เฟรเซอร์สฯ แผน5 ปี ย้ำ No.1 ผู้พัฒนาอสังหาฯอุตสาหกรรม ต้องมีพื้นที่ในพอร์ตทั้งใน/ตปท. 5 ล้านตร.ม. พร้อมแผน 4 ด้านหนุนโตยั่งยืนระดับภูมิภาคทั้งในอินโดฯและเวียดนาม
พีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทเตรียมงบลงทุน 25,000 ล้านบาทในการขยายพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มเป็น 5 ล้านตร.ม.ภายใน 5 ปี (2025-2029) พร้อมด้วยการเพิ่มพื้นที่ที่ผ่านมาตรฐานอาคารเขียวเป็น 4 ล้านตร.ม. เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้ผู้นำกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม ในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ขณะที่ในช่วงที่ผ่านตลาดอสังหาฯเพื่ออุตสาหกรรม มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาดหลายราย จากการขยายตัวธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเติบโตและมีดีมานด์ต่อเนื่อง จากปัจจัยหลัก
- การขยายตัวของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) เป็นผลจากภูมิรัฐศาสตร์โลก
- ความต้องการ(ดีมานด์)เพิ่มขึ้นจากภาคการผลิต
จากแนวโน้มดังกล่าว บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์การสร้างธุรกิจให้แข็งแกร่งทั้งในไทยและระดับภูมิภาค ตอกย้ำการเป็นอันดับ 1 ของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมในไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ด้วยพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการ 3.55 ล้านตร.ม. โดยแผนงานขับเคลื่อนการเติบโตจะดำเนินการใน 4 มิติหลัก ได้แก่
- Solutions: ครบครันด้วยโซลูชันสินค้าที่หลากหลาย ส่งมอบโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าคุณภาพสูง รองรับความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ ทั้งแบบพร้อมใช้ (Ready-Built) แบบสร้างความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) และใหม่ล่าสุดกับแบบสร้างตามฟังก์ชันพร้อมใช้ (Built-to-Function)
โดย ใช้นวัตกรรมการพัฒนาอาคารอุตสาหกรรม ผสานระหว่าง Ready-Built และ Built-to-Suit เป็นอาคารสำเร็จรูปที่เสริมฟีเจอร์ใช้งานเฉพาะทาง ซึ่งบริษัทฯ มีพื้นที่ให้บริการหลายโลเคชัน ทั้งเขตทั่วไป (General Zone) และเขตปลอดอากร (Free Zone) ในทำเลยุทธศาสตร์สำคัญด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์กว่า 50 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากนั้น มีแผนใช้ที่ดินภายใต้การบริหารจัดการพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าเพื่อขาย ซึ่งเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า และเป็นการขยายการดำเนินงานของบริษัทฯ เพิ่มเติมจากธุรกิจให้เช่าโรงงานและคลังสินค้า
- Services: มุ่งให้บริการครบวงจรระดับอาชีพ ด้วยทีม Property Management และทีมงานให้คำปรึกษาลูกค้าในการติดต่อกับหน่วยงานรัฐ อาทิ BOI, นิคมอุตสาหกรรม, กรมศุลกากร เพื่อให้การดำเนินงานของลูกค้าเป็นไปด้วยความสะดวก
พร้อมอัปเกรดโรงงานและคลังสินค้าผ่านการยกระดับคุณภาพอาคาร (Asset Enhancement Initiative: AEI) ทั้งดีไซน์ที่ทันสมัย ผสานฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์การดำเนินงานหรือธุรกิจของลูกค้ามากขึ้น
รวมถึงยกระดับคุณภาพโลจิสติกส์พาร์ค (Park Enhancement Initiative: PEI) ภายในในเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ พาร์ค โดยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานโรงงานและคลังสินค้าในโครงการผ่านการเพิ่มพื้นที่สีเขียวและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งสนามฟุตบอล ลู่วิ่ง และพื้นที่พักผ่อนสำหรับคนขับรถบรรทุก เป็นต้น
- Sustainability: ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมตามแนวทางความยั่งยืน ตั้งเป้าพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าที่เป็นอาคารใหม่ พร้อมอัปเกรดอาคารเดิมให้ได้มาตรฐานอาคารเขียวระดับประเทศและสากล ทั้ง LEED, EDGE และ TREES ควบคู่กับการใช้พลังงานสะอาดอย่างการติดตั้ง Solar Roof, EV Charger และมี Smart Metering System สำหรับตรวจสอบและวิเคราะห์การใช้พลังงาน
- Smart&Innovation: ดึงเทคโนโลยีอัจฉริยะเสริมแกร่งการดำเนินงาน พัฒนาแพลตฟอร์มที่ผสมผสานเทคโนยีสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกันสำหรับการพัฒนาโครงการ การดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ บริหารงานด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยแอปพลิเคชัน FlexFix ตอบโจทย์งานซ่อมบำรุงที่สามารถตอบสนองผู้เช่าได้ทันที
พีระพัฒน์ กล่าวถึงภาพรวมในครึ่งปีแรกของปีงบการเงิน 2567 (ตุลาคม 2566-มีนาคม 2567) บริษัทฯ ได้ส่งมอบพื้นที่ให้กับลูกค้าไปแล้วประมาณ 50,000 ตร.ม. เป็นอาคารคลังสินค้าแบบ Built-to-Suit และ Built-to-Function รวมถึงโครงการ AEI ที่ได้เข้าไปยกระดับและพัฒนาอาคารเพิ่มเติมให้กับลูกค้า
พร้อมทั้งมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและเตรียมส่งมอบในครึ่งปีหลัง (เมษายน-กันยายน 2567) ทั้ง Last Mile Warehouse พื้นที่ 21,000 ตร.ม.บนทำเลปู่เจ้าสมิงพราย จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อรองรับ City Logistics และโรงงานพื้นที่ประมาณ 65,000 ตร.ม.
สำหรับลูกค้าธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ในบินห์เดือง โลจิสติกส์ พาร์ค ประเทศเวียดนาม ทั้งหมดจะผลักดันพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการเพิ่มเป็นกว่า 3.6 ล้านตร.ม. โดยบริษัทฯ เดินหน้าขยายการลงทุนในไทย อินโดนิเซีย และเวียดนามอย่างต่อเนื่อง
