จับตา ‘เครือสหพัฒน์’ ขยับใหญ่ หลังลงนาม MOU 18 ฉบับ กับทิศทางธุรกิจใหม่ หนุนอนาคตเศรษฐกิจไทย

จับตา ‘เครือสหพัฒน์’ ขยับใหญ่ หลังลงนาม MOU 18 ฉบับ กับทิศทางธุรกิจใหม่ หนุนอนาคตเศรษฐกิจไทย
ปิดฉากงานสหกรุ๊ป แฟร์ แอนด์ เฟส ครั้งที่ 28 ไปแล้ว รอจับตา ‘เครือสหพัฒน์ ขยับใหญ่ ลงนาม MOU หนุนเศรษฐกิจไทย

ปิดฉากงานสหกรุ๊ป แฟร์ แอนด์ เฟส ครั้งที่ 28 ไปแล้ว ที่ผู้ร่วมงานฯ ในปีนี้นอกจากจะได้ทั้งความสนุกและความคุ้มค่าจากการจับจ่ายซื้อสินค้าราคาพิเศษต่างๆ ในงานฯนี้  ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สะท้อนภาพอนาคต เครือสหพัฒน์ อีกด้วย

 

ด้วยในปี 2567 นี้ ถือเป็นการเคลื่อนไหวทางธุรกิจครั้งใหญ่ของเครือสหพัฒน์ ยักษ์สินค้าอุปโภค-บริโภคที่อยู่คู่คนไทยมาไม่ต่ำกว่า 8 ทศวรรษ ได้พลิกโฉมตัวเองอีกครั้ง จากการขยายความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรทั้งในประเทศ และ ต่างประเทศ 3 ชาติ เกาหลี ญี่ปุ่น และ ไต้หวัน ผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ‘18 ฉบับ’ ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติการณ์ของเครือสหพัฒน์ เลยทีเดียว

 

 

สำหรับ MOU ทั้ง 18 ฉบับใหม่นี้ ยังสะท้อนถึง ‘ความสนใจ’ ของเครือสหพัฒน์ ที่จะไปต่อในอนาคตนับจากนี้ ใน 5 กลุ่มธุรกิจใหม่ คือ 

1.ธุรกิจ แพลตฟอร์ม
2.ธุรกิจ บริการ 
3.ธุรกิจ ไบโอเทค 
4.ธุรกิจ ความรู้ 
5.ธุรกิจ เพื่อความยั่งยืน 

‘4 แพลตฟอร์ม’ แห่งอนาคต

สำหรับธุรกิจแพลตฟอร์มในปีนี้ ‘เครือสหพัฒน์’ ได้ความสำคัญต่อเนื่องกับพันธมิตรในประเทศโดยร่วมกับ เอ็มทีเอส โกลด์ (MTS Gold) ผู้นำด้านทองคำครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของไทย โดยจะร่วมกันผลิตทองคำแท่งความบริสุทธิ์ 99.99% เพื่อรองรับระบบดิจิทัล โกลด์ เซฟวิ่ง สำหรับการออมทอง การลงทุนในทองคำ และใช้ทองคำเป็นหลักทรัพย์สำรองของเครือสหพัฒน์ และพันธมิตรธุรกิจ

นอกจากนี้ ยังได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อให้บริการ อีก 3 แพลตฟอร์มใหม่ ที่กำลังจะเกิดขึ้น คือ   

ลาลาสเตชันส์ (LALASTATIONS) ผู้นำธุรกิจไลฟ์คอมเมิร์ซจากเกาหลี เพื่อร่วมพัฒนาไลฟ์คอมเมิร์ซแพลตฟอร์มรายแรกของไทย
เอตัวล์ ไคโตะ (Etoile Kaito) ผู้นำค้าส่งสินค้าจากญี่ปุ่น เพื่อแนะนำผลิตภัณฑ์ของแต่ละฝ่ายขยายสู่ตลาดต่างประเทศ 
ออร์บิกซ์ เทค (Orbix Tech) เพื่อร่วมพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน พร้อมผสานความร่วมมือรุกธุรกิจบริการ 

ขานรับโลกธุรกิจบริการ ยุคใหม่  

ขณะเดียวกัน เพื่อตอกย้ำความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจบริการของเครือสหพัฒน์ ในปีนี้ยังได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเตรียมให้บริการธุรกิจใหม่ ดังนี้ 

• สกายไดร์ฟ (SkyDrive) ศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจอากาศยานไฟฟ้าขึ้นลงในแนวดิ่ง (eVTOL) โดยหวังที่จะเปิดมิติใหม่ของการจราจรทางอากาศในประเทศไทย และยังตั้งเป้าที่จะขยายฐานการผลิตมาไทยด้วย
• ศูนย์พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุแบบครบวงจร โดยร่วมมือกับ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี 
ทั้งด้านวิชาการ เทคโนโลยี แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างกัน พร้อมทั้งสนับสนุนด้านคำปรึกษา และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
• ร้านทำสีผม fufu โดยร่วมมือกับ ฟาสต์ บิวตี้ (Fast Beauty) ธุรกิจร้านทำสีผมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น เพื่อเปิดร้านทำสีผม fufu ในไทย พร้อมเปิดสาขาแรกที่ย่านทองหล่อ 
• บริการสนับสนุนและขยายโอกาสทางธุรกิจระหว่างกัน โดยร่วมมือกับ ธนาคารไอซีบีซี 

ขณะที่เซ็กเมนต์การ ‘บริการด้านอสังหาริมทรัพย์’ ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสทางธุรกิจในเครือสหพัฒน์ ที่ให้ความสำคัญมาโดยตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา พร้อมต่อยอดความเชี่ยวชาญสู่การพัฒนาพื้นที่ย่านพระราม 3 ให้เป็น Community of Kindness สถานที่ที่ทุกคนอยากมาใช้ชีวิต หลังการร่วมทุนกับ โตคิว คอร์ปอเรชั่น ผู้พัฒนาเมืองและอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ประเทศญี่ปุ่น พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับลักซูรี่ ภายใต้ชื่อ ‘คิงสแควร์ เรสซิเดนซ์’ (KingsQuare Residence) ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมทั้งโปรเจกต์กว่า 10,000 ล้านบาท

 

ล่าสุดในนี้ ยังได้ประกาศความร่วมมือกับ ‘ดุสิตธานี’ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการบริการและโรงแรม เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการบริหารจัดการภายในโครงการฯ ให้แก่ลูกค้าเพิ่มเติมในอนาคตเมื่อแล้วเสร็จ และเพื่อให้ธุรกิจบริการด้านอสังหาฯ ของเครือสหพัฒน์ครบวงจรมากขึ้น ยังได้จัดตั้ง บริษัท สห โตคิว พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเมนต์ จำกัด เพื่อให้บริการด้านบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ในไทย โดยจะประเดิมที่โครงการคิงสแควร์ คอมมูนิตี้ มอลล์ และโครงการคิงบริดจ์ ทาวเวอร์ พร้อมวางแผนขยายการให้บริการธุรกิจต่อไปยังโครงการอื่นต่อไป ในอนาคต

 

‘ไบโอเทค’ เจาะตลาดสุขภาพความงามขั้นสูง 

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่ง MOU น่าสนใจ โดยเครือสหพัฒน์ได้ขยายความร่วมมือกับ ‘ควาร์กไบโอ’ (QUARKBIO) ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง Precision Healthcare Solution บริษัทยักษ์ใหญ่จากไต้หวัน เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ Precision Healthcare บริการผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงามที่จำเพาะบุคคลและมีความแม่นยำ เพื่อให้บริการดูแลสุขภาพขั้นสูง และยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย อีกด้วย

อัปสกิล ‘ทักษะ’ แรงงานไทย 

ขณะเดียวกันในปีนี้  เครือสหพัฒน์ ยังได้ร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทย ในการส่งเสริมสร้างความรู้ทั้งด้าน ฮาร์ด สกิล และ ซอฟต์ สกิล เพื่อรองรับตลาดแรงงานในยุคถัดไปที่ต้องอาศัยทักษะความสามารถของแรงงานในตลาดที่แตกต่างไปจากอดีตแล้ว  

โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะความรู้ให้กับบุคลากร เพื่อรองรับอุตสาหกรรมผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Print Circuit Board : PCB) ในไทย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ไทยมีสัดส่วนการผลิต PCB ในตลาดโลกเพิ่มขึ้น และเป็นฐานการผลิตที่สำคัญในอาเซียน โดยร่วมพัฒนาบุคลากรป้อนให้กับ 5 สถาบันการศึกษา ประกอบด้วย พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง  พระจอมเกล้าพระนครเหนือเกษตรศาสตร์  นิด้า และ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร ธรรมศาสตร์ 

นอกจากนี้ ยังร่วมมือกับ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เพื่อเสริมทักษะการเป็นผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ด้านแฟชั่นให้นักศึกษา และความร่วมมือกับ โรงแรมสยามวิลล่า สุวรรณภูมิ วิทยาลัยมวยไทยศึกษาและการแพทย์แผนไทย วิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจแฟชั่นนานาชาติ และสมาคมกีฬามวยไทย เพื่อเปิดหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขามวยไทยศึกษา ซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย พร้อมร่วมมือกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ และวิทยาลัยเทคโนโลยีธุรกิจแฟชั่นนานาชาติ เพื่อจัดการศึกษาเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตในการพัฒนากำลังคนทุกช่วงวัย

‘โก กรีน’ เพื่อธุรกิจยั่งยืน 

ขณะเดียวกัน ‘เครือสหพัฒน์’ ยังวางเป้าหมายการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน สะท้อนผ่านโปรเจกต์ใหญ่ในด้านนี้ โดยนำร่องความร่วมมือกับ ‘ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส’  นำ 70 บริษัทในครือสหพัฒน์ มาใช้โซลูชันโกกรีน พลัส เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งด่วนทางอากาศ ผ่านการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel) ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 80% เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องบินทั่วไป 

นอกจากนี้ ยังร่วมกับ บี.กริม เพาเวอร์ พัฒนาที่จอดรถยนต์ไฟฟ้าที่โครงการคิงสแควร์ เรสซิเดนซ์ รวมทั้งติดตั้งโซล่าร์รูฟ ที่โครงการคิงสแควร์ คอมมูนิตี้ และความร่วมมือกับ เอสซี แกรนด์ เพื่อพัฒนาสินค้าแฟชั่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

จาก ‘บิ๊ก มูฟ’ ใน 6 กลุ่มธุรกิจใหม่ ผ่าน MOU ทั้ง 18 ฉบับนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกระจกบานใหญ่สำคัญ ที่ยังสะท้อนถึงเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคตได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต จากการขยับตัวครั้งใหญ่ขององค์กรยักษ์อย่าง ‘เครือสหพัฒน์’ ที่มีส่วนร่วมขับเคลื่อนภาคธุรกิจของไทยมาร่วม 8 ทศวรรษ 

TAGS: #เครือสหพัฒน์ #เศรษฐกิจไทย #MOU