออกว่าจะหมุนหาจากไหนไปจ่ายได้ และประการสุดท้ายค่าใช้จ่ายทั้งหลายมันเริ่มเพิ่มอย่างชัดเจนเช่น ไข่ไก่ ผักบางชนิด น้ำมันก็เริ่มขยับ เป็นต้น
การท่องตำราแก้ปัญหากับการท่องยุทธจักรแบบเดินเผชิญสืบ มันใช้ใจที่ต่างกัน ตัวอย่างเรื่องนี้คือหนังชีวิตจริง แต่ถ้ามองเป็นหนังอานิเมะ มันก็อาจผิดเพี้ยน ต้องกลับมาดูกันเพราะแค่ 3เดือนกลิ่นมันแรงแบบโตขึ้น 32.4%yoy 20.6%qoq มันไม่ธรรมดานะครับ
ตั้งโจทย์ผิด แต่ตอบโจทย์ที่ผิดได้ถูก ผลลัพธ์ผลผลิตมันจะผิดเพี้ยนไปหรือไม่
วันนี้ฝนตกแล้ว ฝนหลังฝุ่นที่ร้อนระอุย่อมสวยงามเสมอ
07.05.2567