นายกฯ เปิดงาน SUBCON Thailand 2024 เชื่อมั่นความเป็นกลางทางการทูตของไทยจะดึงดูดนักลงทุน สร้างไทยเป็นสวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย ยืนยัน ประเทศไทยและรัฐบาลเปิดแล้ว เดินหน้าพัฒนาควบคู่อุตสาหกรรมท้องถิ่น
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน SUBCON Thailand 2024 ว่า ปัจจุบันโลกอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบไม่ว่าจะเป็นสงคราม ไทยยืนยันจุดยืนทางการฑูตไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับทุกภูมิภาค และจุดยืนทางการเมืองของไทยส่งผลดีต่อภาคธุรกิจไทยอย่างยิ่ง และนักลงทุนสบายใจที่จะเข้ามาลงทุน
ทั้งนี้ไทยสนับสนุนพลังงานสะอาด ที่เป็นปัจจัยที่ทำให้บริษัทใหญ่ๆเข้ามาลงทุน และความท้าทายของภาคอุตสาหกรรมไทยคือการนำพลังงานสะอาดเข้ามาใช้ให้ได้มากที่สุด และสิ่งสำคัญที่สุดคือข้อตกลงการค้าเสรีหรือ FTA ซึ่งในอดีตที่ผ่านมามีการขับเคลื่อนเรื่องนี้น้อยมาก รัฐบาลนี้ได้เดินหน้าขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อเนื่อง ซึ่งมีการเซ็น FTA กับศรีลังกาไปแล้ว และในเดือนหน้าจะมีการเซ็น FTA กับ สหภาพยุโรปเพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมเข้ามาลงทุนในประเทศไทยส่งผลดีกับภาคอุตสาหกรรมไทย ยืนยันเร่งดำเรินการโดยเร็วที่สุดให้สินค้าไทยเป็นที่ต้องการ และเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต่างชาติให้ความสำคัญและพอใจเมื่อไทยมีความตั้งใจจริงที่จะเดินหน้า
ทั้งนี้จะมีการเร่งดำเนินการแก้ไขข้อกำหนดและความยากง่ายในการประกอบธุรกิจเพื่อดึงดูดนักลงทุน การสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับอุตสาหกรรมที่จะมาลงทุนในไทย เช่น โครงการแลนด์บริจด์เพื่อเป็นทางเลือกให้กับระบบขนส่งทั่วโลก และจุดยืนทางการฑูตที่เป็นกลางของไทยจะสร้างความสบายใจ ส่งผลให้ไทยกลายเป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเอเชีย
นายกรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า ไม่ว่า ใครจะทะเลาะกับใคร เราไม่สนใจ เราค้าขายอย่างเดียวเราอยากให้ประเทศไทยมีความมั่นคงตรงนี้ อยากให้นักธุรกิจทุกท่าน มีความสบายใจ ว่าเรายึดมั่นในความสงบ เราค้าขายอย่างเดียว จะทำให้กระบวนการผลิตไม่สะดุดลง รวมไปโครงการแลนด์บริดจ์ด้วย เป็นโครงการที่สำคัญ สำคัญมากกว่าการซื้อเรือดำน้ำ หรือเครื่องบิน
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี ระบุด้วยว่า รัฐบาลจะสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์เปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ EV ให้ไทยเป็นฐานการผลิตของภูมิภาคอาเซียน และ ขอให้มั่นใจว่าประเทศไทยเปิดแล้วสำหรับการลงทุนแม้ในส่วนลึกทุกคนจะกังวลว่าต่างชาติจะเข้ามายึดครอง แต่ยืนยันว่าเราจะพัฒนาควบคู่กันไปโดยจะช่วยอุตสาหกรรมท้องถิ่นของไทยให้มีส่วนร่วมกับการพัฒนาซัพพลายเชนทั้งหมดให้เติบโตคู่กับประเทศที่พัฒนาแล้ว
