ออเดอร์สินค้าอุตสาหกรรม-เกษตรดี ดันส่งออกเดือนเม.ย.พลิกบวก

ออเดอร์สินค้าอุตสาหกรรม-เกษตรดี ดันส่งออกเดือนเม.ย.พลิกบวก
‘พาณิชย์’ชี้ส่งออกปีนี้ยังโตได้ 1-2% เชื่อเดือนพ.ค.ยังเป็นบวกพร้อมเกาะติดปัจจัยเสี่ยงตะวันออกกลางค่าระวางเรือพุ่ง 37% กระทบต้นทุนขนส่งผู้ประกอบการ

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนเมษายน และ 4 เดือนแรกของปี 2567 ว่า การส่งออกของไทยในเดือนเมษายน 2567 มีมูลค่า 23,278.6 ล้านเหรียญสหรัฐ (834,018 ล้านบาท)

ขยายตัวร้อยละ 6.8 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวร้อยละ 11.4

การส่งออกของไทยพลิกกลับมาขยายตัวเป็นบวกอีกครั้ง สอดคล้องกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่มีมุมมองว่า เศรษฐกิจโลกมีการฟื้นตัวที่ดีจากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของโลกที่ชะลอตัวลง ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อภาคการผลิตทั่วโลก โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นหลายรายการ

ขณะที่ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง แต่อานิสงส์ด้านราคาตามความต้องการของตลาดโลก ส่งผลให้การส่งออกสินค้าเกษตรบางรายการยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวม 4 เดือนแรกของปี 2567 การส่งออก มีมูลค่า 94,273.9 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 1.4 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้า มีมูลค่า 100,390.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 4.9 ดุลการค้า 4 เดือนแรกของปี 2567 ขาดดุล 6,116.9 ล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษต ขยายตัวร้อยละ 2.0 (YoY) กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน โดยสินค้าอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 12.7 กลับมาขยายตัวในรอบ 3 เดือน

ส่วนสินค้าเกษตรหดตัวร้อยละ 3.8 กลับมาหดตัวในรอบ 4 เดือน โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว ได้แก่ ข้าว ขยายตัวร้อยละ 91.5  ยางพารา ขยายตัวร้อยละ 36.2 ขยายตัวต่อเนื่อง 6 เดือน   อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ขยายตัวร้อยละ 14.8 ขยายตัวต่อเนื่อง 4 เดือน

ด้านอาหารสัตว์เลี้ยง ขยายตัวร้อยละ 52.9 ขยายตัวต่อเนื่อง 7 เดือน ในตลาดสหรัฐฯ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ออสเตรเลีย และอิตาลี  ไก่แปรรูป ขยายตัวร้อยละ 17.2  เครื่องดื่ม ขยายตัวร้อยละ 10.5 กลับมาขยายตัวหลังจากที่หดตัวในเดือนก่อนหน้า ฃในตลาดกัมพูชา เมียนมา เวียดนาม ลาว และมาเลเซีย เป็นต้น

ส่วนสินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง หดตัวร้อยละ 29.8 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน  ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง หดตัวร้อยละ 9.6  น้ำตาลทราย หดตัวร้อยละ 9.1  ไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ หดตัวร้อยละ 4.7  โดย 4 เดือนแรกของปี 2567 การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัวร้อยละ 0.8

สำหรับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 9.2 (YoY) กลับมาขยายตัวหลังจากหดตัวในเดือนก่อนหน้า โดยมีสินค้าสำคัญที่ขยายตัว อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ   เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ  เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ ขยายตัวร้อยละ 23.3

ขณะที่สินค้าสำคัญที่หดตัว อาทิ สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน หดตัวร้อยละ 5.7 หดตัวต่อเนื่อง 3 เดือน แผงวงจรไฟฟ้า หดตัวร้อยละ 9.2  อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด หดตัวร้อยละ 15.9  โดย 4 เดือนแรกของปี 2567 การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 1.8

อย่างไรก็ตามแนวโน้มการส่งออกในปี 2567 กระทรวงพาณิชย์คาดว่า การส่งออกของไทยในปี 2567 จะยังสามารถเติบโตได้ดี โดยยังคงเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 1-2%  จากความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว และปัญหาเงินเฟ้อที่เริ่มบรรเทาลง ส่งผลดีต่อกำลังซื้อในหลายประเทศ

ขณะที่สภาพอากาศแปรปรวนสร้างแรงผลักดันต่อราคาสินค้าเกษตรและความต้องการนำเข้าเพื่อความมั่นคงทางอาหาร แต่กดดันปริมาณผลผลิตที่ออกสู่ตลาดโลก นอกจากนี้ยังมีความไม่แน่นอนจากปัญหา ด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มขยายวงกว้าง ซึ่งจากการหารือกับผู้ประกอบการประสบกับปัญหาต้นทุนค่าระวางเรือที่สูงขึ้น 37% โดยกระทรวงพาณิชย์จะติดตามประเมินสถานการณ์เป็นระยะ และจะทำงานร่วมกับทูตพาณิชย์ในแต่ละประเทศเพื่อแสวงหาแนวทางสร้างโอกาสและลดอุปสรรคในการส่งออก

“แนวโน้มเดือนหน้าส่งออกก็น่าจะเป็นบวก โดยเฉพาะเป็นฤดูผลไม้ออกเป็นจำนวนมาก น่าจะทำให้ตลาดจีนมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น  ซึ่งคาดไตรมาสส่งอกยังขยายตัวได้ 0.8-1 %  ถ้าไม่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นเพิ่มเติม  โดยยังคงเป้าส่งออกปีนี้ไว้ที่ 1-2%”

 

TAGS: #ส่งออก #ตะวันออกกลาง #สินค้าเษตร