หนี้ครัวเรือน  ฉุดศก.ไทย "พิชัย"ฝาก แบงก์ยืดผ่อนบ้าน 80-85 ปี ทบทวนจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ เหลือ 5%

หนี้ครัวเรือน  ฉุดศก.ไทย
"พิชัย" รับเศรษฐกิจไทยยังตกต่ำ เผย ครม.เศรษฐกิจ เจอปัญหาใหญ่ เรื่องหนี้ครัวเรือน ฝากธปท. หารือแบงก์พาณิชย์ ช่วยยืดผ่อนชำระหนี้บ้าน 80-85 ปี พร้อมให้ ทบทวน จ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ จาก 8% มาเหลือ 5%

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง  เผย ผลการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ว่า ในขณะนี้เศรษฐกิจยังตกต่ำ สัญญาณการฟื้นตัวเศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัว และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือ เรื่องหนี้ครัวเรือนของประชาชน ซึ่งจะเป็นหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต และหนี้ใช้จ่ายเพื่อการบริโภค 

สำหรับหนี้บ้าน ในขณะนี้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ปล่อยหนี้บ้าน ประมาณ 34 % ของหนี้ทั้งหมด โดยมีหนี้ของลูกค้า ธอส.ที่ไม่ชำระคืนได้ ประมาณ 8 หมื่นกว่าราย และทางธนาคารธอส. ได้ทำคลีนิคแก้หนี้ด้วยการพูดคุยกับลูกหนี้ และให้มีการยืดการผ่อนชำระไปจนถึงอายุ 80-85 ปี หรือ ให้มีการปรับหลักเกณณ์การคิดดอกเบี้ย ซึ่งในขณะนี้มีคนเข้ามาพูดคุยกับทางธอส.แล้ว 5 หมื่นกว่าราย 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการอยากให้นำรูปแบบการช่วยเหลือของธอส. ไปพูดคุยและขอความร่วมมือกับทางธนาคารพาณิชย์อื่นๆด้วย เพื่อไม่ให้เกิดหนี้เสีย และกลับมาเป็นลูกหนี้ที่ดีของธนาคารพาณิชย์ได้ในอนาคต ซึ่งในที่ประชุมวันนี้มีธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมอยู่ด้วย จึงฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย 

สำหรับหนี้บัตรเครดิต ปัจจุบันมีจำนวนบัตรเครดิตทั้งหมด 24 ล้านใบ เป็นหนี้เสียไปแล้ว 1.1 ล้านใบ และกำลังเป็นหนี้เสียอีก 2 แสนใบ รวมแล้ว กว่า 1.3 แสนใบ โดยมีแนวทางการช่วยเหลือผ่านทางคลีนิกแก้หนี้ เพื่อยืดระยะการผ่อนชำระให้นานขึ้น และลดอัตราดอกเบี้ย 3-5% และในขณะนี้มีบริษัทบัตรเครดิตให้ความร่วมมือ พร้อมกับฝากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ช่วยติดต่อกับบริษัทบัตรเครดิตรายใหญ่ ให้เข้าร่วมกับคลีนิกแก้หนี้ รวมถึงฝากให้ธปท.ช่วยพิจารณาทบทวนการจ่ายบัตรเครดิตขั้นต่ำ จาก 8% กลับมาอยู่ที่ 5% ซึ่งตัวแทนธปท.จะนำกลับไปพิจารณาโดยด่วน

นายพิชัย กล่าวถึง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในช่วงที่รอโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า ในระยะสั้นต้องทำให้คนทำงานฟื้นตัวได้ก่อน โดยเฉพาะคนที่ยังมีปัญหาหนี้ จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการยืดหนี้ เพื่อช่วยลดภาระ ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจค่อยๆเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ค่อยๆฟื้นตัว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น จะส่งผลให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวค่อยๆฟื้นตัวตามไปด้วย 

ทั้งนี้ นายพิชัย กล่าวว่า พื้นฐานเศรษฐกิจไทย มาจากอุตสาหกรรมภาคการส่งออกและภาคการเกษตร ซึ่งในภาคเกษตรต้องเพิ่มผลผลิตต่อไร่ รวมถึงส่งเสริมการลงทุนในประเทศ แม้จะไม่เห็นผลภายใน ครึ่งปีถึง 1 ปี แต่เป็นนิมิตหมายที่ดีที่ช่วยทำให้พัฒนาศักยภาพของแรงงานไทยด้วย 

สำหรับแนวทางการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เนื่องจากในขณะนี้คนส่วนใหญ่ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย รวมถึงมีปัญหาหนี้สินด้วยนั้น นายพิชัย กล่าวว่า ประชาชนจะจับดูสิ่งที่รัฐบาลและภาคเอกชนร่วมทำ ว่า ทำอะไรออกมา และสิ่งนั้นได้รับการปฏิบัติและมีผลงานออกมาหรือไม่ ซึ่งเชื่อว่า จะทำให้ประชาชนมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น 

นายพิชัย กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์จัดทำปฏิทินผลไม้ เพื่อจะได้รู้ว่า ผลไม้แต่ละประเภทออกช่วงไหน มีผลผลิตเยอะเกินออกมาช่วงไหน และให้ทำเป็นตารางออกมา และส่วนที่เกินออกมานั้นจะนำไปให้ที่ไหน ไปให้ผู้ค้ารายใหญ่ไทย หรือ ส่งไปที่ไหน หรือ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายอย่างไร พร้อมทั้งขอความร่วมมือกับผู้ผลิตรายใหญ่ให้ช่วยลดราคาสินค้า นอกจากรายการธงฟ้า

TAGS: #พิชัย #หนี้ครัวเรือน #ผ่อนบ้าน #ครมเศรษฐกิจ