กรมเชื้อเพลิงฯตั้งวอร์รูมติดตาม พร้อมสนับสนุนปฏิบัติการกู้เรือ เผยต้องหยุดผลิตน้ำมัน 1.3 หมื่นบาร์เรล/วันและก๊าซธรรมชาติ ยันไม่กระทบความมั่นคงพลังงาน
นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่าขณะนี้ได้ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเรือกักเก็บน้ำมันดิบเบญจมาศ 2 ของบริษัท เชฟรอน ออฟชอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีน้ำทะลักเข้าเรือ โดยเบื้องต้นพบว่า ตัวเรือยังอยู่ในสภาพที่สามารถลอยตัวได้อย่างปลอดภัย และบริษัทฯ ได้ทำการหยุดการผลิตของแหล่งน้ำมันดิบเบญจมาศทั้งหมดเพื่อความปลอดภัย และป้องกันมิให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินซ้ำซ้อน
ทั้งนี้ยังไม่มีการรั่วไหลของน้ำมันดิบที่เก็บไว้ภายในตัวเรือแต่อย่างใด แต่เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นพนักงานของบริษัทผู้รับจ้างการควบคุมและบำรุงรักษาเรือ
อย่างไรก็ตามกรมเชื้อเพลิงได้ประสานงานอำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ รวมทั้งได้สั่งการให้บริษัทฯ เตรียมความพร้อมสำหรับปฏิบัติการกอบกู้สถานการณ์ฉุกเฉินนี้ โดยจะมีการติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการอุดช่องทางน้ำผ่านเข้าเรือ และการปั๊มน้ำออกจากเรือต่อไป
นายสราวุธ กล่าวว่า แม้ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะอยู่ในวงจำกัดเฉพาะภายในเรือ และการหยุดผลิตแหล่งน้ำมันดิบชั่วคราวดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบจำนวนประมาณ 13,000 บาร์เรลต่อวัน และก๊าซธรรมชาติจำนวนประมาณ 45 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานในประเทศในภาพรวม
ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อครอบครัวและญาติของผู้เสียชีวิต โดยได้กำชับให้บริษัทฯ ดำเนินการช่วยเหลือและดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด