กองทุนน้ำมันฯขีดเส้นชดเชยราคาดีเซลลิตรละ 1.40 บาท เพื่อรักษาสภาพคล่องไว้ หลังมีภาระหนี้สะสมกว่า 1.11 แสนล้านบาท โดยราคาขายปลีกต้องปรับขึ้นอีก 50 สต.ต่อลิตร สะท้อนทิศทางตลาดโลก
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกยังคงมีความผันผวนต่อเนื่องจากปัญหาสงครามและเศรษฐกิจ ในขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงชดเชยเงินในส่วนของน้ำมันดีเซลอยู่เพื่อให้สะท้อนราคาน้ำมันที่เหมาะสม และรักษาสภาพคล่อง ให้สามารถบริหารจัดการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตทั้งด้านการเงินและสถานการณ์ด้านราคาน้ำมันเชื้อเพลิง
ทั้งนี้ยังคงตรึงอัตราเงินชดเชยประเภทน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 ไว้ที่ 1.40 บาท/ลิตร เพื่อให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายจ่ายประเภทน้ำมันดีเซลประมาณวันละ 96.29 ล้านบาท การตรึงอัตราเงินกองทุนน้ำมัน ประเภทดีเซลในครั้งนี้ส่งผลให้ราคาขายปลีกประเภทน้ำมันดีเซลปรับขึ้น 0.50 บาท/ลิตร เป็น 32.94 บาท/ลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตาม มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ที่มีมาตรการ ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน โดยวางกรอบการตรึงราคา น้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน ถึง 31 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นมาตรการต่อเนื่องจากมาตรการเดิมที่สิ้นสุดเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา และการดำเนินการนี้เป็นไปตามมติ กบน. เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 เห็นชอบในหลักการให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ประเภทน้ำมันดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกเกินกว่า 30 บาทได้ตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 เป็นต้นไป
ปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2567 ติดลบ 111,345 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 63,655 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,690 ล้านบาท