‘มูจิ’ ลุยต่อกลยุทธ์ราคา ร่วมวงสินค้าของใช้เริ่มต้น 29 บาท ปรับดีไซน์รับอินไซด์ท้องถิ่นขยายลูกค้าทั่วไทยเข้าถึงแบรนด์

‘มูจิ’ ลุยต่อกลยุทธ์ราคา ร่วมวงสินค้าของใช้เริ่มต้น 29 บาท ปรับดีไซน์รับอินไซด์ท้องถิ่นขยายลูกค้าทั่วไทยเข้าถึงแบรนด์
‘มูจิ’ ทำอยู่ ทำต่อ กลยุทธ์ราคา จัดเพิ่มกว่า 126รายการมาครบทุกหมวด ให้ราคาเริ่มต้น 29 บาทต่อชิ้นรับอินไซด์พฤติกรรมใช้งานจริงกลุ่มเป้าหมายคนไทย

อกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ทำตลาดค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์สัญชาติญี่ปุ่น ‘MUJI’ เปิดเผยว่าแนวทางการทำตลาดในปีนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อเนื่องในกลยุทธ์ด้านราคาสินค้า ที่นำมาใช้ตั้งแต่ ปี 2562

ทั้งนี้ เพื่อพาแบรนด์มูจิเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยที่ต้องการซื้อ และเป็นประตูบานแรกให้คนไทยเปิดรับให้มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์ในการใช้สินค้าคุณภาพ และบริการที่หลากหลาย ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นในสินค้า MUJI สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย

โดยปัจจุบันมูจิ ประเทศไทยมีสินค้าจัดจำหน่ายอยู่ทั้งหมด 5,000 รายการ และมีสินค้าคุณภาพสำหรับชีวิตประจำวันที่มีราคาต่ำกว่า 300 บาท กว่า 2,500 รายการ หรือคิดเป็นสัดส่วน 50% ของสินค้าทั้งหมด

“จากกลยุทธ์ด้านราคาดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทมีฐานลูกค้าในประเทศไทย ที่ซื้อสินค้า MUJI ซ้ำเป็นประจำ และเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้ยอดขายมีการเติบโตสูงขึ้นเป็นอย่างสูง” อกิฮิโร่ กล่าว

พร้อมเสริมว่า เพื่อตอกย้ำ ‘MUJI’ ในฐานะแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์สามัญประจำบ้านในใจคนไทยทั่วทุกภูมิภาค บริษัทฯ ยังวางเป้าหมายสู่การเป็นคอมมูนิตี้ที่มีส่วนร่วมช่วยเชื่อมโยง และตอบสนอง ไลฟ์สไตล์ของผู้คนในแต่ละพื้นที่ ให้สามารถเข้ามาช้อปปิ้ง แฮงค์เอ้าท์ พบปะ พูดคุย และรับประทานอาหารภายในร้าน MUJI ได้เป็นประจำ

ล่าสุด บริษัทได้นำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์คุณภาพที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันเพิ่มเติมกว่า 126 รายการในราคาที่ปรับลดลงเฉลี่ยกว่า 20% ในราคาเริ่มต้นเพียง 29 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคมเป็นต้นไป

โดยครอบคลุมทุกหมวดหมู่ตามอินไซท์ด้านพฤติกรรมและความต้องการในการใช้งานของกลุ่มเป้าหมาย โดยมีสินค้าไฮไลท์ที่โดดเด่นใน 4 กลุ่มสินค้าอาทิ

1. กลุ่มรองเท้าและกระเป๋า (รุ่นยอดนิยม) ประกอบไปด้วย รองเท้าผ้าใบ, กระเป๋าเป้สะพายหลัง, กระเป๋าเดินทาง

2. กลุ่มของใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ ประกอบไปด้วย ผ้าปูโต๊ะ, อุปกรณ์ตากผ้า, โซฟาบีนแบค, หมอนโพลีเอสเตอร์, ผ้านวม, เบาะรองนั่ง, เฟอร์นิเจอร์ที่ตั้งถาด, ชั้นไม้สำหรับวางหนังสือ, ชั้นไม้สำหรับวางรองเท้า, อุปกรณ์เครื่องครัวไม้ยางพารา

3. กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า

4. กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (MUJI Food) ประกอบไปด้วย น้ำโซดา (Sparkling Water) และ Curry (แกงกะหรี่สำเร็จรูป)

ปรับดีไซน์สินค้า รับอินไซด์คนไทย

อกิฮิโร่  กล่าวว่า นอกจากนี้ MUJI ยังมุ่งให้ความสำคัญกลยุทธ์ Localization ในการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับอินไซด์ด้านพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ โดยนำเสนอสินค้าใหม่ๆ ที่มีจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะในสาขาของร้านค้า MUJI ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน ครบทุกหมวดหมู่ ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย และของใช้ในบ้าน

โดยจะคำนึงถึงดีไซน์และฟังก์ชั่นที่เหมาะสมกับบริบทแบบไทยๆ  ทั้งลักษณะนิสัยของผู้คน สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ รวมถึงวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และวิถีชีวิตของคนไทยอีกด้วย

โดยในปี 2567 บริษัทมีในการนำเสนอสินค้าใหม่ๆเหล่านี้มากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงของคนไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่หลากหลาย ควบคู่กับการยกระดับร้านค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์สโตร์ที่สามารถเข้ามาใช้ชีวิตประจำวัน ได้อย่างครบครันในทุกมิติ 

“บริษัทได้เดินหน้าแผนการขยายสาขาใหม่ไปยังทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย เพื่อให้เข้าถึงคนไทยในทุกๆ พื้นที่อย่างครอบคลุม ซึ่งมีการขยายสาขาไปแล้วทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และอยู่ในระหว่างการดำเนินการขยายสาขาไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัด อาทิ เซ็นทรัล ขอนแก่นในช่วงเดือนมิถุนายน และเซ็นทรัล อุดรธานี ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้" อกิฮิโร่ กล่าวเสริม

ด้าน อริญา พันธุมโกมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มูจิ รีเทล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า  ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา MUJI ได้ทำการสื่อสารการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ไปยังกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ ในวงกว้างมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด เพื่อให้ลูกค้ารับรู้และเข้าใจความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการเป็นแบรนด์สินค้าในชีวิตประจำวันในราคาที่เข้าถึงได้ แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าในแบบญี่ปุ่น

โดยเน้นกลยุทธ์การสื่อสาร Localize ให้เหมาะสมกับการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ เช่น สื่อป้ายโฆษณานอกบ้านทั้งในรูปแบบของป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และป้ายโฆษณาในรูปแบบดิจิทัลในจุดที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในแต่ละจังหวัดได้เป็นจำนวนมาก หรือโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านรายการวิทยุท้องถิ่น หรือรถกระจายเสียง

นอกจากนี้ ยังใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นที่รู้จักและมีอิทธิพลต่อการสร้างการรับรู้และการตัดสินใจซื้อของคนในแต่ละพื้นที่ โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ทั่วประเทศไทยด้วยทราฟฟิกการเข้าใช้บริการที่มากขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ตอกย้ำความเป็นแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์สามัญประจำบ้านในใจคนไทยทั่วทุกภูมิภาคอย่างแท้จริง

TAGS: #มูจิ #MUJI