เริ่มเลย!! เครือสหพัฒน์ จัดงานใหญ่กลางปี ‘สหกรุ๊ป แฟร์ แอนด์ เฟส’ ครั้งที่ 28 ขนสินค้าราดาดีสะท้านเงินเฟ้อ พร้อม ‘บิ๊ก มูฟ’ ผ่านเอ็มโอยู 18 ฉบับ 6 กลุ่มธุรกิจมุ่งสู่ไบโอเทคฯและเอไอด้วย
ธรรมรัตน์ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และประธานจัดงานสหกรุ๊ปแฟร์ กล่าวว่าสหกรุ๊ปแฟร์ปีนี้ ได้จัดขึ้นในวันที่ 27-30 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00–21.00 น. ที่ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา โดยจะนำสินค้าแบรนด์ดังในเครือสหพัฒน์มาจำหน่ายในราคาพิเศษ รวมกว่า 100 บริษัท 1,000 รายการในเครือฯ ร่วมจัดแสดงนวัตกรรมล่าสุด สินค้าใหม่จากแบรนด์ต่าง ๆ รวมทั้งกิจกรรมพิเศษ แฟชั่นโชว์ การประกวด และการสัมมนา ต่างๆ
โดยงานสหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 28 ในปีนี้ ยังได้จัดขึ้นภายใต้โฉมใหม่ในคอนเซปต์ Fair & Fest ให้เป็นทั้งแฟร์และเฟสติวัลในงานเดียว ด้วยกิจกรรมความบันเทิงกระจายอยู่ทุกพื้นที่ ทั้งบนเวทีการแสดง พื้นที่ส่วนกลาง บูธแสดงสินค้า เพื่อสร้างสีสัน ความแปลกใหม่ และทำให้การเลือกซื้อสินค้าสนุกสนานและเพลิดเพลินมากกว่าเดิม อาทิ การประกวดเต้นโคฟเวอร์และฮิปฮอปสุดมันส์ คอนเสิร์ตจากยูทูบเบอร์ในโลกเสมือน (VTuber Concert) ที่กำลังมาแรง
รวมถึง แฟชั่นโชว์ WACOAL BRACATION ในคอลเลกชันใหม่ปี 2024 กิจกรรม ODEN-YA รวมพลคนสะสมการ์ดพลัง แฟชั่นโชว์สัตว์เลี้ยง Meet & Greet กับเซเลบสี่ขา มาร่วมสร้างสีสัน การแสดงดนตรีและคอนเสิร์ตจากศิลปินมากมาย พร้อมด้วยงานแสดงศิลปะป๊อปอาร์ต อาร์ตทอยแกลลอรีที่มีคาแรกเตอร์ชื่อดัง ‘HUUYAOW’ พร้อมมุมตกแต่งสวย ๆ อีกมากมายให้ผู้ร่วมงานถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
นอกจากนี้ ยังมี 3 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ของเครือสหพัฒน์นำสินค้ามาจัดแสดงและจำหน่ายด้วย ได้แก่
- สมาคมการค้าวิสาหกิจจีน ซึ่งจะนำกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ มาร่วมงาน อาทิ รถยนต์อีวี เช่น BYD, AION, ChangAn, MG, GWM
- สินค้าเทคโนโลยี เช่น Huawei, HIP Global, Hikvision เป็นต้น
- Quark Biosciences ผู้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการแพทย์ชั้นนำจากไต้หวัน และ Zhen Ding Technology Holding Limited ผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นวงจรพิมพ์อันดับ 1 ของโลก
ธรรมรัตน์ กล่าวอีกว่า “นอกจากกิจกรรมที่จะสร้างสีสันให้งานสหกรุ๊ปแฟร์มีความสดใหม่แล้ว ปีนี้จะเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้เซ็นเอ็มโอยูและบันทึกความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ รวม 18 ฉบับ ใน 6 กลุ่มธุรกิจ แสดงถึงทิศทางธุรกิจของเครือสหพัฒน์ที่จะก้าวไปในอนาคต”
สำหรับการลงนามบันทึกความเข้าใจ และการลงนามความร่วมมือ ทั้ง 18 ฉบับ ประกอบด้วย
- ธุรกิจไบโอเทค 1 ฉบับ ได้แก่
- ความร่วมมือกับบริษัท QUARKBIO ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Precision Healthcare Solution เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ Precision Healthcare
- ธุรกิจบริการ 4 ฉบับ ได้แก่
- ความร่วมมือกับ สกายไดร์ฟ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจอากาศยานไร้คนขับ
- ความร่วมมือกับ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อดำเนินโครงการศูนย์พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร
- ความร่วมมือกับ ฟาสต์ บิวตี้ ธุรกิจร้านทำสีผมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น เพื่อเปิดร้านทำสีผม fufu ในประเทศไทย
- ความร่วมมือกับธนาคารไอซีบีซี เพื่อสนับสนุนและขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่างกัน
- ธุรกิจความรู้ 4 ฉบับ ได้แก่
- ความร่วมมือกับ 5 สถาบันการศึกษา ได้แก่ พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พระจอมเกล้าพระนครเหนือ เกษตรศาสตร์ นิด้า สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร ธรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาบุคลากรให้กับอุตสาหกรรมผลิตแผ่นวงจรพิมพ์ในไทย
- ความร่วมมือกับ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เพื่อเสริมทักษะการเป็นผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ด้านแฟชั่นให้นักศึกษา
- ความร่วมมือกับ โรงแรมสยามวิลล่า สุวรรณภูมิ วิทยาลัยมวยไทยศึกษาและการแพทย์แผนไทย วิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจแฟชั่นนานาชาติ และสมาคมกีฬามวยไทย เพื่อเปิดหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขามวยไทยศึกษา
- ความร่วมมือทางวิชาการกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ และวิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจแฟชั่นนานาชาติ เพื่อจัดการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตในการพัฒนากำลังคนทุกช่วงวัย
- ธุรกิจแพลตฟอร์ม 4 ฉบับ ได้แก่
- ความร่วมมือกับ ลาลาสเตชันส์ ผู้นำธุรกิจไลฟ์คอมเมิร์ซจากเกาหลี เพื่อพัฒนาไลฟ์คอมเมิร์ซแพลตฟอร์มแรกของไทย
- ความร่วมมือกับ เอตัวล์ ไคโตะ ผู้นำค้าส่งสินค้าจากญี่ปุ่น เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ของแต่ละฝ่ายขยายสู่ตลาดต่างประเทศ
- ความร่วมมือกับ เอ็มทีเอส โกลด์ เพื่อผลิตทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% รองรับระบบดิจิทัล โกลด์ เซฟวิ่ง
- ความร่วมมือกับ ออร์บิกซ์ เทค เพื่อพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
- ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 2 ฉบับ ได้แก่
- ความร่วมมือกับ โตคิว คอร์ปอเรชั่น เพื่อก่อตั้ง สห โตคิว พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ เพื่อให้บริการด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ในไทย
- ความร่วมมือกับโตคิว คอร์เปอเรชั่น และดุสิตธานี เพื่อพัฒนาโครงการคิงสแควร์ เรสซิเดนซ์ และโครงการดุสิต สวีต คิงสแควร์ กรุงเทพฯ
- ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 3 ฉบับ ได้แก่
- ความร่วมมือกับ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เพื่อใช้โซลูชัน โกกรีนพลัส ในการขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
- ความร่วมมือกับ เอสซี แกรนด์ เพื่อพัฒนาสินค้าแฟชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ความร่วมมือกับ บี.กริม เพาเวอร์ เพื่อพัฒนาที่จอดรถยนต์ไฟฟ้าที่โครงการคิงสแควร์ เรสซิเดนซ์ และติดตั้งโซล่าร์รูฟที่โครงการคิงสแควร์ คอมมูนิตี้
โดยในปีนี้ คาดมีการจับจ่ายเติบโตเพิ่มขึ้น 30% เงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท