เจาะวิธีคิดทำธุรกิจข้ามชาติ 2 ผู้บริหาร ‘ฟรีสแลนด์คัมพิน่า’ รับมือตลาดยุคใหม่ คนหันดื่มนมรับผิดชอบสิ่งแวดล้อม

เจาะวิธีคิดทำธุรกิจข้ามชาติ 2 ผู้บริหาร ‘ฟรีสแลนด์คัมพิน่า’ รับมือตลาดยุคใหม่ คนหันดื่มนมรับผิดชอบสิ่งแวดล้อม
2 ผู้บริหารอาณาจักร ‘ฟรีสแลนด์คัมพิน่า’ ผู้ผลิตนมยักษ์ใหญ่ออกสำรวจตลาดเมืองไทย เก็บพฤติกรรมเชิงลึกผู้บริโภค ไปต่อยอดทำธุรกิจอย่างยั่งยืนบนความท้าทายตลาดที่เปลี่ยนไป

ในโอกาสที่ 2 ผู้บริหาร ‘ยอน เดิรค์ แวน คาเนอบีค’ (Mr. Jan Derck van Karnebeek) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ ‘คอรีน แทป’ (Ms. Corine Tap) ประธานกลุ่มธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชีย ‘ฟรีสแลนด์คัมพิน่า’ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากนมโคคุณภาพหลากหลายแบรนด์ ได้แก่ โฟร์โมสต์ นกเหยี่ยวฟอลคอน และ เดบิค เดินทางมายังประเทศไทย เพื่อสำรวจภาพรวมตลาดสินค้าผลิตภัณฑ์จากนม พร้อมบอกเล่าแนวคิดการบริหารองค์กร ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดในพื้นที่อย่างใกล้ชิด  

ขณะเดียวกัน ยังเป็นการสานต่อพันธกิจการพัฒนาสังคมยั่งยืน โดยมีหัวใจหลักที่การส่งมอบโภชนาการที่ดีผ่านผลิตภัณฑ์นมคุณภาพให้กับเด็กทั่วโลก

ยอน เดิรค์ แวน คาเนอบีค ซีอีโอ รอยัล ฟรีสแลนด์คัมพิน่า ในฐานะหัวเรือใหญ่ผู้ขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนาน เผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ฟรีสแลนด์คัมพิน่า ไม่หยุดการพัฒนาเพื่อให้เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุด โดยตั้งใจมอบนมคุณภาพที่ดีขึ้นให้กับผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ไปพร้อมให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมร่วมมือกับพันธมิตร และพนักงาน เพื่อมอบสิ่งล้ำค่าให้แก่ลูกค้า

“ผู้บริโภคในปัจจุบัน ให้ความสำคัญและผลักดันให้ผู้ผลิตนมมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พวกเขาได้เรียกร้องให้ผู้ผลิตพัฒนาวิธีการผลิตที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการจัดการขยะ การใช้น้ำ และบรรจุภัณฑ์”  ซีอีโอ รอยัล ฟรีสแลนด์คัมพิน่า กล่าว

นอกจากนี้ฟรีสแลนด์คัมพิน่า ยังเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ใส่ใจการเพิ่มคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ให้เป็นมากกว่าสารอาหารพื้นฐาน โดยมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ อาทิ นมไขมันต่ำ โปรตีนเสริม พรีไบโอติก แร่ธาตุ และวิตามิน

ฟรีสแลนด์คัมพิน่า จริงจังกับความท้าทายนี้ และเชื่อว่ายังสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ จึงได้ทำสิ่งเหล่านี้ในแบบฉบับของตัวเองด้วยการทำให้ผลิตภัณฑ์ในพอร์ตทั้งหมดมีคุณค่าทางโภชนาการและอร่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

ยอน  กล่าวว่า “นอกจากนี้ ยังสามารถกล่าวได้ว่า ไม่มีใครรู้เรื่องนมดีไปกว่าเรา ทั้งนี้เรายังพยายามอย่างเต็มที่ในการผลิตสินค้าควบคู่ไปกับการดูแลรักษาธรรมชาติและรับผิดชอบต่อการจัดการขยะของเราเอง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาของคนอื่นต่อไป”

พร้อมเสริมเกี่ยวกับแนวทางการบริหารองค์กรว่า “นอกจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปพร้อมกับการพัฒนาสังคมแล้ว หัวใจสำคัญของเราอีกหนึ่งอย่างนั่นคือองค์กร การทำงานร่วมกันเป็นทีมทั่วโลกในแนวทางที่สอดคล้องกันถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ทุกคนก้าวไปในทิศทางเดียวกัน มุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน”

ขณะที่ บุคลากรที่มีความสามารถคืออาวุธลับของเรา เราจึงต้องการลงทุนด้านบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการฝึกอบรมและพัฒนา ผมจะกระตุ้นให้ทีมงานของผมเชื่อมั่นในทักษะ ความสามารถ และวิธีการที่พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมต่อเป้าหมายและคุณค่าของบริษัท เพราะเชื่อว่าทีมงานที่ดีจะเป็นรากฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจ

ยอน กล่าวต่อ สำหรับการวางแผนด้านการบริหารในประเทศไทย ที่กำลังฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคระบาด ตลาดของไทยกำลังเติบโตเป็นที่น่าพอใจ ผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและกลับไปสู่รูปแบบการใช้ชีวิตที่ปกติ

ล่าสุดเราได้เห็นการพัฒนาที่สำคัญ ซึ่งปูทางไปสู่ศักยภาพที่แข็งแรงของตลาดด้วยประชากรและรายได้ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์นมในประเทศไทยพุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้เรานำความก้าวหน้าในด้านเทคนิคการผลิต กลยุทธ์การจัดจำหน่าย และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์มาใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้คาดการณ์ว่าศักยภาพของตลาดอุตสาหกรรมนมในประเทศไทยนั้นยังคงสดใสและสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

ส่งต่อความมั่งคั่งสุขภาพ ผ่านการดื่มนม

ด้าน คอรีน แทป ประธานกลุ่มธุรกิจประจำภูมิภาคเอเชีย รอยัล ฟรีสแลนด์คัมพิน่า  กล่าวถึงภาพรวมของ ฟรีสแลนด์คัมพิน่า ในส่วนของตลาดเอเชียว่า “ยังคงมีเด็กจำนวนมากได้รับผลกระทบจากภาวะทุพโภชนาการ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเจริญเติบโตและโอกาสในชีวิต

“เราเชื่อว่าเด็กทุกคนมีสิทธิในการเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ ดังนั้น พันธกิจของเราในเอเชียคือ การนำคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์จากนมไปสู่เด็ก ๆ ให้ได้มากที่สุด” คอรีน กล่าว

สำหรับการรับมือกับความท้าทายของอุตสาหกรรมนมในเอเชียและประเทศไทยในปัจจุบัน นั้นแม้ว่าความมั่งคั่งในเอเชียจะเพิ่มมากขึ้น แต่ปัญหาภาวะทุพโภชนาการยังคงส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค ทำให้เราต้องจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างเร่งด่วน

โดยการนำเสนอนมที่อุดมไปด้วยสารอาหารและรสชาติที่ดีภายใต้แบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจของเรา ในราคาไม่แพงและเข้าถึงได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพและเข้าถึงโภชนาการจากนมที่ดีได้มากที่สุด

นอกจากนี้เรายังได้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการทางโภชนาการของผู้บริโภคในเอเชียอย่างตรงจุด โดยริเริ่มโครงการวิจัยโภชนาการขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรียกว่า SEANUTS (Southeast Asian Nutrition Surveys) โครงการ SEANUTS II เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญเกี่ยวกับภูมิทัศน์ทางโภชนาการของเด็กอายุ 6 เดือนถึง 12 ปี ในประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และเวียดนาม

จากข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์โภชนาการให้ตรงกับความต้องการของแต่ละท้องถิ่น (เช่น การเสริมแคลเซียมและวิตามินดี) และต่อยอดไปสู่ความร่วมมือกับรัฐบาลและสถาบันสุขภาพอีกด้วย

กลยุทธ์ปกป้องตลาดเอเชียและไทย

คอรีน กล่าวต่อกลยุทธ์การบริหาร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และแผนการบริหารงานของตลาดเอเชียและประเทศไทยในอนาคตว่า “จุดแข็งของเราอยู่ที่คุณภาพและความน่าเชื่อถือ ซึ่งเรามีกลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจที่เรียกว่า ‘Asia Back to Roar’ ประกอบด้วย  

  • ปกป้องตลาดหลัก (Defend the Core)
  • รักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ให้ได้
  • ลงทุนเพื่อการเติบโต (Invest for Growth)
  • สร้างสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในหมวดหมู่ของผลิตภัณฑ์นมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
  • ความเข้มงวดในการดำเนินการ (Rigour in Execution)
  • ก้าวสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมและธุรกิจนม และการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน (Lead through Sustainability)
  • มุ่งเน้นเรื่องโภชนาการที่ดีขึ้น บรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้น
  • การจัดหาผลิตภัณฑ์นมในท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม การเข้าไปดูแล ช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในเอเชียด้วยการมอบโภชนาการที่ดีผ่านผลิตภัณฑ์จากนมยังคงเป็นภาระกิจหลักที่เรายังคงสานต่อ โดยจะเห็นได้จากแคมเปญโฟร์โมสต์ส่งต่อรอยยิ้มให้เด็กไทย (Foremost One Million Smiles) ส่งมอบนม 1 ล้านกล่อง ให้กับเด็กและครอบครัวในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งเป็นแคมเปญที่ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจนประสบความสำเร็จ

“เราจึงมีแผนผลักดันและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เราเล็งเห็นว่าอนาคตของประเทศไทยขึ้นอยู่กับความเป็นอยู่ที่ดีของคนรุ่นต่อไป ทำให้เรายังไม่หยุดนิ่งที่จะสานต่อวิสัยทัศน์และพันธกิจที่เป็นหัวใจหลักขององค์กร และหวังว่าจะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์มากขึ้นเพื่อช่วยปลดล็อกศักยภาพของเด็กไทยอย่างเต็มที่” คอรีน กล่าวปิดท้าย

TAGS: #ฟรีสแลนด์คัมพิน่า #นม #โฟร์โมสต์