ตำมั่ว - ลาวญวน x ชงดี ทำตลาดร่วม ‘โลคัล แบรนด์’ คนไทย ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเพิ่มมูลค่าผ่าน 4 เมนูพิเศษ นอกจากได้ฐานลูกค้ากลุ่มใหม่แล้ว ยังหนุนธุรกิจโตยั่งยืนร่วมกันด้วย
ศิรุวัฒน์ ชัชวาลย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจแบรนด์ไทย บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเครือธุรกิจร้านอาหาร 7 แบรนด์ญี่ปุ่น และ 4 แบรนด์ไทยอีสาน กล่าวว่า บริษัทฯ วางแนวคิดการทำธุรกิจของแบรนด์ไทยในเครือ เซ็น กรุ๊ป โดยมุ่งยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นให้มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น ในการสนับสนุนผลผลิตของเกษตรชุมชนในประเทศไทย พร้อมสร้างความมั่นคงและยั่งยืนแก่ชุมชนนั้น ๆ
ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำจุดยืนแนวคิดนี้ บริษัทฯ ได้ค้นหาแบรนด์ที่มีความเชื่อในแบบเดียวกัน จนได้ร่วมงานกับ โรงชาชงดี (Chongdee Teahouse) ร้านชาใต้แท้ ๆ ไปสู่การกลยุทธ์การทำตลาดร่วมกัน (Collaboration) โดยดึงศักยภาพของวัตถุดิบท้องถิ่นชื่อดังจากจังหวัดต่าง ๆ มาพัฒนาในรูปแบบใหม่ ที่มีเอกลักษณ์ จากจุดเด่นความเชี่ยวชาญ การคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นที่ดี ผ่าน 4 เมนูสูตรของหวาน และเครื่องดื่ม รองรับทั้งกลุ่มลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ รวมถึงการสร้าง Brand Love สู่ผู้นำตลาดร้านอาหารไทยแบบยั่งยืน
“ความตั้งใจของบริษัทฯ ต้องการดึงเสน่ห์รสสชาติท้องถิ่น ที่มีเอกลักษณ์ไทยให้โดดเด่น พร้อมสนับสนุนธุรกิจของคนไทยให้เติบโตไปพร้อมกัน โดยต่อยอดสู่กลยุทธ์การคอลแล็บสไตล์โลคัลที่จริงใจจากความตั้งใจของทั้ง 3 แบรนด์ คือ ตำมั่ว ร้านอาหารอีสาน ต้นตำรับฉบับนครพนม และ ลาวญวน ร้านอาหารสไตล์อินโดจีนที่ผสมผสานเสน่ห์วิถีชีวิตของ ไทย-ลาว-เวียดนาม ที่เกิดขึ้นในจังหวัดนครพนม ร่วมกับ โรงชาชงดี ร้านชาใต้แท้ ๆ จากหาดใหญ่ เพื่อยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นในครั้งนี้” ศิรุวัฒน์ กล่าว
จากความร่วมมือทางการตลาดด้วยกลยุทธ์คอลแล็บในครั้งนี้ ยังสะท้อนถึงความแข็งแรงของกลุ่มแบรนด์ไทยและความเป็นตัวจริงเรื่องอาหารไทยของทั้ง ตำมั่ว ลาวญวน และ โรงชาชงดี ซึ่งเป็นตัวจริงเรื่องชาใต้แท้ ๆ ที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่น ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ ถือเป็นการคอลแล็บสไตล์โลคัล ที่ช่วยผลักดัน และแลกเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย ทั้งในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารไทย และธุรกิจเครื่องดื่มชาและกาแฟ ให้กว้างมากยิ่งขึ้น
ด้าน สุรีย์พร พูนศักดิ์ไพศาล และ ชัชวาล ลิมปธนวรรษ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ชงดีพูนผล จำกัด กล่าวว่า โรงชาชงดี ร้านชาใต้แท้ ๆ มีคาแรคเตอร์โดดเด่น มีความทันสมัย และปรับรสชาติให้มีความหลากหลาย ได้เปิดสาขาแรกในกรุงเทพฯ และสร้างกระแสการตอบรับดีบนโซเชียล จนได้รับความนิยมจากกลุ่มคนที่ชื่นชอบการดื่มชาใต้ ซึ่งยังตอกย้ำความเป็นโลคัลแบรนด์คุณภาพจากหาดใหญ่อย่างแท้จริง
“เราตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ตั้งแต่การคัดใบชา และวัตถุดิบอื่น ๆ นำมาเป็นส่วนประกอบ พร้อมพิถีพิถันในทุกกระบวนการทำในทุกเมนู ทั้งเมนูในร้าน และเมนูที่พัฒนาขึ้นใหม่ในแคมเปญคอลแล็บครั้งนี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกันคือ 'The charms of Local taste' simple, but timeless ให้กลายเป็นเมนูที่เข้าถึงง่าย รสชาติคุ้นเคย ที่นำมาผสมผสานกับวัตถุดิบพิเศษจากท้องถิ่น ยังเป็นการการันตีความอร่อยแบบลงตัวเลยทีเดียว" ผู้บริหารโรงชาชงดี กล่าว
รสชาติแห่งการคอลแล็บ 4 เมนูพิเศษ
- ชาชงดีกาแฟ ลาวญวน : เมนูที่ดึงเสน่ห์ของแบรนด์ ลาวญวน นำเสนอผ่านกาแฟเวียดนาม มาผสมผสานกับเมนู ชาชงดีซิกเนเจอร์ ของโรงชาชงดี ได้อย่างลงตัว มีกลิ่นหอมพิเศษของชาและรสชาติเข้มข้นของเมล็ดกาแฟ ทำให้เมนูนี้ออกมาชัดเจน ทั้งกลิ่นและรสแบบสมบูรณ์
- บ๊วยส้มมะปี๊ด : ส้มมะปิ๊ด ผลไม้สุดจี๊ดจากจันทบุรี มีรสเปรี้ยวคล้ายมะนาว แต่มีความหอมของกลิ่นส้ม ตัดกับรสเค็มหวานของบ๊วย ให้ความสดชื่น เหมาะกับเมนูรสจัดจ้านของทั้งร้านตำมั่วและลาวญวนได้อย่างลงตัว
- เก๊กฮวยลอนตาลมะพร้าวอ่อน : ลอนตาล ของดีจากเพชรบุรี คัดสรรส่วนที่ดีที่สุดมาทำเมนู เพราะหากอ่อนไปจะติดเปรี้ยว แต่แก่ไปจะไม่อร่อย นำมาผสมกับน้ำเก๊กฮวยและชามะลิที่มีความหอมอ่อน ๆ เพิ่มเนื้อสัมผัสของมะพร้าวอ่อน เนื้อกรุบกรอบ เข้ามาเติมความอร่อยไปอีกขั้น
- เฉาก๊วยหอมหมื่นลี้ – ชานม : เนื้อของเฉาก๊วยและวุ้นหอมหมื่นลี้แบบโฮมเมด เติมชาชงดีซิกเนเจอร์ที่ถูกปรับสูตรให้เข้ากับเมนูขนมหวาน มีความมันนัวขึ้น เสิร์ฟพร้อมถั่วแดง รากบัว เม็ดแปะก๊วยที่เชื่อมเองด้วย
"ก่อนที่โรงชาดี จะตัดสินใจคอลแล็บกับแบรนด์ใด เราจะต้องชอบจุดยืนและแนวคิดการดำเนินธุรกิจของแบรนด์นั้นด้วย ซึ่งตำมั่ว – ลาวญวน ก็เป็นตัวจริงของวงการร้านอาหารไทย และมีความเชื่อและความตั้งใจในแบบเดียวกันกับเรา" สุรีย์พร และ ชัชวาล ร่วมกล่าวทิ้งท้าย
สำหรับ 4เมนูพิเศษชวนมาชื่นใจสไตล์โลคัล กันได้ตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย. 67 – 15 ส.ค. 67 เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ 3 เมนูพิเศษที่ "ลาวญวน": กาแฟลาวญวน, บ๊วยส้มมะปิ๊ด และเก๊กฮวยลอนตาลมะพร้าวอ่อน 2 เมนูพิเศษที่ "ตำมั่ว": บ๊วยส้มมะปิ๊ด และเฉาก๊วยหอมหมื่นลี้ – ชานม