พลังงานคาดหน้าร้อนปีนี้ยอดใช้ไฟสูงกว่า 30,936 เมกะวัตต์ทำสถิติสูงสุดรอบ3 ปี หลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว สภาพอากาศที่ร้อน

นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าคาดการณ์ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค) ของปี 2566 จะสูงกว่า 30,936 เมกะวัตต์ หรือสูงสุดในรอบ 3 ปี เป็นผลจากการเปิดประเทศมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่อเนื่อง  ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้ามีการขยายตัวต่อเนื่อง

ทั้งนี้การใช้ไฟฟ้าที่สูงขึ้นไม่มีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงาน โดยยังมีปริมาณสำรองไฟฟ้าอยู่  36 %  มีกำลังผลิตตามสัญญา 52,566  เมกะวัตต์  และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ใช้ได้จริง 45,225 เมกะวัตต์  เนื่องจากโรงไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ พลังงานลม ไม่สามารถพึ่งพาได้ตลอด 24 ชม. ขณะที่โรงไฟฟ้าชีวมวลบขึ้นอยู่กับฤดูกาล(จากปกติควรอยู่ระดับ 15%)  

อย่างไรก็ตาม ปริมาณสำรองไฟฟ้าของไทยทยอยปรับลดลง จากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) มากขึ้น โดยสำรองไฟฟ้ากลับสู่ภาวะปกติที่ 15% ได้ในปี 2568

ขณะที่ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2566-2580 หรือ PDP 2023 ฉบับใหม่ที่กำลังจัดทำอยู่ จะยกเลิกการพิจารณาปริมาณสำรองไฟฟ้าของประเทศ( Reserve Margin ) และเปลี่ยนเป็นการใช้เกณฑ์ดัชนีความเชื่อถือได้ หรือ Loss of Load Expectation ( LOLE) แทน โดยเกณฑ์ LOLE จะวัดจากการยอมรับให้ไฟฟ้าดับได้กี่วันใน 1 ปี  

ทั้งนี้ผลการศึกษาของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)ใช้เกณฑ์ LOLE   กำหนดให้ไฟฟ้าดับในอัตรา 0.7 วันต่อปี หรือ ไม่เกิน 24 ชั่วโมงต่อปี  ซึ่งจะเหมาะสมกับประเทศไทยที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเข้าระบบมากขึ้น เพราะการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทน ยังไม่มีความเสถียรพอในการผลิตไฟฟ้า ต้องขึ้นอยู่กับแต่ละช่วงเวลา ดังนั้นระบบ LOLE จะมาช่วยตรวจวัดปริมาณไฟฟ้าที่เหมาะสมต่อความมั่นคงไฟฟ้าประเทศได้ดีกว่า  

ด้านการจัดทำแผน PDP 2023 คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางปีนี้  ซึ่งต้องนำเสนอคณะอนุกรรมการ PDP ซึ่งมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานพิจารณษก่อนที่จะเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนก่อนเสนอคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบน.) และคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) พิจารณาเพื่อประกาศใช้ต่อไป ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงของรัฐบาลใหม่

สำหรับการปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะกระทบต่อแผน PDP2023 บ้างแต่ไม่มาก เนื่องจากได้จัดทำแผนตามข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบแล้ว และอยากให้รัฐบาลใหม่สนับสนุนแผน PDP 2023 เพื่อให้สามารถเริ่มบังคับใช้ได้ในปี  2566