SCG สะท้อนตลาดครึ่งแรกปี67 กำลังซื้อ ‘กรุงเทพฯ-ปริมณฑล’ หดตัว คนชะลอสร้างบ้านใหม่ หันซ่อม/รีโนเวทแทน

SCG สะท้อนตลาดครึ่งแรกปี67 กำลังซื้อ ‘กรุงเทพฯ-ปริมณฑล’ หดตัว คนชะลอสร้างบ้านใหม่ หันซ่อม/รีโนเวทแทน
SCG มองค้าปลีกสินค้า/บริการบ้านครึ่งหลังปึ 67 ต้องปรับแผนธุรกิจใหม่ รับโอกาสกลุ่มสินค้าปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยขยายตัว พร้อมวางโรดแมปทำธุรกิจครบวงจรใน 5 ปีหน้าดันสู่รายได้ 600 ล้านบาท  

ธัญญ์กวิน บุดดีมี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าสำหรับที่อยู่อาศัย SCG Home Experience  เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจสินค้า/บริการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในครึ่งแรกของปึ 2567 ที่ผ่านมา เติบโตลดลงราว 20-30 % เทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน

โดยปัจจัยหลัก มาจากผู้บริโภคมีกำลังซื้อลดลงซึ่งมีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้าเกี่ยวกับบ้าน/ที่อยู่อาศัย ที่ต้องใช้ระยะเวลานานขึ้น ตามแนวโน้มเดียวกับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มสร้างบ้านใหม่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในภาพรวมที่ชะลอตัวลงเช่นกัน

ธัญญ์กวิน กล่าวว่า “การทำตลาดสินค้าในครึ่งแรกของปีนี้เหนื่อยมาก จากกำลังซื้อลดลงอย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับในปีที่ผ่านมา และยังรวมถึงในช่วงก่อนและระหว่างสถานการณ์โควิดที่ธุรกิจสินค้าและบริการเกี่ยวกับบ้านเติบโตอย่างมาก” พร้อมเสริมว่า “อย่างไรก็ตามในกลุ่มสินค้า/บริการเกี่ยวกับการซ่อมแซม ปรับปรุงบ้านเก่า หรือ รีโนเวท กลับพบว่ามีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น”

โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา กลุ่มงานต่อเติมและงานนอกสถานที่ (outdoor) เช่น การต่อเติมโรงรถ ปรับภูมิทัศน์ภายนอก ยังได้รับความนิยมใกล้เคียงกับในปีที่ผ่านมาจากความต้องการเจ้าของบ้านในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยเฉพาะในตลาดกลุ่มรีโนเวทและงานต่อเติมที่มีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น ทั้งกลุ่มที่มีปัญหาบ้านต้องการแก้ไข กลุ่มที่ต้องการปรับให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมและความต้องการส่วนบุคคล

โดยพบปัญหาสูงสุด 3 อันดับแรก จากลูกค้า ดังนี้

  1. บ้านทรุด/ร้าว ตามสภาพพื้นดิน
  2. บ้านร้อน/บ้านรั่ว จากปัญหาการเสื่อมของโครงสร้างบ้าน
  3. ปัญหางานระบบต่างๆ ภายในบ้าน เช่น น้ำประปาไม่ไหล ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ เป็นต้น  

“บริษัทฯ ใช้จุดแข็งความน่าเชื่อถือขององค์กร ไปพร้อมกลยุทธ์ความร่วมมือระหว่างพันธมิตรในการให้บริการพร้อมการันตีงบประมาณที่จะไม่บานปลายออกไปเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า” ธัญญ์กวิน กล่าว  

พร้อมเสริมอีกว่า บริษัทฯ ยังร่วมกับพันธมิตรโดยริเริ่มบริการ ‘คลินิกหมอบ้าน’ ให้คำปรึกษา พร้อมวิเคราะห์และเสนอแผนการซ่อมแซม/ปรับปรุงที่อยู่อาศัย โดยจะเข้าไปในโครงการที่อยู่อาศัยที่มีอายุโครงการฯมากกว่า 10 ปีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาให้บริการไปแล้วมากกว่า 1,800 เคส และวางเป้าหมายเข้าไปให้บริการดังกล่าวได้ 12 โครงการในสิ้นปีนี้   

ธัญญ์กวิน กล่าวอีกว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ยังพบว่างานโซลูชันกลุ่มตลาดผู้สูงอายุ หรืองานภายใน มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมถึงกลุ่มสินค้าที่เจ้าของบ้านให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น เช่น พื้นลดแรงกระแทก พื้นป้องกันเชื้อแบคทีเรีย งานติดตั้งลิฟท์บันได ลิฟท์บ้าน  

“ลูกค้ากลุ่มนี้ เริ่มมีการเตรียมความพร้อมก่อนวัยมากขึ้น ส่วนเจ้าของบ้านที่เป็นครอบครัวที่ไม่มีบุตรและหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทดแทน ได้มองหาวัสดุในการดูแลสัตว์เลี้ยงให้เหมือนลูกมากขึ้น เช่น พื้นกันลื่นภายในบ้าน อุปกรณ์ Gadget ใช้ในการดูแลสัตว์เลี้ยงเช่นกัน” ธัญญ์กวิน กล่าว

5 เทรนด์บ้านแห่งอนาคต

จากแนวโน้มดังกล่าว ยังสอดคล้องกับแนวทางการทำธุรกิจในปี 2567 โดยบริษัทฯ จะมุ่งสร้างประสบการณ์ผ่านองค์ความรู้ สินค้าและนวัตกรรม เพื่อการอยู่อาศัยที่ดีขึ้น ด้วยการให้ SCG HOME Experience สามารถดูแลลูกค้าได้ครบทุกความต้องการ ตั้งแต่ ‘คิด-สร้าง-ซ่อม-อยู่’ เพื่อสร้างความยั่งยืนด้านการอยู่อาศัย โดยวางเป้าหมายเห็นความชัดเจนดังกล่าว ภายในปี 2572

นอกจากนี้ ยังจะโฟกัสการทำตลาดสินค้า/บริการ รองรับ 5 เทรนด์บ้านในรูปแบบ Sustainable Living ได้แก่

  1. บ้านเย็น
  2. บ้านสมาร์ท
  3. บ้านผู้สูงอายุ
  4. บ้านกันเสียง
  5. บ้านประหยัดพลังงาน

โดยการนำสินค้าในกลุ่ม SCG Green Choice มาใช้ โดยเน้นการลดโลกร้อน ลดการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดทรัพยากร และยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น ช่วยสร้างสุขภาวะที่ดีในการอยู่อาศัยและมีสภาพแวดล้อมเหมาะแก่การอยู่อาศัย

นอกจากนี้ได้จัดทำกระบวนการ Partner Management เพื่อร่วมทำงานกับพาร์ทเนอร์เพื่อให้เกิดเศษวัสดุเหลือใช้ให้น้อยที่สุด เริ่มตั้งแต่การเข้าสำรวจวัดขนาดการติดตั้ง เตรียมอุปกรณ์ให้เหมาะกับหน้างาน ซึ่งสามารถช่วยลดเศษวัสดุ ลดการเกิดมลพิษทางเสียงและทางอากาศที่หน้างานได้

ขณะที่ในปี 2567 กลุ่มสินค้าและบริการจากเอสซีจียังคงเติบโต แม้ในภาพรวมตลาดจะยังแข่งขันค่อนข้างสูงจากผู้ผลิตรายใหม่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดโซลาร์เซลล์ที่เจ้าของบ้านหันมาให้ความสนใจติดตั้งมีค่อนข้างมาก ในขณะที่ SCG Solar Roof Solutions ยังได้การตอบรับค่อนข้างดี

จากแผนดังกล่าว คาดจะสามารถผลักดันรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 300-350 ล้านบาท มาจากกลุ่มสร้างบ้านใหม่สัดส่วน 30% และกลุ่มซ่อมแซม/ปรับปรุงบ้าน 70% และภายใน 5 ปีหน้าจะมีอัตราการเติบโตรายได้เพิ่มเป็น 600 ล้านบาท จากกลยุทธ์การขยายความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกัน

ปัจจุบันบริษัทฯ วางตำแหน่งให้ SCG Home Experience เป็นแฟล็กชิป สโตร์ สินค้า/บริการ และเป็นพื้นที่แห่งการทดลองคิดค้นการออกแบบนวัตกรรมสินค้าต่างๆ ด้านอยู่อาศัย นอกจากนี้ยังร่วมกับพันธมิตรร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง/ตกแต่งบุญถาวร เพื่อให้บริการ ‘เอสซีจี โฮม บุญถาวร’ อีก 30 สาขาในต่างจังหวัด ด้วย   

ล่าสุดจัดงาน ‘ฉลองครบ 15 ปี ช้อปสนุก จัดหนักเรื่องบ้านกับ SCG HOME Experience’ โดยมีโปรโมชันพิเศษให้กับเจ้าของบ้านที่มีแผนในการทำบ้าน ในงานสามารถช้อปสินค้าที่ลดสูงสุด 80% และโปรโมชันซื้อครบรับทอง แลกรับทองสูงสุด 2 สลึง รวมถึงการออกแบบบ้าน ฟรี และโปรโมชัน ON TOP พิเศษในการใช้บริการพร้อมติดตั้ง ได้ตั้งแต่วันที่  4-7 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 – 19.00 น. ณ SCG HOME Experience เลียบทางด่วนเอกมัย - รามอินทรา

 

TAGS: #SCG #เอสซีจี #เอ็กซพีเรียนซ์ #บ้าน #อสังหาริมทรัพย์